โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

‘สนธิรัตน์’ เตรียมปลดล็อกเงื่อนไขโซลาร์ภาคประชาชน

The Bangkok Insight

อัพเดต 19 ก.ค. 2562 เวลา 13.10 น. • เผยแพร่ 19 ก.ค. 2562 เวลา 12.05 น. • The Bangkok Insight
‘สนธิรัตน์’ เตรียมปลดล็อกเงื่อนไขโซลาร์ภาคประชาชน

“สนธิรัตน์” เตรียมปลดล็อกเงื่อนไขโซลาร์ภาคประชาชน พร้อมหามาตรการเพิ่มแรงจูงใจ หลังพบคนเมินเข้าโครงการ เหตุลงทุนสูง-คืนทุนยาก

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่าวันพรุ่งนี้ (20 ก.ค.) จะมีการประชุมเวิร์กชอปกับข้าราชการระดับสูงของกระทรวงพลังงาน เพื่อวางแนวทางการทำงานร่วมกันจากนี้

สำหรับโครงการที่ตนเองต้องการปรับปรุง ก็คือ โครงการโซลาร์ภาคประชาชนที่กำหนดรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ที่ติดตั้งบนหลังคาบ้านเรือนประชาชนปีละ 100 เมกะวัตต์เป็นเวลา 10 ปี รวม 1,000 เมกะวัตต์ เพราะทราบว่าประชาชนไม่สนใจเท่าที่ควร โดยจะหารือกับปลัดกระทรวงพลังงาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหากลไกสร้างแรงจูงใจให้ประชาชนเข้าโครงการมากขึ้น และปรับปรุงกฎเกณฑ์ที่เป็นอุปสรรค เพื่อปลดล็อก โดยเฉพาะค่าลงทุนที่สูงเกินไป ทำให้ประชาชนที่ติดตั้งคืนทุนยาก หรือไม่คุ้มทุน

ส่วนโซลาร์ 9,000 เมกะวัตต์ตามแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศ (พีดีพี )ฉบับปี 2018 จะมีโครงการใดมารองรับบ้างนั้น ถือว่าเป็นโครงการใหญ่ จะต้องนำทุกภาคส่วนมาหารือกัน ทั้งภาครัฐ และเอกชนก่อน

ทั้งนี้นายสนธิรัตน์ ยืนยันว่าแนวทางการทำงาน จะมุ่งเน้นนำพลังงานไปสู่ชุมชนให้ได้  เพื่อทำให้ประชาชนมีรายได้เพิ่มขึ้น เพิ่งพาตัวเองได้โดยได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ เช่น ระบบอบแห้งพลังงานแสงอาทิตย์ เพื่อแปรรูปสินค้าเกษตรเพิ่มมูลค่า เช่น ที่กรมพัฒนาพลังานทดแทน และอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) ได้เข้าไปสนับสนุนชุมชนต่างๆ อาทิ กลุ่มแม่บ้านเกษตรกรวัยหวาน หมู่บ้านหนองเขื่อน ตำบลไร่ใหม่พัฒนา อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี ที่ช่วยให้มีรายได้มากขึ้นจากการแปรรูปกล้วยที่มีในชุมชน

“ทิศทางนโยบายพลังงานจะให้ความสำคัญกับการทำให้พลังงานเข้ามามีส่วนในการพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก ด้วยการกลไกด้านพลังงานทีมีอยู่ไปพัฒนาชุมชน โดยต้องทำให้ชุมชนมีองค์ประกอบของการสร้างรายได้ เพื่อดำรงชีวิต หรือไปชวยลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน ”

และการสนับสนุนของกระทรวงพลังงานนั้น จะรวมไปถึงการช่วยสร้างช่องทางการกระจายสินค้าท้องถิ่น โดยร่วมมือกับบริษัทปตท.น้ำมันและค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือพีทีทีโออาร์ ทำโครงการ “ไทยเด็ด” ซึ่งตนเองดำเนินการตั้งแต่ปี 2561 ครั้งที่เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ คัดสรรสินค้าชุมชนคุณภาพมาจำหน่ายในปั๊มน้ำมันปตท. โดยปตท.จะเข้ามาช่วยในการพัฒนาแบรนด์ด้วย เพื่อยกระดับสินค้าชุมชน ปัจจุบันเปิดพื้นที่ในปั๊มปตท.แล้ว 72 แห่ง

สำหรับแผนการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศนั้น นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า หลังแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ทีมเศรษฐกิจจะเร่งหารือถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในครึ่งปีหลัง ในส่วนของกระทรวงพลังงานนั้น จะมุ่งเน้นเรื่องราคาพลังงาน ทั้งน้ำมันและไฟฟ้าเพื่อหาทางลดภาระให้กับประชาชน รวมถึงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการลงทุนของรัฐวิสาหกิจในสังกัด ทั้งบริษัทปตท.จำกัด (มหาชน) และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)

ทางด้านการขึ้นค่าแรงเป็น 400 บาทนั้น ไม่ต้องการให้กังวลใจ เพราะไม่ได้ทำในปีหน้าทันทีทั้งหมด แต่ละจะทยอยดำเนินการในช่วง 4 ปีจากนี้ เน้นการสร้างผู้ประกอบการให้เข้มแข็ง และใช้แรงงานมีฝีมือ

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0