โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

‘สนธิรัตน์’ ปั้นมาตรการเร่งด่วน 3 เดือน เน้นอุดหนุนแอลพีจี-เอ็นจีวีผ่านบัตรสวัสดิการฯ

The Bangkok Insight

อัพเดต 20 ก.ค. 2562 เวลา 09.38 น. • เผยแพร่ 20 ก.ค. 2562 เวลา 07.58 น. • The Bangkok Insight
‘สนธิรัตน์’ ปั้นมาตรการเร่งด่วน 3 เดือน เน้นอุดหนุนแอลพีจี-เอ็นจีวีผ่านบัตรสวัสดิการฯ

“สนธิรัตน์” ระดมข้าราชการ-รัฐวิสาหกิจ หาข้อมูล ก่อนกำหนดทิศทางพลังงาน เดินหน้ามาตรการระยะเร่งด่วน 3 เดือน ช่วยเหลือราคาแอลพีจี-เอ็นจีวี เน้นทำต่อ แต่ให้ถูกตัว ส่งตรงผู้มีรายได้น้อยผ่านกลไกบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 

วันนี้ (20 ก.ค.62) นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นประธานประชุมระดมความคิดเห็น เพื่อกำหนดทิศทาง และนโยบายของกระทรวงพลังงาน โดยมีนายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูง ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่หน่วยงานสังกัดกระทรวงพลังงานเข้าร่วม

นายสนธิรัตน์ กล่าวภายหลังการประชุมว่า ได้เชิญผู้บริหารระดับสูง และเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องของหน่วยงานภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงพลังงานมาร่วมระดมความคิดเห็น เพื่อจะได้ใช้เป็นแนวทาง ในการกำหนดทิศทางและนโยบายของกระทรวงพลังงานต่อไป

โดยการประชุมครั้งนี้ ได้มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ในประเด็นพลังงานทั้งด้านไฟฟ้า ก๊าซธรรมชาติ น้ำมันเชื้อเพลิง พลังงานทดแทน และอนุรักษ์พลังงาน มีการหารือถึงนโยบายสำคัญที่จะต้องเร่งผลักดัน รวมถึงข้อจำกัด และอุปสรรคต่างๆ เพื่อให้การดำเนินการด้านพลังงาน เดินหน้าต่อไปอย่างต่อเนื่อง และมีประสิทธิภาพ เกิดประโยชน์ต่อประชาชน และภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศสูงสุด

สำหรับในวันนี้ได้มีการมอบหมาย ให้แต่ละหน่วยงาน ดำเนินงานทุกอย่าง โดยยึดถือประโยชน์ของประเทศเป็นที่ตั้ง คำนึงถึงจุดแข็งของประเทศไทยเป็นหลัก ส่งเสริมการแข่งขันของภาคเอกชน ตั้งแต่ระดับชุมชนที่เป็นเศรษฐกิจฐานราก โดยเน้นการเชื่อมโยงช่วยเหลือชุมชนให้มีการพัฒนาศักยภาพในการผลิตและต่อยอดสินค้าไปในตลาดที่ใหญ่ขึ้น มุ่งเน้นสนับสนุนให้ชุมชนต่อยอดอาชีพ สร้างความเข้มแข็ง และพัฒนาศักยภาพชุมชนได้อย่างยั่งยืน

ส่วนประเด็นปัญหาเรื่องข้อมูลที่ไม่ตรงกัน จะต้องมีการศึกษาอย่างจริงจังเพื่อ ให้สร้างความเชื่อถือในข้อมูลร่วมกัน และเดินไปในทิศทางเดียวกัน ดังนั้นการทำงานจะต้องบูรณาการทุกหน่วยงาน

ในเรื่องปาล์มน้ำมันนั้น จะต้องเข้ามาช่วยแก้ปัญหา เพราะส่งออกได้น้อยมาก ทำให้น้ำมันปาล์มดิบ (ซีพีโอ) ล้น 4-5 แสนตัน จึงต้องมีการบริหารจัดการกำลังผลิตและการใช้ใหม่ หลักการจะต้องนำมาใช้เป็นเชื้อเพลิง

อย่างไรก็ตามในวันที่ 22 กรกฎาคมนี้ จะมีการหารืออีกครั้ง เพื่อสรุปแนวทางการทำงานระยะเร่งด่วนไม่เกิน 3 เดือนที่จะต้องทำเลย อาทิ การช่วยเหลือเรื่องราคาพลังงานผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ รวมถึงการวางนโยบายระยะ 1 ปี และ 4 ปี  โดยจะบอกถึงรายละเอียดของแผนทั้งหมดอีกครั้งหลังแถลงนโยบายต่อรัฐสภา

“การลดภาระให้กับประชาชนทางด้านพลังงาน และสนับสนุนให้ประชาชนพึ่งพาตัวเองด้านพลังงาน เช่น นำก๊าซชีวภาพมาใช้ในครัวเรือน เป็นเรื่องที่เราจะให้ความสำคัญ ”

สำหรับนโยบาย 12 ด้านที่จะแถลงต่อรัฐสภานั้น ราคาพลังงานเป็นหนึ่งในเรื่องที่เราจะทำ ทั้งก๊าซปิโตรเลียมเหลว (แอลพีจี) และก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ (เอ็นจีวี) เพื่อลดภาระให้กับผู้มีรายได้น้อย โดยจะมีการทบทวนมาตรการเดิม เดินหน้าช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย ลดภาระค่าใช้จ่าย และสร้างความเข้มแข็งผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ซึ่งเราจะไม่ได้มุ่งเน้นการให้ แต่มุ่งเน้นการช่วยเหลือ ซึ่งที่ผ่านมา บัตรนี้ทำให้ผู้มีรายได้ต่ำกว่า 30,000 บาทต่อปีมีรายได้มากขึ้นเป็นล้านๆรายแล้วแต่ไม่มีใครรู้   “เราจะให้ต่อ ให้ถูกตัว ให้แล้วไปพัฒนาสร้างความเข้มแข็งต่อไป ” 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การหารือครั้งนี้แต่ละหน่วยงานได้นำเสนอข้อมูลต่างๆให้นายสนธิรัตน์ รับทราบ โดยกลุ่มปตท.ได้นำเสนอภาระของการอุดหนุนราคาพลังงานทั้งแอลพีจี และเอ็นจีวี นอกจากนี้ ยังได้มีการหารือถึงแนวทางการส่งเสริมดีเซล บี 10 และบี 20

โดยกระทรวงพลังงานย้ำว่า การส่งเสริมบี 20 ให้เป็นมาตรฐานแทนบี 7 ในปัจจุบัน อาจจะมีปัญหาเรื่องวัตถุดิบไม่เพียงพอ แต่ต้องขยับเป็นดีเซลบี 10 ก่อน สำหรับแนวทางช่วยเหลือราคาพลังงานของนายสนธิรัตน์นั้น จะอุดหนุนราคาพลังงานต่อไปทั้งแอลพีจีและเอ็นจีวี แต่จะทำผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเป็นหลัก เพื่อให้ไปถึงผู้มีรายได้น้อย

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0