‘ศึกภาษีศุลกากร’ กระทบน้อยต่อเศรษฐกิจมะกันโดยรวม แต่ผู้บริโภคสหรัฐฯจะเจ็บหนัก

(เก็บความจากเอเชียไทมส์ www.atimes.com)

Tariff impact may be modest, but consumers will be hit hardest: Barclays

By Asia Times staff

19/09/2018

ทีมนักเศรษฐศาสตร์ของบาร์เคลย์ส วาณิชธนกิจรายใหญ่สัญชาติอังกฤษชี้ว่า นโยบายแบบลัทธิกีดกันการค้าของคณะบริหารทรัมป์ จะนำไปสู่อัตราการเติบโตของจีดีพีที่ลดลงอย่างถาวร รวมทั้งส่งผลให้อัตราการจ้างงานต่ำลงด้วย

ขณะที่พวกเจ้าหน้าที่ในคณะบริหารทรัมป์ยังคงพากันเสนอแนะว่า จีนจะถูกบังคับให้ต้องยอมทำข้อตกลงด้านการค้ากับสหรัฐฯในเวลาอีกไม่ช้าไม่นานนี้ สืบเนื่องจากเศรษฐกิจแดนมังกรนั้น “อ่อนแอ” แต่สัญญาณหลายๆ ประการซึ่งกำลังชี้ให้เห็นว่าพวกนโยบายแบบลัทธิกีดกันการค้าจะยังคงดำรงคงอยู่ไปอีกนานจนควรต้องถือเป็น “ความเป็นปกติอย่างใหม่” (new normal) ได้แล้วนั้น ก็กำลังเร่งรัดให้พวกนักเศรษฐศาสตร์ต้องพิจารณาถึงผลกระทบของเรื่องนี้ในระยะยาว

ในรายงานการวิจัยที่ส่งถึงลูกค้าเมื่อเร็วๆ นี้ บาร์เคลย์ส กิจการวาณิชธนกิจรายใหญ่สัญชาติอังกฤษ ได้แก้ไขการคาดหมายต่างๆ ในเรื่องที่ว่าความตึงเครียดทางการค้าสหรัฐฯ-จีนจะมีผลกระทบอะไรกันบ้าง ภายหลังจากที่มีข้อมูลใหม่ล่าสุดในเรื่องที่สหรัฐฯขึ้นภาษีเอากับสินค้าเข้าของจีนอีกระลอกหนึ่งมูลค่าสูงถึง 200,000 ล้านดอลลาร์ และจีนก็ตอบโต้ด้วยการเอาคืนจากสินค้าเข้าของอเมริกามูลค่า 60,000 ล้านดอลลาร์

ข้อมูลใหม่เช่นนี้ทำให้ต้องปรับฉากทัศน์ (scenario) พื้นฐานกันเสียใหม่ ด้วยการตั้งสมมุติฐานว่า สถานการณ์จะยิ่งเลวร้ายลงไปอีกก่อนที่จะกลับกระเตื้องดีขึ้น และนโยบายด้านภาษีศุลกากรของคณะบริหารทรัมป์จะนำไปสู่ปริมาณการค้าที่ลดต่ำลง รวมทั้งมีการสูญเสียรายรับกันอย่างถาวร

ขณะที่ผลกระทบโดยรวมซึ่งมีต่อเศรษฐกิจของสหรัฐฯ น่าจะยังอยู่ในระดับแค่พอประมาณ แต่ความเสียหายที่พวกผู้บริโภคอเมริกันจะได้รับน่าจะหนักหนาใหญ่โตกว่าความเสียหายของเศรษฐกิจภาพใหญ่หลายเท่าตัวทีเดียว

“เราประมาณการว่าความสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นแก่พวกผู้บริโภคสหรัฐฯจะอยู่ที่ราวๆ เท่ากับ 0.6% ของจีดีพี โดยที่มีเพียงบางส่วนของความสูญเสียนี้เท่านั้นซึ่งมีการถ่ายโอนเข้าสู่ภาครัฐบาลและภาคบริษัทในรูปของรายรับจากพิกัดอัตราศุลกากรและในรูปของความสามารถในการทำกำไร” รายงานฉบับนี้ของบาร์เคลย์ส ระบุ

สงครามการค้าคราวนี้ยังอาจจะทำให้อัตราการเติบโตของการจ้างงานในสหรัฐฯลดต่ำลงอีกด้วย

“ลัทธิกีดกันการค้ายังอาจจะเกี่ยวก้อยมากับอัตราการจ้างงานที่ลดต่ำลง เนื่องจากตำแหน่งงานซึ่งเพิ่มขึ้นในบรรดาอุตสาหกรรมที่ได้รับการปกป้องคุ้มครอง จะถูกลบหายด้วยตำแหน่งงานที่สูญเสียไปในอุตสาหกรรมอื่นๆ การลดต่ำลงของจีดีพีสหรัฐฯทุก 0.2% จะเท่ากับการสูญเสียตำแหน่งงานประมาณ 250,000 ตำแหน่ง และเราประมาณการว่าการลดลงในจีดีพีของจีนทุกๆ 0.4% อาจก่อให้เกิดความสูญเสียทำนองเดียวกันในการจ้างงานในเขตเมือง” ทีมนักเศรษฐศาสตร์ของบาร์เคลย์ส เขียนเอาไว้เช่นนี้