นายกรัฐมนตรีมหาธีร์ โมฮัมหมัด ของมาเลเซียปกป้องคำสั่งแบนนักกีฬาอิสราเอลของมาเลเซีย โดยเปรียบเทียบว่าเหมือนกับแผนของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ต้องการสร้างกำแพงบริเวณชายแดนสหรัฐฯ-เม็กซิโก
มาเลเซียสร้างปมพิพาทกับอิสราเอลหลังมาเลเซียระบุว่า จะไม่อนุญาตให้นักว่ายน้ำอิสราเอลลงแข่งในรายการแข่งขันที่จะมีขึ้นในปีนี้ ซึ่งเป็นการแข่งขันที่จะคัดเลือกนักกีฬาสำหรับกีฬาพาราลิมปิกที่กรุงโตเกียวของญี่ปุ่น โดยมหาธีร์กล่าวระหว่างการแถลงข่าวที่กรุงเวียนนาเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาว่า ทุกประเทศมีสิทธิที่ยอมรับหรือปฏิเสธการเข้าประเทศของใครก็ตาม โดยบอกว่าตอนนี้ในอเมริกามีการสร้างกำแพงสูงเพื่อป้องกันไม่ให้ชาวเม็กซิโกเข้ามาในอเมริกา ซึ่งมาเลเซียก็มีแนวคิดเดียวกันที่บุคคลซึ่งไม่เป็นที่ต้องการสำหรับประเทศมาเลเซียจะถูกกันออกจากประเทศ
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว อิสราเอลระบุว่าการตัดสินใจของมหาธีร์มีแรงจูงใจมาจาก “การต่อต้านชาวยิวอย่างบ้าคลั่ง” ในตัวมหาธีร์ ซึ่งในอดีตมหาธีร์ก็เคยถูกวิจารณ์จากใช้คำพูดโจมตีชาวยิว โดยเมื่อสัปดาห์ที่แล้วมหาธีรืได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาที่ระบุว่าเขาต่อต้านยิว โดยยืนยันว่าตัวเองมีสิทธิที่จะบอกว่าพวกเขาได้ทำสิ่งที่ผิดมากมาย พร้อมตั้งคำถามกลับว่าทำไมถึงไม่สามารถพูดอะไรก็ตามที่ต่อต้านอิสราเอลหรือชาวยิวได้ ขณะที่เมื่อวันอังคาร มหาธีร์ได้ระบุว่าอิสราเอลเป็นประเทศอาชญากรและหากชาวอิสราเอลต้องการแข่งขันกีฬาก็สามารถไปแข่งที่ประเทศอื่น
อิสราเอลได้ขอให้คณะกรรมการพาราลิมปิกสากลคัดค้านการตัดสินใจนี้ หรือเปลี่ยนสถานที่แข่งขัน ขณะที่รัฐบาลมาเลเซียซึ่งไม่มีความสัมพันธ์ทางการทูตอย่างเป็นทางการกับอิสราเอล ได้ปฏิเสธคำร้องขอของคณะกรรมการพาราลิมปิกสากลในการหาทางออกให้กับข้อพิพาทนี้
มาเลเซียเคยปฏิเสธไม่ให้นักกีฬาอิสราเอลเข้าร่วมรายการแข่งขันกีฬามาแล้วก่อนหน้านี้ โดยมีนักกีฬาวินด์เซิร์ฟอิสราเอล 2 คน ที่ต้องถอนตัวออกจากการแข่งขันบนเกาะลังกาวี หลังจากที่ถูกปฏิเสธวีซ่าในปี 2558
