บิล เกตส์ ผู้ร่วมก่อตั้งไมโครซอฟท์ รำลึกความหลังในการทำงาน ระบุเป็น “ความผิดพลาดครั้งใหญ่สุด” ที่ไมโครซอฟท์ล้มเหลว ไม่สามารถผงาดขึ้นมาเป็นคู่แข่งระบบปฏิบัติการ “ไอโอเอส” ของแอปเปิ้ลได้
ระหว่างการให้สัมภาษณ์กับวิลเลจ โกลบอล บริษัทด้านการลงทุนในเงินทุนเมื่อเร็วๆ นี้ เกตส์ บอกว่า ในโลกของซอฟต์แวร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับแพลตฟอร์มต่างๆ จะเป็นเรื่องที่ผู้ชนะเป็นผู้คุมตลาดทั้งหมด
“ดังนั้น ความผิดพลาดครั้งใหญ่สุดเท่าที่ผมเคยทำมา คือ การบริหารจัดการที่ผิดพลาดจนทำให้ไมโครซอฟท์ไม่ได้เป็นในแบบที่แอนดรอยด์เป็น แอนดรอยด์เป็นแพลตฟอร์มมาตรฐานสำหรับโทรศัพท์ที่ไม่ได้มาจากค่ายแอปเปิ้ล ซึ่งที่จริงแล้ว ยังมีพื้นที่สำหรับระบบปฏิบัติการที่ไม่ใช่ของแอปเปิ้ลอยู่อีก”
นับเป็นเวลานานหลายปีแล้ว ที่ไมโครซอฟท์รั้งตำแหน่งผู้นำในอุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์โลก และสามารถเอาชนะแอปเปิ้ลในด้านนี้ไปได้ แต่กลับต้องเผชิญกับความล้มเหลว จากการที่กระโดดเข้าร่วมยุคสมาร์ทโฟนได้ไม่เร็วพอ
เมื่อปี 2543 ไมโครซอฟท์เปิดระบบปฏิบัติการบนมือถือของบริษัท ที่ใช้ชื่อว่า วินโดวส์ โมบายล์ ขณะที่แอปเปิ้ลเปิดตัวไอโฟนในปี 2550 ตามด้วยแพลตฟอร์มแอนดรอยด์ของกูเกิลในปี 2551 ซึ่งแม้ไมโครซอฟท์จะมีระบบปฏิบัติการบนมือถือก่อนใคร แต่ก็ตกไปอยู่ล้าหลังแอปเปิ้ล กับกูเกิลอย่างรวดเร็ว
ในการให้สัมภาษณ์ที่อิโคโนมิค คลับ ในกรุงวอชิงตันดีซีนั้น เกตส์บอกด้วยว่า การโดนสอบสวนในเรื่องการผูกขาดตลาดนั้น ทำให้เขาไขว้เขวไปพักใหญ่ ทั้งไมโครซอฟท์ก็ล้มเหลว ในการมอบหมายงานด้านมือถือให้พนักงานทำ
“เรารู้ว่า โทรศัพท์มือถือจะได้รับความนิยมอย่างมาก ดังนั้นเราเลยทำในสิ่งที่เรียกว่า วินโดวส์ โมบาย เราพลาดการเป็นผู้นำในระบบปฏิบัติการที่โดดเด่น เพราะมีสินค้าเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เรายังถูกทำให้ไขว้เขวไป ในช่วงที่เราโดนตรวจสอบเกี่ยวกับการผูกขาดกิจการ เราไม่ได้มอบหมายให้มือดีที่สุดของเราไปทำงาน ดังนั้น เรื่องนี้จึงเป็นเรื่องทีผมทำผิดพลาดครั้งใหญ่สุด ในแง่ของสิ่งที่เราเห็นชัดๆ อยู่ในสายตาอยู่แล้ว เห็นได้ชัดเจนเลยว่า เราควรเป็นบริษัทที่ประสบความสำเร็จในเรื่องนี้ แต่เราก็ทำไม่ได้ ”
เกตส์ เปิดเผยด้วยว่า การก้าวย่างที่ผิดพลาดนั้น ทำให้บริษัทต้องสูญเงินที่น่าจะได้ไปหลายพันล้านดอลลาร์ และสุดท้ายเม็ดเงินเหล่านี้ก็ไปลงเอยอยู่กับกูเกิล
ข้อมูลจากสตาติสดา แสดงให้เห็นว่า แอนดรอยด์เป็นแพลตฟอร์มสมาร์ทโฟน ที่ได้รับความนิยมมากสุดในสหรัฐ ทั้งในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2561 นั้น สมาร์ทโฟนที่จำหน่ายทั่วโลกมากกว่า 85% ทำงานด้วยระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ของกูเกิล
“สินทรัพย์อื่นๆ ของเรา อย่าง วินโดวส์ และออฟฟิศ ยังแข็งแกร่งอยู่ ดังนั้นเราก็ยังเป็นบริษัทชั้นนำ และถ้าเรายิ่งได้แพลตฟอร๋มมือถือมา เราก็จะยิ่งเป็นผู้นำ”
แต่เรื่องดังกล่าว ไม่ได้เป็นเรื่องเดียวที่ทำให้เกตส์รู้สึกเสียใจ โดยในปี 2560 เขาเคยออกมาขอโทษต่อเรื่องการกำหนดระบบกดปุ่มแป้นพิมพ์ Control-Alt-Delete เพื่อเข้าสู่วินโดวส์ คอมพิวเตอร์ โดยที่ไม่ได้ใช้เพียงปุ่มเดียวเท่านั้น
ที่ผ่านมา ไมโครซอฟท์ก็เคยเผชิญกับก้าวพลาดในเรื่องอื่นเช่นกัน รวมถึง วินโดวส์ วิสต้า ซึ่งเป็นเวอร์ชั่นหนึ่งของวินโดวส์ที่มีคนไม่ชอบมากที่สุด และ วินโดวส์ มี ที่เจอกับเสียงวิจารณ์อย่างหนัก
ที่มา : CNN
