นายจิติพล พฤกษาเมธานันท์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้ที่ระดับ 31.51 บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นจากช่วงสิ้นวันทำการก่อนที่ระดับ 31.62 บาทต่อดอลลาร์
ในคืนที่ผ่านมา ตลาดหุ้นทั่วโลกผันผวน นักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจโลกชะลอตัว ส่งผลให้ดัชนี S&P500 ในสหรัฐปรับตัวลดลง 0.08% ฝั่งยุโรป ดัชนี STOXX50 ปรับตัวลง 0.15% และดัชนี FTSE100 ของอังกฤษปรับตัวลดลง 0.42% โดยมีแรงกดดันจากสถานการณ์ Brexit ที่มีความไม่แน่นอนมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเล็กน้อย 0.09% เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ตามแนวโน้มบอนด์ยีลด์สหรัฐอายุ 10 ปี ซึ่งปรับตัวลงต่อเนื่องไปที่ระดับ 2.41% ต่ำกว่าขอบบนของดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐที่ 2.50% และต่ำที่สุดนับตั้งแต่มี.ค.2018 ซึ่งเกิดขึ้นเพราะนโยบายการเงินสหรัฐมีทิศทางผ่อนคลายมากขึ้น ขณะที่ตลาดกลัวแนวโน้มเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงอย่างมาก
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจ สถาบัน Ifo รายงานว่า ดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจของเยอรมันเดือนล่าสุดปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 99.6 จุด ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นของความเชื่อมั่นภาคธุรกิจครั้งแรกในรอบ 7เดือน แต่ภาพดังกล่าวก็สวนทางกับฝั่งสหรัฐ ที่เฟดสาขาดัลลัส ระบุว่าดัชนีกิจกรรมทางธุรกิจทั่วไปในเดือนมีนาคม ร่วงลงแตะที่ระดับ 8.3 จุด ชี้ว่าภาคธุรกิจสหรัฐไม่ฟื้นตัว
ในวันนี้ คาดว่า ความกังวลแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯชะลอตัว จะส่งผลให้ดัชนีความเชื่อมั่นเศรษฐกิจจากสถาบัน Conference Board ปรับตัวลดลงต่อสู่ระดับ 130จุด ซึ่งมุมมองที่เป็น "ลบมากขึ้น" ต่อภาพรวมเศรษฐกิจจะกดดันบรรยากาศการลงทุนทั่วโลก
สำหรับเงินบาท แม้ในระยะสั้นผู้ค้าในตลาดจะมีความกังวลกับผลการเลือกตั้ง ที่ล่าสุดยังมีความสับสน และอาจไม่สามารถหาข้อสรุปได้ในเร็ววันนี้ แต่ตลาดการเงินทั่วโลกก็อยู่ในโหมดระมัดระวัง จึงมีกระแสเงินทุนไหลเข้ามาพักในเงินบาทที่มีความ "ผันผวนต่ำ" แทนที่ประเทศอื่นๆในตลาดเกิดใหม่ที่มีความผันผวนสูง สำหรับวันนี้มองว่ากระแสการส่งเงินกลับสิ้นปีปฏิทินของกลุ่มผู้ประกอบการต่างประเทศจะช่วยดึงให้เงินบาทอ่อนค่าลงได้บ้างระหว่างวัน
มองกรอบค่าเงินบาทวันนี้ 31.50 - 31.60 บาทต่อดอลลาร์
