โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

กีฬา

‘บังยี’ โต้โดนตัดสิทธิชิงนายกบอลไทยไม่เป็นธรรม แฉกลับ ‘บิ๊กอ๊อด’ ลุยฟ้อง ‘กกท.-เอเอฟซี-ฟีฟ่า’

MATICHON ONLINE

อัพเดต 21 ม.ค. 2563 เวลา 06.26 น. • เผยแพร่ 21 ม.ค. 2563 เวลา 06.26 น.
125DCEB0-4952-41C6-AE51-90FB4A0E7511

“บังยี” นายวรวีร์ มะกูดี อดีตนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ตั้งโต๊ะแถลงข่าวกรณีถูกตัดสิทธิการสมัครลงชิงตำแหน่งนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ หลังจากขาดคุณสมบัติ ที่โรงแรมโกลเด้น ทิวลิป ซอฟเฟอรีน พระรามเก้า เมื่อวันที่ 21 มกราคม

นายวรวีร์ กล่าวว่า ดีใจที่ได้กลับมาอีกครั้งหลังจากห่างหายไปกว่า 4 ปี ซึ่งสาเหตุที่กลับมา เพราะว่าต้องการกอบกู้วงการฟุตบอลที่ปัจจุบันสถานการณ์ตกต่ำ โดยเฉพาะลีกอาชีพระดับภูมิภาค และทีมชาติไทยทุกรุ่นอายุที่ไม่ประสบความสำเร็จ

บังยี กล่าวว่า ส่วนกรณีที่โดนสำนักเลขาธิการ สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ แจ้งมาว่าขาดคุณสมบัติในการสมัครลงชิงตำแหน่งนายกสมาคมฯ นั้น ขอชี้แจงว่า ข้อบังคับที่ระบุว่า ห้ามผู้ที่ถูกสมาคมฯฟ้องลงสมัคร แต่ข้อนี้ขัดกับ พ.ร.บ.กีฬา ที่ระบุว่า คดีต้องถึงที่สุดก่อน และคดีของตนเองก็ยังไม่ถึงที่สุด อีกข้อเรื่องที่โดนฟีฟ่าลงโทษนั้น ศาลกีฬาโลกได้ตัดสินพิพากษาให้พ้นโทษแบน และเป็นผู้บริสุทธิ์แล้ว

“การตัดสิทธิผมจาก 2 ข้อนี้ไม่เป็นธรรม ผมจึงร้องไปยัง ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ซึ่งท่านก็รับเรื่อง และจะรีบดำเนินการให้ รวมทั้งยื่นฟ้องให้ตัดสิทธิ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ลงสมัครชิงตำแหน่งเช่นกัน เนื่องจากทำความเสียหายให้กับสมาคมฯ จากคำพิพากษาของศาลทรัพย์สินทางปัญหาให้จ่ายเงินชดใช้ให้กับ บริษัท สยามสปอร์ต 50 ล้านบาท ซึ่งผิดข้อบังคับชัดเจน”

บังยีกล่าวอีกว่า สำหรับคนพิจารณาในการตัดสิทธิตนนั้นเป็นเลขาธิการสมาคมฯ ซึ่งถูกแต่งตั้งโดยคณะกรรมการบริหารสมาคมฯ ซึ่งมองว่าไม่เป็นธรรม โดยเมื่อวันที่ 17 มกราคมที่ผ่านมา ได้ไปยื่นฟ้องต่อเอเอฟซี เรื่องทุจริตที่เกิดขึ้นในสมาคมฯ แล้วด้วย ทั้งเรื่องการทุจริตประมูลสิทธิประโยชน์กับ บริษัท แพลนบี ที่ไม่ได้มีการวางหนังสือค้ำประกันรายได้จำนวน 510 ล้านบาทต่อปี ซึ่งเรื่องนี้จะดำเนินการฟ้องร้องต่อศาลไทยด้วย

ส่วนกรณีที่สมาคมกีฬาฟุตบอลฯเตรียมฟ้องกรณีที่นายวรวีร์ละเลยหน้าที่ในการจ่ายภาษีสมัยดำรงตำแหน่งนายกสมาคมฯจนมีเบี้ยปรับกว่า 27 ล้านบาทนั้น นายวรวีร์ กล่าวว่า สมัยก่อนตนหารายได้จากสิทธิประโยชน์ และสปอนเซอร์ได้มหาศาล ซึ่งเมื่อมีรายได้ก็จะมีรายจ่าย และภาษี เป็นเรื่องปกติ โดยตรงนี้ตนได้ทิ้งมรดกไว้มากมาย และคิดว่าไม่น่าเป็นเรื่องเสียหายอะไร

นอกจากนี้ บังยี กล่าวเพิ่มเติมว่า ทาง พล.ต.อ.สมยศ เคยบอกไว้ก่อนเลือกตั้งครั้งก่อนว่าจะให้เงินสนับสนุนทีมระดับภูมิภาค แต่ก็ผิดสัญญา จนผ่านมา 4 ปีจนถึงตอนนี้เพิ่งนำเงินมาแจกจ่ายรวม 1 ล้านบาทต่อทีม ซึ่งทำไมถึงมาให้ตอนช่วงใกล้เลือกตั้ง นอกจากนี้ ยังมีเงินจากฟีฟ่าที่ให้เป็นเงินเดือนของเลขาธิการสมาคมฯ ทำงานเต็มเวลา 50,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อปี หรือประมาณ 1.5 ล้านบาท แต่นายกรวีร์ ปริศนานันทกุล เป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ด้วย ทำให้ถือว่าไม่ได้ทำงานเต็มเวลา และผิดจริยธรรมร้ายแรงเกี่ยวกับการคอร์รัปชั่นเงินจากฟีฟ่า ซึ่งตนจะร้องเรียนไปยังเอเอฟซี และฟีฟ่าต่อไป

“โดยสรุปผมได้ร้องเรียนไปยังเอเอฟซี และ กกท.ถึงความไม่ชอบมาพากลต่างๆ เกี่ยวกับการเลือกตั้งครั้งนี้ที่ไม่มีคณะกรรมการการเลือกตั้งขึ้นมา แต่มีสำนักเลขาธิการที่ถูกแต่งตั้งมาโดยคณะกรรมการบริหารสมาคมฯ ของ พล.ต.อ.สมยศ” นายวรวีร์กล่าว

นอกจากนี้ นายบารมี สอนรักษ์ บุตรชายคนที่ 2 ของ พล.ต.จิตร สอนรักษ์ ได้ยื่นหนังสือทาบทามนายวรวีร์ให้เป็นที่ปรึกษาการจัดตั้ง “ดรีมทีมลีก” เพื่อให้สโมสรสมาชิกถอดถอนรายชื่อจากสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ มาจัดตั้งลีกใหม่ เพื่อดูแลผลประโยชน์กันเอง และเรื่อง “นิวดรีมทีม บาย ซิโก้” ที่มีนายเกียรติศักดิ์ เสนาเมือง เป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอนต่อไป

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0