โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

‘นอนไม่พอ’ฉุดเศรษฐกิจ วิกฤติ‘สุขภาพ’คนเอเชีย

กรุงเทพธุรกิจ

เผยแพร่ 18 ก.ย 2562 เวลา 04.00 น.

"สจ๊วต เอ สเปนเซอร์" ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด กลุ่มบริษัทเอไอเอ หรือ AIA Group เปิดเผยผลการวิจัยเกี่ยวกับการนอนหลับที่ได้จากการสำรวจในประเทศจีน ฮ่องกง ไทย สิงคโปร์ และมาเลเซียว่า มากกว่าครึ่งหนึ่งของผู้ตอบแบบสอบถาม (55%) ระบุว่านอกหลับเพียงคืนละ 6 ชั่วโมงหรือน้อยกว่านั้น(คืนละ 7-9 ชั่วโมงเป็นจำนวนชั่วโมงการนอนหลับที่ดีที่สุดสำหรับผู้ใหญ่)

ขณะที่ผู้ตอบแบบสอบถาม69%รู้สึกไม่พอใจกับจำนวนชั่วโมงการนอนของตัวเอง อีก 62% กังวลว่าจะนอนหลับไม่เพียงพอ หรือต้องการมีเวลานอนมากขึ้น ส่วน 30%รู้สึกไม่พอใจในคุณภาพการนอนหลับของตัวเอง และ 62%เห็นด้วยว่าการนอนหลับเพิ่มอีก "หนึ่งชั่วโมง"จะช่วยให้อารมณ์ดีขึ้นและกระปรี้กระเปร่าขึ้น

ขณะเดียวกันจากการศึกษายังพบว่าการนอนหลับอย่างไม่เพียงพอเป็นปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรงและทวีความรุนแรงมากขึ้นในเอเชีย โดยเฉลี่ยแล้วคนเอเชียนอนน้อยกว่าภูมิภาคอื่นๆทั่วโลกและที่เลวร้ายกว่านั้น คนในเอเชียกว่า10%มีอาการป่วยที่เกี่ยวเนื่องกับการนอนหลับรวมถึงยังพบว่าคน70%ของไทย และ76% ของประเทศในแถบเอเชียแปซิฟิกเป็นคนรวยขึ้น แต่ไม่มีสุขภาพที่ดีซึ่งเป็นวิกฤติสุขภาพในภูมิภาคเอเชีย และมีโอกาสทำให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ(จีดีพี) ของประเทศลดลงได้

ดังนั้น บริษัทจึงต้องการกระตุ้นให้ผู้คนเปลี่ยนพฤติกรรมให้นอนหลับเพิ่มขึ้นอีกวันละ 1 ชั่วโมงและมีคุณภาพมากขึ้น จึงได้เปิดตัวโครงการ"#OneMoreHour"ที่ออกแบบมาเพื่อจัดการกับปัญหาการนอนหลับไม่เพียงพอ พร้อมกับปรับแอพพลิเคชันเอไอเอ ไวทัลลิตี้เร็วๆนี้ เพื่อส่งเสริมและให้รางวัลแก่ผู้ที่มีนิสัยการนอนที่ดีต่อสุขภาพ

โดยจะกระตุ้นให้ผู้คนปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการนอน ผ่านแบบประเมินการนอนหลับและการเก็บคะแนนจากการนอนหลับในแอพพลิเคชั่น เอไอเอ ไวทัลลิตี้ ที่เชื่อมต่อกับเครื่องมือติดตามการนอนหลับ (Sleep Tracker)

นอกจากนี้ บริษัทยังได้สร้างศูนย์ข้อมูลการนอนหลับ(sleep content hub) ที่ประกอบด้วยข้อมูลเชิงลึกมากมายเกี่ยวกับวิธีการปรับเปลี่ยนการนอนให้ดีขึ้น โดยมีทั้งบทความ และวีดีโอ รวมทั้งเคล็ดลับจาก"เดวิด เบคแฮม"แบรนด์แอมบาสเดอร์ของกลุ่มบริษัทเอไอเอ และจากพันธมิตรอื่นๆ เช่น สโมสรท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ และเชฟชื่อดังจากประเทศอังกฤษ" เจอเรมี แปง"อีกด้วย

สำหรับโครงการนี้ ตั้งเป้าหมายดูแลลูกค้าเอไอเอทั่วโลกในระยะยาว และป้องกันผลกระทบต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจในอนาคต ปัจจุบันมีมากกว่า34 ล้านคน ใน18ประเทศ และเป็นสมาชิกกรมธรรม์ประกันกลุ่มมากกว่า 16 ล้านคน

ขณะที่"โครงการไวทัลลิตี้"ใน11ประเทศ ปัจจุบันได้รับความนิยมอย่างมากใน 6 ประเทศ ได้แก่ ออสเตรเลีย ไทย มาเลเซีย ฮ่องกง ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ โดยพบว่า ลูกค้ามีการซื้อประกันและต่อสัญญาเพิ่มมากขึ้น ขณะที่ตัวแทนของบริษัทก็มีความสุขในการขายประกันและขายเบี้ยประกันได้เพิ่มขึ้น

นอกจากนี้ จากกลุ่มสำรวจลูกค้าใช้งานเอไอเอไวทัลลิตี้จำนวน 3,000คน พบว่ามีระดับพัฒนาการด้านสุขภาพที่ดีขึ้น โดย75% มีระดับน้ำตาลในเลือดลดลงและ39% มีระดับไขมันเลว LDL ลดลง

ด้าน"ไมเคิล ฉี"ผู้เชี่ยวชาญด้านการนอนหลับ Duke -NUS Medical School ประเทศสิงค์โปร์ เปิดเผยว่า จากการร่วมศึกษากับเอไอเอในโครงการนี้ พบว่าระยะเวลาการนอนที่เหมาะสม สำหรับเด็ ควรนอน 8-19 ชั่วโมง, ผู้ใหญ่ 7-9 ชั่วโมง และผู้สูงอายุควรนอน 6 ชั่วโมงขึ้นไป

ทั้งนี้ การนอนหลับอย่างเพียงพอ เป็นประโยชน์ต่อทั้งทางร่างกายและจิตใจ เช่น ลดโอกาสในการเกิดโรคเรื้อรังที่ต้องรักษาอย่างต่อเนื่อง อาทิ โรคหัวใจ มะเร็ง เบาหวาน เป็นต้น อีกทั้งยังเพิ่มความสามารถในการควบคุมน้ำหนัก มีระบบภูมิคุมคุ้มกันที่แข็งแรงมากขึ้น ทำให้อารมณ์ดี และเพิ่มระดับพลังงาน ทำให้ร่างกายกระปรี้กระเปร่ามากขึ้น ลดความตึงเครียดและวิตกกังวล

อีกทั้ง จากการศึกษาวิจัยผลกระทบของการนอนหลับไม่เพียงพอ ยังพบอีกว่าการนอนหลับไม่เพียงพอมีผลกระทบต่อจีดีพีที่ลดลง เนื่องจากการนอนหลับไม่เพียงพอ ทำให้เกิดโรคเรื้อรัง ต้องจ่ายเงินค่ารักษาพยาบาล ทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานเสื่อมถอย เพราะคนต้องขาดงาน (Absenteeism) หรือ ถึงจะตัวจะมาทำงาน แต่ก็ทำงานได้ไม่มีประสิทธิภาพอย่างเต็มที่ (Presenteeism) เพราะไม่มีพลังมากพอที่จะทำงานได้เท่าที่ควร

โดยการทำวิจัยของ RAND CORPORATION ที่ได้วิจัยในประเทศในกลุ่มโออีซีดี( OECD) 5 ประเทศ เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา พบว่า การนอนหลับอย่างไม่พอเพียง ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจจำนวนมาก และถึงแม้ว่าการวิจัยดังกล่าว จะไม่ได้ครอบคลุมประเทศในเอเชีย แต่เขาก็เชื่อว่าประเทศกลุ่ม OECD เป็นประเทศที่มีแนวโน้มคุณภาพการนอนดีกว่าประเทศในแถบเอเชีย

ดังนั้น ผลกระทบเชิงลบจากการนอนหลับไม่เพียงพอของคนในประเทศกลุ่มเอเชีย น่าจะแย่กว่าประเทศในกลุ่ม OECD แน่นอน

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0