โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

‘ท็อป บัวทอง’ แฉนาทีขึ้นคร่อม ขืนใจสาว19 แม่ยื่น 1.4 แสน แต่วืดประกัน

Khaosod

อัพเดต 18 ต.ค. 2561 เวลา 01.51 น. • เผยแพร่ 17 ต.ค. 2561 เวลา 11.00 น.
Un589titled-1

จับหนุ่มหื่น ศาลอนุญาตฝากขัง “ท็อป บัวทอง” แช็ตลวงสาว 19 ข่มขืน-ชิงทรัพย์ แฉนาทีบังคับให้สาวถอดกางเกงก่อนขึ้นคร่อม แม่ยื่นเงินสด 1.4 แสนขอประกัน รอลุ้นผล

จับหนุ่มหื่น / เมื่อวันที่ 17 ต.ค. ที่ศาลจังหวัดตลิ่งชัน ถ.สวนผัก พนักงานสอบสวน สน.ตลิ่งชัน เจ้าหน้าที่ควบคุมตัว นายศาสฑฎา หรือ ท็อป บัวทอง อายุ 28 ปี ภูมิลำเนา กทม. ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดตลิ่งชันที่ จ.501/2561 ลงวันที่ 12 ต.ค.61 คดีแช็ตลวงสาวอายุ 19 ปี ข่มขืนและใช้กำลังประทุษร้ายชิงทรัพย์ มายื่นคำร้องฝากขังครั้งแรกเป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 17-28 ต.ค.นี้ เนื่องจากการสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น ต้องสอบปากคำพยานอีก 6 ปาก และรอผลตรวจสอบประวัติผู้ต้องหาจากกองทะเบียนประวัติอาชญากร อ่านข่าว “ไอ้ท็อป บัวทอง” ลวงลูกเซียนพระดังขืนใจ ปัดทุกข้อหา! ญาติโผล่อ้างสมยอม

โดยคำร้องระบุพฤติการณ์ สรุปว่าก่อนเกิดเหตุสาวผู้กล่าวหารู้จักกับผู้ต้องหาทางเฟซบุ๊กโดยใช้ชื่อ “พิกะจู้ ปล่อยแสง (ยังคงสัทธาในคำว่าพวกพ้องเสมอ)” และเคยทักทายกันผ่านการส่งข้อความ แต่ไม่บ่อยครั้ง กระทั่งวันที่ 5 ต.ค.61 เวลาประมาณ 21.00 น. ผู้ต้องหาพิมพ์ข้อความชักชวนผู้กล่าวหาไปเที่ยว โดยจะขับรถมาหา ซึ่งตอบตกลงกันแล้วส่งพิกัดที่อยู่ไปให้

ต่อมาเวลาประมาณ 23.00 น. ผู้ต้องหาจึงขับรถยนต์มารับแล้วบอกว่าจะพาไปเที่ยวผับแถวตลิ่งชัน จนเวลา 00.30 น. ของวันที่ 6 ต.ค. ผู้ต้องหาขับรถพาผู้กล่าวหามาที่หมู่บ้านมหาดไทย 2 แขวงบางระนาด เขตตลิ่งชัน กทม. แล้วขับรถไปจอดที่บ้านปูนสูง 2 ชั้น ประตูรั้วสีฟ้า พร้อมบอกให้ผู้กล่าวหาเดินเข้าไปในบ้าน จากนั้นผู้ต้องหาปิดประตูบ้านและใช้กุญแจล็อก

จนเวลา 02.00 น. *ผู้ต้องหาให้ผู้กล่าวหารออยู่ชั้น 2 ของบ้านซึ่งห้องนั้นมีฟูกที่นอนอยู่ด้วย เมื่อผู้ต้องหาเดินเข้ามาก็ปิดล็อกประตูห้องนั้นแล้วนอนลงบนฟูก ให้ผู้กล่าวหาถอดกางเกงที่สวมอยู่นั้นออก จากนั้นผู้ต้องหาขึ้นมาคร่อมบนตัวผู้กล่าวหาแล้วกระทำชำเรา หลังก่อเหตุผู้ต้องหาก็ให้ผู้กล่าวหาอยู่แต่ในบ้าน ไม่ให้ออกไปไหน *

ถึงเมื่อเวลา 04.00 น. ผู้ต้องหาก็เข้ามาในห้อง บอกให้ส่งกระเป๋าสะพายข้างสีดำและโทรศัพท์กับผู้ต้องหา รวมทั้งให้ถอดแหวน แต่ผู้กล่าวหาไม่ยอมถอดแหวน ผู้ต้องหาจึงตบหน้า 3-4 ครั้ง แล้วเดินไปหยิบมีดคัตเตอร์มาวางบนข้อมือผู้กล่าวหา พร้อมบีบมือแล้วถอดแหวนไป จนถึงช่วงบ่ายวันดังกล่าว ผู้ต้องหาโทรศัพท์ไปหามารดาของผู้กล่าวหา ให้โอนเงินมา 500 บาท

จากนั้นช่วง 16.30 น. ผู้ต้องหาจึงพาผู้กล่าวหาไปกดเงินที่ตู้เอทีเอ็ม แล้วก็นำเงินไปก่อนที่ผู้ต้องหาจะขับรถไป ต่อมาเมื่อเวลา 21.00 น. ผู้กล่าวหาจึงเข้าร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สน.ตลิ่งชัน โดยวันที่ 16 ต.ค.ที่ผ่านมา ผู้ต้องหาเดินทางมามอบตัวที่ สภ.เมืองเพชรบุรี และส่งตัวให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดี

*ซึ่งแจ้งข้อหา ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยใช้กำลังประทุษร้ายหรือโดยที่ผู้อื่นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้, ชิงทรัพย์โดยมีอาวุธในเวลากลางคืนและเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กาย, หน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่นให้ปราศจากเสรีภาพในร่างกาย *

ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 276 วรรคแรก, 339 วรรคสอง ประกอบมาตรา 335 (1) (7) วรรคสาม และมาตรา 310 วรรคแรก เหตุเกิดที่ บ้านเลขที่ 467 หมู่บ้านมหาดไทย 2 แขวงบางระมาด เขตตลิ่งชัน กทม. และบริเวณที่กดเงินหน้าห้างโลตัสเอ็กซ์เพรส สาขาอุดมทรัพย์ แขวงบางแวก เขตภาษีเจริญ กทม.

ศาลพิจารณาคำร้องและสอบถามผู้ต้องหาแล้วไม่คัดค้าน จึงอนุญาตให้ฝากขังได้ตามคำร้อง

ภายหลังแม่ของนายศาสฑฎา หรือ ท็อป ยื่นคำร้อง พร้อมหลักทรัพย์เป็นเงินสด ประมาณ 1.4 แสนบาท เพื่อขอปล่อยชั่วคราวระหว่างการฝากขังนี้ ซึ่งคำร้องขอประกันตัวยังอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลว่าจะให้ประกันตัวหรือไม่

ต่อมาในช่วงเย็น ศาลจังหวัดตลิ่งชันได้อ่านคำสั่งประกันโดยศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า พฤติการณ์แห่งคดีเป็นเรื่องร้ายแรงกระทบความรู้สึกและศีลธรรมอันดีของประชาชน ผู้ต้องหาหลบหนีไปทันทีที่เกิดเหตุ เพิ่งมามอบตัวกับพนักงานสอบสวนในภายหลังจากมีหมายจับ หากปล่อยชั่วคราวเกรงว่าจะหลบหนี จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0