นายเบนจามิน ตัน รองประธานฝ่ายบริหาร บริษัท ไทยลีก จำกัดและผอ.ฝ่ายคลับไลเซนซิง สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เป็นประธานในการแถลงข่าวความพร้อม “มีท เดอ วอริเออร์” ฟุตบอล “โตโยต้า ไทยลีก 2020” นัดที่ 2 ของฤดูกาล ที่อาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา การกีฬาแห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์
เบนจามิน ตัน กล่าวว่า จากการแข่งขันนัดแรกถือว่าได้รับการตอบรับที่ดี โดยเฉพาะการใช้วิดีโอช่วยตัดสิน (วีเออาร์) ทุกทีมมีกระแสตอบรับที่ดี แต่สิ่งที่อยากจะย้ำเตือนทุกทีมคือเรื่องของการให้ความเคารพคู่แข่ง รวมถึงการใช้เวลาในการเล่นจริง ตอนนี้จาก 90 นาที ฟุตบอลไทยลีกใช้เวลาในการเล่นแค่ราว 45 นาทีเท่านั้น ถ้าเทียบกับลีกยุโรปใช้ราว 55-60 นาที จึงอยากให้ทุกทีมช่วยกันพัฒนาเรื่องนี้
สำหรับการแข่งขันที่น่าสนใจในนัดที่ 2 คู่แรกเป็นการพบกันระหว่างทีมจ่าฝูง “สิงห์เจ้าท่า” การท่าเรือ เอฟซี จะลงเล่นในบ้านติดต่อกันเป็นเกมที่ 2 รับการมาเยือนของ “เขี้ยวสมุทร” สมุทรปราการ ซิตี้ ที่แพท สเตเดียม ในวันที่ 22 กุมภาพันธ์ เวลา 17.45 น. ถ่ายทอดสดทาง ทรูสปอร์ต2 (682)
นายวรรณพล ตุ่นต้น ผู้ช่วยผู้ฝึกสอนทีมการท่าเรือ กล่าวว่า สภาพทีมตอนนี้พร้อม แม้ว่าตัวหลักอย่างธนบูรณ์ เกษารัตน์, ศิวกร จักขุปราสาท จะมีอาการบาดเจ็บอยู่ แต่ตัวทดแทนก็ช่วยกันได้ดีดังนั้นถือว่าทีมพร้อม 100 เปอร์เซ็นต์
“ตอนนี้นักเตะใหม่กับนักเตะเก่าเริ่มปรับตัวเข้ากันได้ดี มีทีมเวิร์คมากขึ้น เลยทำให้ผลงานออกมาได้ดี ขณะที่เฮแบร์ตี้ เฟร์นันเดส กับ เซร์คิโอ ซัวเรซ เป็นนักเตะที่สุดยอดทั้งคู่ และยอมปรับตัวเข้าหากันเลยทำให้ทีมอันตรายยิ่งขึ้น”
นายวรรณพล กล่าวต่อว่า ทีมสมุทรปราการนั้นเป็นทีมที่ดี เห็นได้จากฤดูกาลที่แล้ว ดังนั้นเราจะต้องเล่นกันให้ละเอียด เล่นให้ได้ตามมาตรฐาน เพื่อจะคว้า 3 คะแนนให้ได้
ด้านนายณัฐพล กระจ่างโพธิ์ ผู้จัดการทีมเขี้ยวสมุทร กล่าวว่า จากผลงานนัดแรกที่เสมอกับสิงห์ เชียงรายนั้น ก็จะต้องนำเอาข้อผิดพลาดต่างๆ มาแก้ไข ซึ่งการบุกไปเยือนจ่าฝูงอย่างการท่าเรือนั้นไม่ใช่งานง่ายแน่นอน เป็นทีมที่แข็งแกร่ง มีนักเตะที่มีศักยภาพ โดยเฉพาะการเล่นในบ้าน ดังนั้นจะต้องศึกษาจุดแข็ง จุดอ่อน เพื่อที่จะรับมือให้ได้ เป้าหมายแน่นอนว่าอยากได้ 3 คะแนน แต่ 1 คะแนนก็น่าพอใจแล้ว ถ้าได้ 3 ก็ถือว่าเป็นโบนัส
“ตอนนี้นักเตะกับโค้ชก็เริ่มปรับจูนเข้ากันได้ดี อยู่ที่ราวๆ 80-90 เปอร์เซ็นต์แล้ว ส่วนแท็คติกในแต่ละเกมคงเป็นเรื่องของการเจอคู่แข่งแบบใดมากกว่าเท่านั้น” นายณัฐพล กล่าวปิดท้าย
คู่ต่อมาเป็นอีกหนึ่งบิ๊กแมตช์ ระหว่าง “กิเลนผยอง” เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด พบ “แข้งเทพ” ทรู แบงค็อก ที่เอสซีจี สเตเดียม ในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ เวลา 19.00 น. ถ่ายทอดสดทาง ทรู4ยู (24), ทรูสปอร์ตเอชดี2 (667)
นายอุทัย บุญเหมาะ ผู้ช่วยผู้ฝึกสอนเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด กล่าวว่า สภาพทีมตอนนี้มีนักเตะบาดเจ็บคือ อดิศร พรหมรักษ์ กำลังเร่งฟื้นฟูสภาพร่างกาย และ ขณะที่วิลเลี่ยม ปอปป์ ยังต้องเช็คฟิตอยู่
โดยในเกมนี้ด้านโค้ชพยายามจะให้นักเตะมีสมาธิกับเกม และเล่นอย่างดุดัน พร้อมทั้งเร่งปรับจูนนักเตะต่างชาติคนใหม่ให้เข้ากับทีมโดยเร็ว ฉะนั้นการเจอกับ ทรู แบงค็อกฯ ทีมจะพยายามทำให้เต็มที่ที่สุด
ส่วน นายวสพล แก้วผลึก ผู้ช่วยผู้ฝึกสอนทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด กล่าวว่า เกมนี้จะได้ เอเวอร์ตัน และ มิก้า ชูนวลศรี กลับมากจากอาการบาดเจ็บ คิดว่าจะกลับมาฟิตสมบูรณ์ทั้งทีม ส่วนนักเตะตัวใหม่อย่าง เบรนเนอร์ มาร์ลอส ยังคงต้องให้เวลาเจ้าตัวได้ปรับตัว เพราะเพิ่งมาร่วมทีมได้เพียงสองสัปดาห์
“ส่วน ณัฐวุฒิ สุขสุ่ม นั้น มีอนาคตที่ดีแน่นอน หลังจากกลับมาจากญี่ปุ่นเขาถือว่าพัฒนาขึ้นมาเยอะ และ มาโน่เองก็ไว้วางใจอย่างมาก เป็นเรื่องดีที่จะได้มีกองหน้าคนไทยเพิ่มขึ้น”
นายวสพล กล่าวปิดท้ายว่า การต้องไปเยือนเอสซีจี เมืองทอง นั้นเป็นเกมที่ยากแน่นอน เพราะเมืองทองเล่นในบ้านย่อมมีความแข็งแกร่ง แม้ปีนี้เจ้าบ้านจะมีความเปลี่ยนแปลงมากมายก็ตาม ซึ่งเป้าหมายคือการทำให้ดีที่สุด ต้องการลบความทรงจำจากปีที่แล้วที่บุกมาแพ้
สำหรับโปรแกรมการแข่งขันคู่อื่นๆ วันที่ 21 กุมภาพันธ์ เวลา 20.00 น. ระยอง พบ นครราชสีมา มาสด้า (ทรู4ยู-24, ทรูสปอร์ตเอชดี2-667) วันที่ 22 กุมภาพันธ์ เวลา 18.00 น. สิงห์ เชียงราย พบ สุพรรณบุรี (ทรูสปอร์ตเอชดี3-668) เวลา 19.00 น. บุรีรัมย์ พบ ชลบุรี (ทรู4ยู-24, ทรูสปอร์ตเอชดี2-667) เวลา 20.00 น. พีที ประจวบ พบ บีจี ปทุม (ทรูสปอร์ต2-682)
วันที่ 23 กุมภาพันธ์ เวลา 18.00 น. สุโขทัย พบ ราชบุรี มิตรผล (ทรูสปอร์ตเอชดี3-668) ตราด พบ โปลิศ เทโร (ทรูวิชั่นส์357)
