ตลาดหุ้นสหรัฐ ซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ (6 เม.ย.) ตามเวลาท้องถิ่น โดยที่ดัชนีหลักทั้ง 3 ตัว ทะยานสูงขึ้นมากกว่า 4% ท่ามกลางความหวังว่า การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ใกล้จะถึงจุดสูงสุด หลังข้อมูลแสดงให้เห็นว่า จำนวนผู้ติดเชื้อ และผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ในสหรัฐ และหลายประเทศในยุโรป ชะลอตัวลงช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวล่าสุดอยู่ที่ 22,058.19 จุด ทะยานขึ้น 1,005.66 จุด หรือ 4.78% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ที่ 2,603.35 จุด พุ่งขึ้น 114.70 จุด หรือ 4.61% และดัชนีแนสแด็กที่ 7,714.70 จุด บวก 341.61จุด หรือ 4.63%
นักวิเคราะห์แสดงความเห็นว่า การเห็นสัญญาณว่าการระบาดในนครนิวยอร์ก เริ่มนิ่งนั้น อาจเป็นสิ่งสำคัญที่สุด เมื่อพิจารณาจากข้อเท็จจริงที่ว่า บรรดาผู้จัดการเงินทุนจำนวนมหาศาลนั้น อาศัยอยู่ในแถบนี้เกือบทั้งหมด
ตัวเลขการระบาดที่ลดลง ช่วยให้นักลงทุนโล่งใจขึ้นอย่างมา แต่ก็ยังพูดไม่ได้ว่า ผ่านพ้นปัญหาทั้งหมดไปแล้ว เพราะผู้เชี่ยวชาญสหรัฐ ออกมาเตือนว่า แดนอินทรีอาจต้องเผชิญกับวิกฤติโควิด-19 อย่างรุนแรงในอีก 1 หรือ 2 สัปดาห์จากนี้
ทั้งนี้ ข้อมูลในช่วงสุดสัปดาห์เผยให้เห็นว่า ผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐเพิ่มขึ้นในอัตราที่ชะลอตัวลงแตะ 8.2% จาก 12.3% ทั้งจำนวนผู้เสียชีวิตในรัฐนิวยอร์กยังลดลงเป็นครั้งแรกอีกด้วย
ขณะที่สถานการณ์ในยุโรปก็ดูเหมือนว่าจะดีขึ้นเช่นกัน โดยอิตาลีมีผู้เสียชีวิตน้อยที่สุดในรอบกว่าสองสัปดาห์ ด้านสเปนมีผู้เสียชีวิตลดลงเป็นวันที่สามติดต่อกัน ส่วนฝรั่งเศสรายงานจำนวนผู้เสียชีวิตน้อยที่สุดในรอบห้าวัน
จนถึงขณะนี้ สหรัฐยังคงเป็นประเทศที่มียอดผู้ป่วยโควิด-19 มากที่สุดในโลกที่ 337,646 ราย ขณะที่มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 9,648 ราย และอีก 17,582 รายได้รับการรักษาหายแล้ว
