วันที่ 24 พฤษภาคม ที่ ลานหน้า Hard Rock Cafe สยามสแควร์ ซอย 11 พระเอกหนุ่ม ณเดชน์ คูกิมิยะ มาร่วมงานแถลงข่าว “นีเวีย เมน เปิดตัว 4 พรีเซ็นเตอร์หนุ่ม” พร้อมให้สัมภาษณ์ถึงกระแสวิจารณ์อย่างหนักของโชว์แซ่บกลางเวทีกับคู่จิ้น “ญาญ่า อุรัสยา”ในคอนเสิร์ตเดี่ยวของตัวเองที่ผ่านมา
คอนเสิร์ตที่ผ่านมาเป็นไงบ้าง?
“ถามว่าหายเหนื่อยหรือยัง ยังครับ ตอนนี้ถ้าไม่มีงานก็คงอยู่บ้านพักผ่อน ไม่ค่อยอยากทำอะไรสักเท่าไหร่ ข้างนอกอาจจะดูสดใสแต่ข้างในพังๆ นิดนึง”
ปล่อยพลังบนเวทีเต็มที่มาก?
“ก็ดีนะครับ เราเองที่ได้พลังเยอะขนาดนั้นเพราะคนที่ไปเขาให้พลังเรามา ไม่ว่าจะสายตา เสียงกรี๊ด กำลังใจที่เขาให้มาเราได้รับตรงนั้น เราก็อยากส่งกลับไปให้ได้มากที่สุด เต็มที่กับทุกๆ อย่าง ทุกๆ คนที่ไปวันนั้น”
พอใจกับโชว์ที่ออกมาไหม?
“สนุกครับ เป็นประสบการณ์ที่ดีมาก ๆ การได้ทำงานกับทีมงานมืออาชีพก็ทำให้เราได้มีไอเดีย การพัฒนาและประสบการณ์ที่มากขึ้น”
หลายคนชื่นชมความสามารถของเราว่าได้ทุกด้านจริงๆ?
“ก็ขึ้นอยู่กับการฝึกฝนครับ ผมให้เวลากับการซ้อมค่อนข้างเยอะมาก ช่วงนั้นแทบจะไม่รับงานเลย พยายามซีเรียสกับตรงนั้นให้มากที่สุด ไม่อยากปล่อยอะไรให้มีข้อผิดพลาด หรือทำให้กลายเป็นข้อบกพร่อง พยายามทำทุกอย่างให้ดีที่สุด”
พาร์ตไหนที่ยากที่สุด?
“ยากทุกพาร์ตครับ ช่วงเปิดโชว์ก็ถือว่ายาก ทำยังไงให้คนดูไม่เบื่อ ไม่ลุกกลับบ้าน เป็นโจทย์ที่เราต้องทำ แต่โดยรวมก็ขอบคุณทุกคนที่ไปร่วมสนุกกันนะครับ”
แขกรับเชิญชื่นชมณเดชน์ว่าเป็นมืออาชีพ?
“ดีใจครับ ดีใจที่ทุกคนให้เกียรติมา จริงๆ แล้วเสียงกรี๊ดที่ได้ยินที่ดังที่สุดก็คือพี่ก้อง(สหรัถ) ผมแทบจะเอาหน้ามุดดินเลยตอนนั้น พี่ก้อง พี่อี๊ด โปงลาง พี่ปั๊ป โปเตโต้ พี่แอม ยัวร์บอยทีเจ น้องญาญ่า ทุกคนที่มาให้โอกาสผม ขอบคุณทุกคนมากๆ”
พาร์ตกับน้องญาญ่าฮือฮามาก?
“จริงๆ แล้วทุกคนก็รู้อยู่แล้วว่าแขกรับเชิญที่เราเปิดเผยเป็นน้องญาญ่า แฟนคลับส่วนนึงที่มาก็เป็นแฟนคลับน้องญาญ่าด้วย”
โดนแซวว่าเหมือนมางานแต่ง?
“มันก็เป็นช่วงที่เป็นอีกสีสันนึง พี่ฉอดก็ให้ไอเดียว่าเราจะทำยังไงให้มันดูสนุก ได้เรียนรู้เรื่องราวของเราสองคนไปในระดับนึงด้วย”
หลายคนแซวว่าแกรนโอเพนนิ่งแล้ว มีการเรียกที่รักด้วย?
“ไม่ได้แกรนด์โอเพนนิ่งอะไร เป็นเช่นนั้นอยู่แล้ว เราก็รู้สึกสบายใจเพราะทุกคนที่ไปในคอนเสิร์ตวันนั้นเขาก็เป็นแฟนคลับเรา เขาไปให้กำลังใจเรา เขาอยู่กับเราแล้ว เราเลยรู้สึกสบายใจที่จะพูดอะไรบางอย่าง อยากจะบอกแฟนคลับด้วย บอกน้องญาญ่าด้วย มันเลยเกิดโมเมนต์ตรงนั้น”
ไม่มีสคริปต์?
“สคริปต์มันก็เป็นแค่ไกด์ๆ ส่วนใหญ่จะเกิดขึ้น ณ อารมณ์ตรงนั้นเอง วันแรกกับวันที่ 2 ก็ไม่ได้เหมือนกันซะทุกอย่างครับ”
พูดเองเขินเองไหม?
“เขินนิดหน่อย รู้สึกดีที่เราได้บอกคนที่เขารักเรา หมายถึงแฟนๆ เขาก็ดีใจ”
ได้เตรียมใจเกี่ยวกับกระแสวิพากษ์วิจารณ์ไว้บ้างไหม?
“กระแสไม่ได้เตรียมใจไว้เลยครับ(หัวเราะ) ว่าจะเกิดอะไรแบบนี้ขึ้น เราก็อยากจะให้ทุกคนที่จ่ายตังค์ไปดูได้มีความสุขเท่านั้นเอง แค่นั้นเองจริง”
นอยด์ไหมออกมาอย่างนี้?
“เรานอยด์กับความรู้สึกของญาญ่ามากกว่า เราไม่ได้นอยด์ว่าเดี๋ยวคนจะมาด่าเรา เราเป็นห่วงความรู้สึกของน้องเพราะเขาก็อุตส่าห์มาช่วยเราทำโชว์โดยเฉพาะ”
อย่างวันแรกที่มีภาพออกไป มันมีผลกับวันที่2 หรือเปล่า?
“ผมไม่รู้เรื่องอะไรเลย จนกระทั่งวันสุดท้ายก็มีการพูดคุยกันเกิดขึ้น อันนี้ผมไม่รู้เรื่องมาก่อน ยังไม่ได้เห็นเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่ามันเกิดอะไรขึ้น วันนั้นยังเพิ่งเสร็จคอนเสิร์ต หลังจากนั้นก็เลยได้ถาม ได้พูดคุยกันถึงเรื่องปัญหาที่เกิดขึ้น”
ได้คุยกับแม่ปลาไหม?
“คุยครับ ว่ามันเกิดจากอะไร ว่าเราจะมีวิธีการแก้ไขยังไง แต่ว่าจริงๆ แล้วพอโชว์มันออกไปแล้วการจะแก้ไขอะไรมันก็แก้ไขไม่ได้ ดีที่สุดเราก็อธิบายด้วยเหตุผลของเราที่เราได้เตรียมงานมา แต่ละคนก็มีเหตุผลของตัวเองอยู่แล้ว ผมเข้าใจในเสียงวิพากษ์วิจารณ์อยู่แล้ว ก็น้อมรับไว้ ขอบคุณมากๆ”
ตอนซ้อมแม่ปลาได้ไปดูด้วย แต่ไม่ได้มีคอมเมนต์อะไรใช่ไหม?
“ในเรื่องการคุยเรื่องงานอย่างละเอียดจะเป็นทางผู้ใหญ่กับผู้ใหญ่ แม่ปลาจะคุยกับทางพี่ฉอดกับพี่ก้อยเองเสียมากกว่า รายละเอียดตรงนี้ผมจะไปแก้ไขอะไรเองไม่ได้ ก็ปล่อยให้เป็นไปตามความสบายใจของคุณแม่ดีกว่า”
พอเราได้มาเห็นทั้งภาพนิ่งภาพเคลื่อนไหวแล้วเรารู้สึกว่ามันแรงไปไหม เกินงามไปอย่างที่คนวิพากษ์วิจารณ์หรือเปล่า?
“เอาจริงๆ เลยในมุมมองของผม รู้สึกว่านั่นคือการแสดง มันคือโชว์นึงที่เป็นสเปเชียลโชว์ที่เกิดขึ้นในพาร์ตเดียวสำหรับเพลงนี้ ผมรู้สึกว่าเราอยู่ในโหมดของนักแสดงที่กำลังเพอร์ฟอร์มตรงนั้นออกมาเลยไม่ได้คิดถึงเรื่องเพศ เรื่องเซ็กซ์ หรืออะไร มันคือโชว์มากกว่า”
ญาญ่าบอกผู้ชมคือผู้ปกครองที่คอยติชม ณเดชน์คิดเห็นเหมือนกันไหม?
“มีส่วนสำคัญนะครับสำหรับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ของคนดู ความรู้สึกของทุกคนที่ได้รับ มันเป็นเหมือนกับการทำโพล เพราะทุกคนอยากจะรู้ว่าทำออกมาแล้วเป็นอย่างไร มันเหมือนเป็นการทำการบ้าน ทำการตลาด อย่างที่น้องได้พูดไปแล้วซึ่งน้องตอบคำถามดีมากๆ การรับฟังคนดู มันก็เป็นสิ่งที่ทำให้เรารู้ว่าคนดูรู้สึกแบบไหนกับสิ่งๆ นั้นที่เราได้แสดงออกไป อาจจะมีการกลับมานั่งทำการบ้านว่าอะไรเหมาะอะไรไม่เหมาะ”