‘คาเธ่ย์แปซิฟิค’ ขอโทษเหตุข้อมูลรั่ว แต่ยืนยันไม่ได้ปกปิด

ผู้บริหารสูงสุด 2 คน ของสายการบินคาเธ่ย์แปซิฟิคของฮ่องกง ขอโทษต่อการจัดการของบริษัทในเหตุการณ์ที่ถูกแฮกและกระทบต่อผู้โดยสารหลายล้านคน แต่ยืนยันไม่ได้พยายามปกปิด

ซีอีโอและประธานสายการบินคาเธ่ย์แปซิฟิค ระบุว่าวิกฤตดังกล่าวเป็นหนึ่งในวิกฤตที่มีความร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ของบริษัทและจะดำเนินการที่แตกต่างไปจากนี้ในเหตุการณ์คล้ายกันที่อาจเกิดขึ้นอนาคต ซึ่งก่อนหน้านี้ นายจอห์น สโลซาร์ ประธานสายการบินได้อ่านแถลงการณ์ต่อสภานิติบัญญัติฮ่องกงขอโทษโดยตรงต่อสภาและประชาชนฮ่องกง แต่ก็ยืนยันว่าข้อมูลเหล่านี้ไม่ใช่ข้อมูลอ่อนไหว ขณะเดียวกันสายการบินได้ติดต่อไปยังลูกค้าที่ได้รับผลกระทบแล้ว

ผู้บริหารทั้งคู่ได้ถูกเรียกเข้าให้การต่อสภานิติบัญญัติฮ่องกง ว่าเหตุใดถึงใช้เวลานานถึง 5 เดือน กว่าจะออกมายอมรับว่าถูกแฮกและข้อมูลผู้โดยสาร 9.4 ล้านคน ที่รวมถึงหมายเลขหนังสือเดินทางและรายละเอียดบัตรเครดิตตกอยู่ในความเสี่ยง โดยสมาชิกสภาได้ตำหนิว่านี่เป็นความพยายามชัดเจนในการปกปิดเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และทำให้ลูกค้าสูญเสียโอกาสหลายเดือนที่จะดำเนินการเพื่อความปลอดภัยของข้อมูลส่วนตัว

มีรายงานปรากฏในสัปดาห์นี้ว่า เหตุข้อมูลรั่วไหลนี้เป็นผลมาจากโจมตีทางไซเบอร์เป็นเวลา 3 เดือน โดยสายการบินพบกิจกรรมต้องสงสัยบนเครือข่ายของตัวเองในเดือนมีนาคม และยืนยันว่าเกิดการเข้าถึงข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาตต่อข้อมูลส่วนตัวบางประเภทในต้นเดือนเมษายน แต่ไม่ประกาศต่อสาธารณะจนกระทั่งวันที่ 24 ตุลาคม ซึ่งนายรูเพิร์ต ฮอกก์ ซีอีโออธิบายว่าบริษัทจำเป็นต้องใช้เวลาในการระบุลักษณะการโจมตี จำกัดวงของปัญหาและระบุถึงข้อมูลที่ถูกขโมยไป แต่ย้ำว่าเสียดายอย่างยิ่งต่อระยะเวลาที่ใช้ไป