*กรมการค้าภาย -โรงกลั่น แจงส่วนต่างน้ำมันปาล์ม 14 บาทเหมาะสม เหตุคำนวณต้นทุนตั้งแต่ขนน้ำปาล์มดิบ จากท่าเรือกรุงเทพฯ เข้าโรงงานกลั่น ค่ากลั่นไปจนถึงขนส่งป้อนยี่ปั๊วซาปั๊ว โมเดิร์นเทรด “น้ำมันพืชปทุม”โอดบางช่วงขาดทุน วอนเห็นใจ *
นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ถึงโครงสร้างราคาน้ำมันปาล์มบรรจุดขวด 1 ลิตร เมื่อเทียบกับราคาน้ำมันปาล์มดิบที่มีส่วนต่างราคาสูงถึง 14 บาทว่า ว่า เป็นราคาที่ใช้มานานแล้ว โดยราคานี้เป็นราคาที่ทั้งกระทรวงพาณิชย์และสมาคมโรงกลั่นน้ำมันปาล์มมีความเห็นชอบร่วมกัน ด้วยการคิดคำนวณตั้งแต่น้ำมันปาล์มดิบหรือซีพีโอเข้าโรงกลั่น ค่ากลั่น ค่าสติ๊กเกอร์บนฉลาก ค่าสูญเสีย บรรจุขวด บรรจุหีบห่อ ขนส่งสินค้าไปส่งค้าปลีก ค่าจัดการการตลาด รวมค่าแรงงาน
ส่วนสาเหตุที่ใช้น้ำมันปาล์มดิบซีพีโอหน้าโรงกลั่น ที่กรุงเทพฯ เพราะหากไปใช้แหล่งผลิตอื่นจะทำให้มีหลายราคา และเมื่อใช้ราคาที่กทม.แล้วผู้ประกอบการที่มีโรงงานอยู่นอกเขตกรุงเทพฯ อาทิ จังหวัดชลบุรี ก็จะมีค่าภาระขนส่งน้ำมันปาล์มดิบไปที่โรงงานกลั่นน้ำมันปาล์มของตัวเองอีกต่อหนึ่ง
สอดคล้องกับนายต่อพงศ์ ตริยานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท น้ำมันพืชปทุม จำกัด ผู้ผลิตและผู้จำหน่ายน้ำมันพืชตรา “เกสร” กล่าวว่า ราคาต้นทุน 14 บาทเป็นสูตรของทางราชการ อาทิ ค่าภาชนะ ค่าขนส่ง และค่ากำไรส่วนต่างแต่ละช่วงของการค้า ซึ่งราคา 14 บาทสมเหตุสมผลมาก โดยเฉพาะค่าขนส่งต้นทุนสูงมาก ยังมีค่าภาษี VAT อีก ยังไม่นับค่ากล่อง ค่าภาชนะ ที่แยกออกมา 4 บาทกว่าแล้ว ดังนั้นในบางช่วงโรงกลั่นก็ไม่มีกำไร เพราะราคาปาล์มขึ้นลง ควบคุมได้ยาก
