“ปุ๊กลุก” เล่าโมเมนต์เดินแฟชั่นที่ลอนดอน
อีกหนึ่งนักแสดงมากความสามารถ ที่มีดีกรีเป็นนางงามอย่างสาว
“ปุ๊กลุก ฝนทิพย์ วัชรตระกูล” ล่าสุดที่ผ่านมาเจ้าตัวได้มีโอกาสไปเดินแฟชั่นโชว์ถึงลอนดอน ประเทศอังกฤษ วันนี้มีโอกาสเจอตัวสาว "ปุ๊กลุก" เลยไม่พลาดที่จะถามเรื่องนี้สักหน่อย ซึ่งเจ้าตัวเผยว่า
อ่านข่าวต่อ : “ปุ๊กลุก” ยังไม่พร้อมเรียก “ไมค์” แฟน จ่อดำเนินคดีคนแฉ “พระเอกกินงู” ลั่นรู้ว่าเป็นใคร
เพิ่งกลับมาจากลอนดอน เจ็ทแลคมากเราใช้พลังงานของตัวเองเยอะมาก มันเหมือนเวลาที่โน่นเป็นกลางคืนเวลาที่ไทยเป็นตอนเช้า ปกติเราจะกินกาแฟเเค่แก้วเดียวแต่ที่นั้นกินไป 3 แก้ว
จุดเริ่มต้นที่ได้ไปคือมีการส่งโปรไฟล์ไป แบรนด์นี้เป็นแบรนด์ที่เขาอยากเปิดตลาดที่เอเชีย เฉพาะนั้นเขาก็เลยอยากได้นางแบบที่เหมือนมีชื่อเสียงตรงนี้อยู่แล้วเลยเป็นเราคนเดียว เราตื่นเต้นมาก จริงๆ รู้นานแล้วสักประมาณเดือนกว่าๆ ว่าเราจะได้ไป เราไม่ได้บอกใครเลยบอกเฉพาะคนใกล้ตัวจริงๆ เพราะเราไม่ได้รู้สึกว่าเราเป็นนางแบบ ไม่มีความเป็นโมเดล เพราะอาชีพเราจริงๆ คือเป็นนักแสดง ก็ไม่รู้ว่าวันงานมันจะออกมาเป็นแบบไหน เราก็กังวลว่าเราไปเดินกับนางแบบคนไทยที่สูงอยู่แล้วและก็ไม่ใช่คนสูงมาก แล้วเราก็ไปเดินกับนางแบบระดับโลก เราก็ค่อนข้างกังวลและพยายามไดเอ็ทและทำออกมาให้ดีที่สุด หลังเราเสร็จจะเราก็กินเยอะเลย
เราก็มีซ้อมเดิน มีการฟิตติ้งด้วย เรื่องหุ่นเป็นเรื่องที่สำคัญมาก เพราะเราเป็นคนมีเนื้อมีหนังอยู่บ้าง น้ำหนักตอนนั้นลดลงมาได้ประมาณ 3-4 กิโล แบบการเดินเเบบเลยเรากลัวคนว่าเราไปเดินแบบแล้วว่าเราอวบ ก็เลยคิดว่าเราต้องทำให้มันดีที่สุด
เราดีใจที่ได้ไปเดินแบบในครั้งนี้ เชื่อว่าคนไทยที่เห็นคนไทยด้วยกันมีโอกาสไปร่วมงานกับต่างประเทศ เราว่าเรามีกำลังใจที่ดีจากคนไทยอยู่แล้ว และมันค่อนข้างยากที่คนไทยจากไปทำงานกับระดับโลก เชื่อว่าคนไทยและเราก็เป็นกำลังใจให้กับทุกที่มีโอกาสได้ไปทำเชื่อว่าคนไทยทำออกมาดีที่สุด คือตอนที่เราเดินออกมานางแบบคนอื่นเขาก็เฉยๆ แต่เราคิดว่าเราต้องเป็นตัวแทนของคนไทยที่ทำออกมาได้ดีที่สุดประมาณนี้
ทุกๆ วินาทีที่เราทำเราก็อยากให้มันออกมาดีที่สุด อย่างน้อยเขาไปดูโปรไฟล์แล้วเห็นเป็นคนไทย เราโชคดีด้วยที่วันนั้นทรงผมเรามันสูงมันก็เลยไม่ได้ทำให้ตัวเล็กไปมาก และที่ตกใจจากที่คิดก็คือว่าเวลาเปลี่ยนเสื้อผ้ามันต้องตรงนั้นเลย เราต้องวิ่งเขาไปแล้วต้องเปลี่ยนเลย แล้วชุดที่ใส่ไม่มีอะไรซับข้างในเลย ถ้าจะมองว่าเราเป็นนักแสดงในตอนนั้นเราก็จะเขินอาย แต่เราไปในฐานะที่เราเป็นนางแบบตอนนั้นใครทำอย่างไรเราก็ต้องทำเเบบนั้น เราก็เชื่อว่าทีมงานเขาก็ต้องเลือกรูปที่มันเซฟกับตัวเรา
ทางแบรนด์เห็นเราเดินเขาก็บอกว่าชอบมากๆ ก็ดีใจกับสิ่งที่เราทำไปมันตรงกับความต้องการของเขาพอดี ก็ว่าจะมีงานแบบนี้อีกเรายินดี ก็สนุกดีได้ทำอะไรที่มันยากและแตกต่างจากเดิม ที่มันท้าทายความสามารถเรา
