ไอเดียเจ๋ง…”ให้ขึ้นรถฟรี” แก้ปัญหาจราจร

ลักเซมเบิร์ก ซึ่งมีประชากรเพียง 602,000 คน เป็นประเทศหนึ่งของยุโรปที่มีขนาดเล็กที่สุด ด้วยพื้นที่ 2,586 ตารางกิโลเมตร และมั่งคั่งที่สุดแห่งหนึ่ง ด้วยจีดีพีต่อหัวสูงที่สุดในยุโรป

แต่ไม่วายที่ประเทศนี้เผชิญปัญหาการจราจรติดขัดอย่างมโหฬาร เพราะราคาบ้านที่สูงลิ่ว ทำให้คนทำงานกว่า 180,000 ชีวิต ไปอาศัยอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน อย่างเบลเยียม ฝรั่งเศส หรือเยอรมนี แทน แล้วก็ขับรถเข้าไปทำงานที่ลักเซมเบิร์ก

เมื่อปี 2559 ลักเซมเบิร์กมีรถยนต์ 662 คันต่อประชากร 1,000 คน และคนส่วนใหญ่ที่ต้องเดินทางก็อาศัยการขับรถเป็นหลัก

สภาพการณ์ดังกล่าวทำให้เกิดการจราจรติดขัด จนรัฐบาลประกาศแผนการให้โดยสารระบบสาธารณะฟรี ไม่ว่าจะเป็นรถไฟ รถราง และรถเมล์ ตั้งแต่เดือนมี.ค.2563 โดยให้จอดรถไว้ที่ชายแดนประเทศเพื่อนบ้านนั่นแหละ แล้วนั่งรถโดยสารสาธารณะเข้ามา

ระบบโดยสารสาธารณะของลักเซมเบิร์กครอบคลุมทั้งประเทศ และสิ้นค่าใช้จ่ายปีละ 562 ล้านดอลลาร์ ขณะที่แต่ละปีสามารถมีรายได้จากการขายตั๋ว 46 ล้านดอลลาร์ ซึ่งพอประกาศแผนให้บริการรถโดยสารฟรีแล้ว รัฐบาลจะแบกรับภาระต้นทุนในส่วนนี้ โดยกระทรวงสาธารณูปโภคระบุว่าประเทศอยู่ในฐานะที่ดีมากในขณะนี้

ด้านนักวิชาการผู้เชี่ยวชาญระบบขนส่งมองว่าการเคลื่อนไหวของรัฐบาล อาจเป็นการส่งสัญญาณถึงการเปลี่ยนแปลงด้านวัฒนธรรมครั้งใหญ่ อันเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อให้ประชาชนเลิกใช้รถยนต์และหันไปใช้ระบบขนส่งสาธารณะ

ด้านกรุงปารีสในประเทศฝรั่งเศส ก็มีแนวคิดของการส่งเสริมให้คนใช้บริการขนส่งสาธารณะและขี่จักรยานมากขึ้น โดยนายกเทศมนตรีกรุงปารีสจะเปิดโอกาสให้เด็กที่อาศัยอยู่ในกรุงปารีสที่อายุต่ำกว่า 11 ขวบ โดยสารรถสาธารณะได้ฟรี ส่วนเด็กที่อายุมากกว่าจะได้ส่วนลด 50%

ส่วนระบบใช้จักรยานร่วมกัน Velib ก็จะเปิดโอกาสให้เด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี ใช้บริการฟรีเช่นกัน

จำนวนผู้ใช้บริการขนส่งสาธารณะในกรุงปารีสค่อนข้างสูงอยู่แล้ว คือกว่า 60% แต่นายกเทศมนตรียังต้องการดันตัวเลขให้สูงขึ้น

ผู้คนจำนวนมากสนับสนุนแนวคิดนี้ พร้อมแนะให้เปิดโอกาสให้ผู้เกษียณอายุ ใช้บริการขนส่งสาธารณะฟรีบ้าง เพราะคนกลุ่มนี้มักขับรถยนต์ไปไหนมาไหน

ขณะเดียวกัน บริษัทผู้ให้บริการรถไฟใต้ดินในกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เปิดแนวคิดให้บะหมี่โซบะพร้อมเทมปูระฟรีแก่ผู้โดยสารที่ยอมออกเดินทางเช้าขึ้นในช่วงชั่วโมงเร่งด่วนตอนเช้า สำหรับสาย Tozai Line หวังบรรเทาความแออัดในระบบขนส่ง

บริการนี้มีให้ในวันธรรมดาไปจนถึงวันที่ 1 ก.พ. โดยผู้โดยสารรถสาย Tozai Line ที่ลงทะเบียนขอรับสิทธินี้ จะได้รับคูปองสำหรับใช้ที่ร้าน Metro An

แนวคิดนี้เป็นส่วนหนึ่งของการเคลื่อนไหวที่เรียกว่า Jisa Biz หรือชั่วโมงธุรกิจแบบยืดหยุ่น ซึ่งรัฐบาลกรุงโตเกียวเป็นหัวหอก ร่วมกับบรรดาบริษัทเอกชน เพื่อให้ผู้คนเดินทางในเวลาที่เหลื่อมล้ำกัน หวังบรรเทาความแออัด

ความแออัดในช่วงชั่วโมงเร่งด่วนของญี่ปุ่น ขึ้นชื่อว่าผู้คนเยอะมาก และ Tozai Line ก็เป็นสายหนึ่งที่ผู้คนแออัดอย่างยิ่ง ข้อมูลระบุว่าเฉลี่ยแล้วมีคน 76,616 คนใช้บริการ Tozai Line ช่วงสถานี Kiba Station ถึงสถานี Monzennakacho Station ระหว่างเวลา 7.50 น.-8.50 น.เมื่อปี 2560

ช่วงเวลาดังกล่าวมีรถไฟวิ่งให้บริการ 27 ขบวน แต่ละขบวนมี 10 ตู้ ซึ่งสามารถบรรทุกผู้โดยสารรวมกันได้ทั้งหมด 38,448 คน

ด้านทางการกรุงโตเกียวสนับสนุนแนวคิดริเริ่มนี้ ด้วยการแนะให้คนไปทำงานก่อน 8.00 น. หรือหลังจาก 9.00 น. ทั้งยังสนับสนุนให้ยืดหยุ่นเรื่องเวลาหรือติดต่องานทางโทรศัพท์