ปราจีนบุรี - สุดเวทนาหญิงสาววัย 48 ปี เดินหิ้วลำไส้ ยาว 20 ซม.เข้าร้องทุกข์ผ่านสื่อวอนหมอช่วยเหลือเร่งด่วน เพื่อนำไส้เข้าไว้ข้างในท้องเช่นเดิม
เมื่อวันที่ 22 ม.ค.63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังได้รับการร้องทุกข์จากหญิงสาวคนหนึ่ง แจ้งว่า มีลำไส้ใหญ่ไหลออกมาอยู่บริเวณหน้าท้องยาว 20 ซม.ใช้ชีวิตอยู่อย่างทรมานมากว่า 13 ปี โดยใช้ถุงพลาสติกหูหิ้วห่อหุ้มไว้ เพื่อป้องกันมดกับแมลงมากัด หลังจากนั้นได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบหมู่บ้านหนองสังข์ บ้านเลขที่ 55/2 ม.3 ต.บ้านนา อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี พบกับ นางสุภารัตน์ ทิมมา อายุ 48 ปี โดยนางสุภารัตน์ กล่าวว่า เมื่อ 10 ปีที่ผ่านมา ตนมีฐานะยากจนมาก หลังจากที่สามีเสียชีวิตลง ก็รับภาระเลี้ยงดูลูก 2 คน และต้องไปทำงานเป็นลูกจ้างชั่วคราวที่ รพ.แห่งหนึ่งใน จ.ชลบุรี ต่อมา ผ่าตัดลำไส้ด้านซ้ายทิ้ง โดยหมอบอกว่า ต้องเอาลำไส้ที่เหลือไว้ด้านนอก หากเอาไว้ข้างในจะเกิดอันตรายถึงชีวิต จากนั้นมาก็เอาลำไส้ไว้ข้างนอกจนทุกวันนี้ เวลาพูดมากไม่ค่อยได้ หลังจากผ่าตัดก็ยังคงออกรับจ้างทำงานต่อไป ลูก ๆ ก็ไปมีครอบครัวหมด ตนเองอยู่กับน้องชายที่พิการตั้งแต่เล็ก ได้ออกไปรับจ้างตามห้าง ฯ ต่าง ๆ ในพื้นที่โดยไม่มีใครรู้ว่า ตัวเธอไม่เหมือนคนปกติทั่วไป เมื่องานหนักร่างกายก็รับไม่ไหว ก็เปลี่ยนงานอีก 1-3 แห่ง แต่ละแห่งจะทำได้แค่ 4-6 เดือนเท่านั้น
สุภารัตน์ บอกว่า การใช้ชีวิตแบบนี้ยอมรับว่าทรมานมาก กลัวคนรู้จะรังเกียจ เวลานอนจะนอนได้ท่าเดียวต้องคอย ระวังแมลงสัตว์ต่าง ๆ ที่จะมากัดต่อยไส้ นอนเตียงไม้เก่า ๆ เคยถูกแมลงป่องต่อย ยังดีที่ไม่ต่อยถูกไส้ การใช้ชีวิตในแต่ละวันก็จะเปลี่ยนถุงพลาสติกใหม่หลังใช้แอลกอฮอล์กับน้ำเกลือทำความสะอาดบริเวณรอบขอบแผลนั้น กระทั่งทางโรงงานเปิดโอกาสให้คนพิการเข้าทำงาน น้องชายจึงเข้าทำงานมีรายได้ 8,000 กว่าบาท เป็นค่าใช้จ่ายประจำบ้าน และได้ทำบ้านอยู่ใหม่เมื่อปีที่ผ่านมา ก่อนหน้านี้บ้านที่อยู่ผุกร่อนตามกาลเวลา โดยสุภารัตน์ออกไปรับจ้างทำงานไม่ไหวแล้ว ต้องอยู่บ้านเฉย ๆ ได้ 2 เดือนแล้ว โดยบอกว่า ถ้าเป็นไปได้อยากให้หมอเอาลำไส้เข้าไปไว้ข้างในเหมือนเดิม แต่ไม่รู้ว่าจะเป็นไปได้หรือไม่ ที่ผ่านมา 13 ปีกว่า ยอมรับว่าทรมานมาก ร้องไห้คนเดียวทุกวัน ลูก ๆ นาน ๆ จะมาดูทีและให้เงินใช้บ้างครั้งละ 500-1,000 บาท
ผู้สื่อข่าวได้ประสานไปยังสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ศูนย์คนไร้ที่พึ่ง(พมจ.),องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ,โรงพยาบาลประจำตำบล ซึ่งได้ลงพื้นที่เพื่อหาทางช่วยเหลือในเบื้องต้นแล้ว ซึ่งจากข้อมูลที่ได้รับ นางสุภารัตน์ทำงานได้ แต่ไม่ได้ทำงานเมื่อปีที่ผ่านมา บัตรประกันสังคมอาจจะใช้ไม่ได้ แต่ไม่รู้ว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป เพราะว่าสองพี่น้องมีความรู้แค่พออ่านออกเขียนได้เท่านั้น
ด้าน นายจำเนียร ผาวันดี น้องชายนางสุภารัตน์ กล่าวว่า ตนพิการตั้งแต่เกิด พอมีความรู้บ้าง ได้เข้าทำงานบริษัทแห่งหนึ่ง มีรถรับส่ง ที่ผ่านมาตนกับพี่สาวลำบากมาก บ้านแทบไม่มีอยู่ แต่พอได้ทำงาน พอมีเงินมาทำบ้านใหม่ พอได้อยู่กับพี่สาวจะดูแลพี่สาวตลอดไป เพราะมีกันแค่สองพี่น้อง พ่อแม่เสียชีวิตหมดแล้ว อยากเห็นพี่สาวใช้ชีวิตเหมือนคนปกติทั่วไป แต่ไม่รู้ว่าจะเป็นไปได้หรือไม่ เคยคุยกันอยู่ถ้าไปหาหมอจะมีค่าใช้จ่ายมากน้อยแค่ไหน หมอจะผ่าตัดให้ได้หรือไม่ ซึ่ง นางสุภารัตน์ บอกว่า เป็นไปได้ขอแค่เอาไส้กลับเข้าไปไว้ข้างในเหมือนเดิม หรือใครจะช่วยเหลือด้านเงิน เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการผ่าตัดรักษาตัวครั้งนี้เพื่อเป็นบุญกุศล สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ นางสุภารัตน์ ทิมมา โทรศัพท์ 065-615-4794 ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธกส.) สาขากบินทร์บุรี หมายเลขบัญชี 020045082300
----------------------------
ข่าว-ภาพโดย/ทองสุข สิงห์พิมพ์, ลักขณา สีนายกอง
