วันนี้ (24 ม.ค.63) คณะกรรมการสาธารณสุขแห่งชาติของทางการจีน ยืนยันยอดผู้เสียชีวิตในจีนล่าสุดในวันนี้จากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ เพิ่มเป็น 25 คน ผู้ติดเชื้อยืนยันแล้ว 830 คน นับตั้งแต่เริ่มมีรายงานพบผู้ติดเชื้อเป็นครั้งแรกตั้งแต่วันที่ 31 ธันวาคมปีที่แล้ว เป็นต้นมา พร้อมกับยืนยันการพบผู้เสียชีวิตรายแรกในมณฑลเหอเป่ย ซึ่งเป็นการพบผู้เสียชีวิตรายแรก ที่อยู่นอกมณฑลหูเป่ย ซึ่งมีเมืองอู่ฮั่นเป็นเมืองเอก และเป็นศูนย์กลางการระบาดของไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ โดยผู้เสียชีวิตรายแรกในเหอเป่ยนี้ เป็นชายชราอายุ 80 ปี มีอาการป่วยหลังจากเพิ่งเดินทางกลับจากอู่ฮั่น
สำหรับมณฑลเหอเป่ย อยู่ทางเหนือของจีน และมีพื้นที่ติดต่อกับกรุงปักกิ่ง เมืองหลวงของจีน
ขณะเดียวกัน จีนเริ่งเดินหน้าเพิ่มมาตรการสกัดการระบาดของไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่อย่างเข้มข้น หวั่นเกิดการระบาดเพิ่มในช่วงเทศกาลตรุษจีน ซึ่งเริ่มขึ้นแล้วตั้งแต่เมื่อวานนี้ (พุธ) โดยสั่งปิดเมืองในมณฑลหูเป่ยเพิ่มอีก เป็นทั้งหมด 8 เมือง อย่างไม่มีกำหนด ซึ่งเท่ากับเป็นการกักตัวประชากรรวมกว่า 23 ล้านคน ห้ามเข้าออกจากเมือง และปิดเครือข่ายคมนาคมขนส่ง นับเป็นการปิดเมืองขนานใหญ่และเข้มงวด อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน โดยทั้ง 8 เมือง ได้แก่เมืองอู่ฮั่น หวงกัง เอ้อโจว ชื่อปี้ เซี่ยนเถา เฉียนเจียง จือเจียง และลี่ชวน
ส่วนมาตรการในกรุงปักกิ่ง ทางการประกาศจะปิดพระราชวังต้องห้ามในวันพรุ่งนี้ ซึ่งตรงกับวันตรุษจีน อย่างไม่มีกำหนด และมีการยกเลิกงานฉลองตรุษจีนในกรุงปักกิ่ง ก่อนหน้านี้ มาเก๊าและฮ่องกงก็ประกาศยกเลิกงานฉลองตรุษจีนด้วย
ส่วนสภาพเมืองอู่ฮั่นล่าสุด จีนส่งหน่วยสวาท ตำรวจและทหาร ยืนรักษาการณ์ที่สถานีรถไฟอู่ฮั่น ห้ามการเข้าออกอย่างเข้มงวด หลังมีคำสั่งห้ามรถไฟและเครื่องบินขาออกจากอู่ฮั่น อย่างไม่มีกำหนด มีการปิดถนนขาออกจากเมือง ห้างสรรพสินค้า ภัตตาคาร และสถานที่สาธารณะว่างเปล่า ซูเปอร์มาร์เก็ตและตลาดสด ขายสินค้าจนหมดเกลี้ยงเมื่อวานนี้ (พฤหัส) หลังชาวเมืองอู่ฮั่นต่างแย่งกันซื้อสิ่งของจำเป็นไปกักตุนหลังจากถูกกักกันไม่ให้ออกจากเมือง
ส่วนในเมืองหวงกัง ซึ่งมีประชากร 7 ล้านคน และถูกสั่งปิดเมืองเช่นกัน ทำให้สถานบันเทิงทั้งหมด โรงภาพยนตร์ อินเตอร์เน็ต คาเฟ่ ถูกสั่งปิดทั้งหมด
ด้านองค์การอนามัยโลกยืนยันอีกครั้งว่า สถานการณ์ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ขณะนี้ เป็นสถานการณ์ฉุกเฉินเฉพาะในจีนเท่านั้น ไม่ถึงกับเป็นสถานการณ์ฉุกเฉินระดับโลก
เกาะติดข่าวที่นี่
website: www.TNNThailand.com
facebook : TNNThailand
twitter : @TNNThailand
Line : @TNNThailand
Youtube Official : TNNThailand