ผ่านไปแล้วสำหรับงาน ดิจิทัลไทยแลนด์บิ๊กแบง 2019 ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 28-31 ตุลาคม 2562 โดยสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา ถือเป็นงานดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดและได้รับการตอบรับมากที่สุด มีผู้ร่วมงานตลอดทั้ง 4 วัน ถึงกว่า 400,000 คน มีวิทยากรทั้งไทยและต่างชาติกว่า 200 คนเข้าร่วมในงานนี้ เพื่อแสดงและถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านดิจิทัล และในเชิงการพัฒนาธุรกิจ เดินหน้าสู่การปรับใช้ดิจิทัลในการบริหารจัดการระดับภาครัฐได้อย่างเห็นผล นับเป็นการรวมพลคนดิจิทัลอย่างยิ่งใหญ่ในระดับอาเซียน
(กลาง) นรสิทธิ์ สิทธิเวชวิจิตร Chief Commercial Officer, LINE ประเทศไทย
พร้อมด้วยตัวแทนผู้บริหาร 4 บริษัทนักพัฒนาชั้นนำในโซน LINE GOVTECH
หนึ่งในดาวเด่นของงานนี้ต้องยกให้บูธของ LINE ประเทศไทย ซึ่งนอกจากจะทำได้สวยงามแปลกตาจนได้รับรางวัล Best Design Award จากดีป้าแล้ว ยังมีเทคโนโลยีที่น่าสนใจอีกเพียบ สิ่งที่ถือเป็นไฮไลท์ใหม่จาก LINE คือ การนำเสนอโซลูชั่นสำหรับหน่วยงานภาครัฐด้วยหลากหลายบริการบนแพลตฟอร์ม LINE ในโซน LINE GOVTECH จาก 4 บริษัทนักพัฒนาชั้นนำ ซึ่งล้วนเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านโซลูชั่นสำหรับหน่วยงานรัฐเป็นพิเศษ ถือเป็นมิติใหม่ในการเปิดแพลตฟอร์มให้องค์กรทั้งภาครัฐและเอกชน สามารถเชื่อมต่อการให้บริการผ่าน LINE ได้โดยตรง สะดวกง่ายและเข้าถึงประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ดร. พิเชษฐ ฤกษ์ปรีชา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร LINE ประเทศไทย กล่าวว่า “LINE เป็นแพลตฟอร์มที่มีคนใช้งานจำนวนมากถึงกว่า 44 ล้านคน เราจึงถือเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนดิจิทัลของประเทศไทยด้วยเช่นกัน โดยภายในงานครั้งนี้ เราได้นำเสนอโซลูชั่นที่เป็นประโยชน์และน่าสนใจต่อภาครัฐโดยเฉพาะ โดยนำความรู้ ประสบการณ์ตลอดจนความเชี่ยวชาญในการพัฒนาแพลตฟอร์มของเรากับพาร์ทเนอร์ที่เป็นองค์กรนักพัฒนาชั้นนำ มาช่วยต่อยอดบริการสาธารณะ ส่งเสริมการทำงานของภาครัฐด้วย LINE จึงมีความพร้อมที่จะสนับสนุน ส่งเสริมความรู้และเครื่องมือที่เรามีให้กับภาครัฐ เพื่อสร้างประโยชน์ให้กับประชาชน ผ่านช่องทางและเทคโนโลยีต่างๆ เช่น LINE Official Account ที่จะทำให้การทำงานขององค์กรภาครัฐมีประสิทธิภาพมากขึ้น และตอบสนองความต้องการของประชาชนให้สะดวกสบายขึ้นได้
โดยภายในโซน LINE GOVTECH ทาง LINE ได้คัดเลือก 4 องค์กรนักพัฒนาที่เป็นพันธมิตร ที่ให้บริการโซลูชั่นสำหรับองค์กรธุรกิจและภาครัฐบนแพลตฟอร์ม LINE ได้แก่ GMVPI นำเสนอการใช้ LINE เพื่ออำนวยความสะดวกในการทำงานภายในองค์กร ไม่ว่าจะเป็นการอนุมัติใบสั่งซื้อผ่าน LINE, การขออนุมัติการลางาน, การแจ้งเตือนการทำธุรกรรม หรือความบกพร่องของระบบผ่าน LINE โดยเชื่อมต่อเข้ากับระบบ ERP (Enterprise Resource Planning) ที่ใช้งานกันอย่างแพร่หลายในองค์กรต่างๆ One-to-one Contacts นำเสนอการใช้ LINE เป็นตัวช่วยในการทำงานของ Call Center และการนำ Chatbot มาใช้ในการทำงาน เช่น นำ Chatbot มาใช้บริหารจัดการเก็บและเรียกใช้ข้อมูล/ไฟล์งานจากระบบ Cloud, การจัดตารางนัดหมายและการแจ้งเตือนนัดแก่เพื่อนร่วมงาน
Yellow Idea นำเสนอรูปแบบการให้บริการภาครัฐ เพื่อให้บริการภาครัฐเป็นเรื่องง่าย ลดขั้นตอนและรวดเร็วยิ่งขึ้น เช่น การขอรหัส Wi-Fi จากภาครัฐ, การแจ้งเตือนและชำระเงินค่าสาธารณูปโภค, การแจ้งเหตุด่วนเหตุร้าย, การแจ้งเตือนและการยื่นภาษีผ่าน LINE, การตรวจสอบสิทธิประกันสังคม และการลงทะเบียนภาคธุรกิจ Siam Inno City นำเสนอบริการ Ekko Wi-Fi ระบบบริหารจัดการสำหรับ Smart City Free Wi-Fi ซึ่งประชาชนสามารถลงทะเบียนเพื่อใช้งาน Free Wi-Fi ในพื้นที่สาธารณะผ่าน LINE Official Account รวมถึงการเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร การแจ้งเตือนภัย และบริการต่างๆ จากภาครัฐได้
นายกมล ภาคย์ประเสริฐ ผู้จัดการทั่วไปบริษัท อินโน ฮับ จำกัด หนึ่งใน 4 องค์กรนักพัฒนาที่เป็นพันธมิตร LINE ที่ได้มีโอกาสนำเสนอโซลูชั่น One-to-one Contacts ภายในโซน LINE GOVTECH กล่าวว่า “LINE ได้พัฒนาแพลตฟอร์มให้เปิดกว้างสำหรับการพัฒนาโซลูชั่นด้านธุรกิจบนแพลตฟอร์ม LINE นักพัฒนาอย่างเราจึงสามารถพัฒนาโซลูชั่นที่เป็นบริการที่เหมาะกับลูกค้าองค์กรได้ ปัจจุบันมีโซลูชั่นที่สามารถเชื่อมต่อกับการใช้งานในบริการต่างๆ รวมถึงการนำ LINE เข้ามาช่วยจัดระบบการทำงานภายในองค์กรมากมาย เช่น การติดตามข้อมูล การแจ้งปัญหาการใช้บริการหรือการแจ้งซ่อมผ่านระบบแชทบอท การบริหารจัดการข้อมูลและเอกสารภายในองค์กรผ่าน LINE โดยมีการตั้งระบบป้องกันการป่วนของแฮคเกอร์ หรือการรักษาข้อมูลส่วนบุคคลได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นต้น
จากความพร้อมดังกล่าว จึงไม่น่าแปลกใจว่า ทำไมวันนี้ LINE จึงกล้าประกาศความพร้อม เปิดรับพันธมิตรนักพัฒนาโซลูชั่น และภาครัฐ มาร่วมกันพัฒนาต่อยอดบริการบนแพลตฟอร์มของ LINE เพื่อเร่งขับเคลื่อนประเทศไปสู่ยุค ไทยแลนด์ 4.0 อย่างเป็นรูปธรรม ตามนโยบายของรัฐบาล
