โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

ไม่ไปไม่ได้แล้ว! 7 จุดเช็กอินมาแรงในปี 2020 - ลัดเลาะรอบโลก

LINE TODAY

เผยแพร่ 13 ม.ค. 2563 เวลา 17.00 น. • Pannaput J.

เดินทางเข้าสู่ปี 2020 อย่างเป็นทางการ เผลอแปปเดียวผ่านไปแล้ว 2 อาทิตย์ เวลาผ่านไปไวจริง ๆ และเชื่อว่าหลาย ๆ คนก็เตรียมรับมือกับเวลาที่ผ่านไปอย่างรวดเร็วนี้ด้วยการวางแผนชีวิตกันไปไม่มากก็น้อย อีกเรื่องหนึ่งที่คนเรามักวางแผนเตรียมไว้ก็คือ การท่องเที่ยว แน่นอนว่าในแต่ละปีทุกคนคงจะมีทริปในใจกันอยู่ไม่มากก็น้อย บางคนก็อาจจะชอบไปที่เดิม ๆ หรือบางคนก็ชอบที่จะไปเปิดแมปใหม่ เพื่อให้ใจเต้นรัว ๆ วันนี้ #ลัดเลาะรอบโลก เลยขอพาทุกคนไปพบกับสถานที่ 8 แห่งที่ควรไปเช็กอินในปี 2020 นี้ จะมีที่ไหนกันบ้างต้องตามดู บอกได้เลยว่าเห็นแต่ละที่แล้ว ทั้งกระเป๋าเดินทางและกระเป๋าเงินสั่น  

1. แซมเบีย

สายธรรมชาติห้ามพลาดเลยสำหรับแซมเบีย หนึ่งในประเทศที่ตั้งอยู่ในทวีปแอฟริกาใต้ โดยพื้นที่กว่า 30 เปอร์เซ็นในประเทศนั้นเป็นอุทยานแห่งชาติ แต่ละที่ก็เต็มไปด้วยพืชพันธุ์และสัตว์กว่า 60 สายพันธุ์ ถ้ามาเที่ยวที่นี่ก็จะได้พบกับวิวที่แสนสวยงาม มีทะเลสาบที่ยาวที่สุดในโลกไหลผ่าน หรือใครชอบแสงแดดที่นี่ก็เป็นทางเลือกที่ดีของการเต็มอิ่มกับการอาบแดด และสิ่งที่พลาดไม่ได้เลยก็คือ พระอาทิตย์ตกดิน อาจจะดูยากนิดหน่อย แต่ถ้าได้เห็นก็ฟินแน่นอน

2. รัฐไวโอมิง, สหรัฐอเมริกา

เป็นอีกหนึ่งรัฐในสหรัฐอเมริกาที่เตรียมบูมในปี 2020 เลย นอกจากเรื่องราวในอดีตที่สุดแสนจะคูลอย่างการให้สิทธิผู้หญิงในการเลือกตั้ง และการปฏิบัติหน้าที่ในสภามากว่า 50 ปีก่อนที่จะเกิดการอนุญาตขึ้นในศ. 19 แล้ว ที่นี่ยังเป็นรัฐที่เต็มไปด้วยธรรมชาติ ถือว่าเป็นสถานที่ที่เหลือไม่กี่แห่งของอเมริกาตะวันตกด้วย นอกจากนี้ใครที่ชื่นชอบการเล่นสกี ที่นี่ก็มีสกีรีสอร์ทอันโด่งดังรอทุกคนมาเยือนด้วย และที่อยากจะเชิญชวนให้ทุกคนมาก็คือเทศกาล Cheyenne Frontire ซึ่งเป็นเทศกาลกลางแจ้งที่ยิ่งใหญ่ จัดขึ้นในวันที่ 17-26 กรกฎาคมนี้ โดยเทศกาลนี้ทุกคนก็จะได้เต็มอิ่มกับบรรยากาศแสนสนุกและอบอุ่น

3. วัปเพอทาล, เยอรมนี

การท่องเที่ยวในเมืองอุตสาหกรรมคงจะไม่ใช่ความฝันในใจของใครหลาย ๆ คน แต่ต้องลองเปิดใจและเว้น วัปเพอทาล เมืองอุตสาหกรรมในประเทศเยอรมนีไว้ที่หนึ่ง เพราะว่าที่นี่ขึ้นชื่อเรื่องระบบรถรางที่เจ๋งที่สุด หลังจากที่มีการปิดปรับปรุงทางเดินรถของเมืองที่มีอายุกว่า 120 ปีไปเป็นเวลา 6 เดือน พอเปิดให้บริการ ทุกคนก็ได้พบกับระบบรถรางสุดเจ๋งราวกับอยู่ในหนังไซไฟกันเลยทีเดียว และราคาก็ไม่ได้แพงเหมือนบางประเทศอีกด้วย แม้จะเป็นเมืองอุตสาหกรรมที่พร้อมจะนำเสนอเทคโนโลยีใหม่ ๆ แต่อีกหนึ่งจุดขายของวัปเพอทาลก็คือสถาปัตยกรรมในเมืองซึ่งถือว่ารักษาได้ดีมาก ๆ และที่พลาดไม่ได้หากมีโอกาสได้มาที่นี่ ก็คือลองปั่นจักรยานบนทางจักรยานที่ในอดีตเป็นทางรถไฟ แต่ถูกปรับปรุงให้เป็นทางจักรยานยาว 22 กิโลเมตร ถือว่าเป็นการดื่มด่ำกับการมาเที่ยวที่นี่อีกทางหนึ่ง

4. ตูนิเซีย

ถือว่าเป็นประเทศที่ก้าวผ่านพ้นวิกฤตด้านการท่องเที่ยว เพราะก่อนหน้านี้ตูนิเซียที่เป็นที่นิยมสำหรับชาวยุโรปที่อยากจะมาใช้ชีวิตริมหาดแบบราคาย่อมเยาว์ กลับเกิดเหตุการณ์ไม่สงบขึ้นในปี 2015 แต่ตอนนี้ตูนิเซียได้กลับมาอีกครั้ง พร้อมที่จะมาชิงขัยดึงนักท่องเที่ยวกลับเข้าประเทศ เพราะว่านอกจากชื่อเสียงของชายหาดแล้ว ตูนิเซียยังมีเมืองที่ได้รับขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากยูเนสโกด้วย และที่สำคัญสายหนังโดยเฉพาะแฟน ๆ ของภาพยนตร์มหากาพย์อย่างสตาร์ วอรส์ไม่ควรพลาดก็คือรีสอร์ทใหม่ที่เพิ่งเปิดในปีที่ผ่านมา ที่ตั้งอยู่ใกล้โลเกชั่นสำคัญในภาพยนตร์ด้วย แฟน ๆ คนไหนที่อยากจะลองไปใกล้ชิดสถานที่ถ่ายทำของหนังเรื่องโปรดก็อย่าลืมพิจารณาตูนิเซียไว้ในอ้อมใจด้วย

5. เซาตูเมและปรินซิปี

ชื่อก็ไม่คุ้นหู สำหรับ เซาตูเมและปรินซิปี ประเทศหมู่เกาะที่อ่าวกินี ที่นี่ถือว่าเป็นที่ที่มีความหลากหลายทางชีวภาพในเขตเส้นศูนย์สูตร บางครั้งที่แห่งนี้ก็ถูกเรียกว่า กาลาปาโกสแห่งแอฟริกา และในความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมของที่นี่ ก็ทำให้มีนักท่องเที่ยวมาที่นี่เพียงสามหมื่นคนต่อปี ซึ่งเป็นสถิติที่น้อยที่สุดในโลก แม้ว่าจะมีคนเพียงน้อยนิดที่เข้ามาท่องเที่ยวที่นี่ แต่ว่ามันก็คุ้มค่ากับความพยายาม เพราะการมาที่นี่ก็จะได้พบกับความสวยงามของชีวิตชาวเกาะ และมีจุดดำน้ำดูปะการังที่สุดแสนจะเพลิดเพลินใจ

6. คีร์กีซสถาน

เป็นอีกหนึ่งประเทศในเอเชียกลางที่มีความน่าสนใจสำหรับ คีร์กีซสถาน เพราะนอกจากการเป็นเมืองลับแลเพราะว่ามีนักท่องเที่ยวจำนวนไม่มากที่เข้าไปเยี่ยมเยียนแล้วนั้น ยังเป็นประเทศที่มีความหลากหลายด้านภูมิประเทศเป็นอย่างมาก มีทั้งทะเลทราย ทุ่งหญ้า รวมไปถึงลานเล่นสกี ถือว่ามีครบทุกอย่างเลยก็ว่าได้ และสิ่งที่ห้ามพลาดเมื่อได้มาที่นี่ก็คือ “มาร์ แคนยอน” ที่เป็นยอดเขาสีแดงที่ถือว่าเป็นแลนด์มาร์กที่น่ามาเช็กอินเป็นอย่างยิ่ง

7. กัลเวย์, ประเทศไอร์แลนด์

ถือว่าเป็นเมืองหลวงของวัฒนธรรมยุโรป สำหรับกัลเวย์ ประเทศไอร์แลนด์ แต่ที่นี่ไม่ได้ต้องการความช่วยเหลือใด ๆ เกี่ยวกับศิลปะเลย ถือว่าเป็นอีกแห่งที่มีอารยธรรมเก่าแก่ เป็นผู้บุกเบิกศิลปะต่าง ๆ ที่สำคัญก็คือการผสมผสานระหว่างศิลปะและธรรมชาติ ไม่ว่าจะมาเมืองนี้ในช่วงไหน ก็จะเต็มไปด้วยเทศกาลเกี่ยวกับศิลปะอยู่เสมอ และนอกจากศิลปะแล้ว ยังมีอีกสิ่งที่ห้ามพลาดที่เกิดขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ที่เรียกว่า TedFest ใครที่เป็นแฟน ๆ ของพ่อเท็ดเรียกได้ว่าห้ามพลาดเด็ดขาด

อ้างอิง

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0