โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

ไม่เห็นทางออก!! ธุรกิจอเมริกันวิตก บาดหมางการค้า ‘จีน-สหรัฐ’ รุนแรงหนักขึ้น

The Bangkok Insight

อัพเดต 24 ส.ค. 2562 เวลา 06.09 น. • เผยแพร่ 24 ส.ค. 2562 เวลา 06.09 น. • The Bangkok Insight
ไม่เห็นทางออก!! ธุรกิจอเมริกันวิตก บาดหมางการค้า ‘จีน-สหรัฐ’ รุนแรงหนักขึ้น

การที่สหรัฐ และจีนตอบโต้กันไปมาเมื่อวานนี้ (24 ส.ค.) ด้วยการขึ้นภาษีทุ่มตลาดต่อกันและกัน ยิ่งทำให้สถานการณ์สงครามการค้าของ 2 ประเทศเลวร้ายลงไปมากขึ้น และยิ่งกลายเป็นภัยคุกคามต่อเศรษฐกิจโลก

ในการตอบโต้กันครั้งล่าสุดนี้ รัฐบาลปักกิ่งประกาศขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าสหรัฐ มูลค่า 75,000 ล้านดอลลาร์ สวนกลับคำสั่งรัฐบาลสหรัฐที่ประกาศขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีนเมื่อวันที่ 1 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยสินค้าสหรัฐ 5,078 รายการจะต้องโดนเรียกเก็บภาษีเพิ่มเติม 10 -5 % แบ่งเป็น 2 ชุดด้วยกัน ชุดแรกมีผลตั้งแต่วันที่ 1 กันยายนนี้ และชุดที่สองมีผลวันที่ 15 ธันวาคม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำแดนอินทรี ก็ออกมาทวีตข้อความในทันที ประกาศขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีน ที่โดนเรียกเก็บในอัตรา 25% ไปแล้วให้เป็น 30 % โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมนี้ ส่วนอีก 300,000 ล้านดอลลาร์ที่มีกำหนดจัดเก็บภาษี 10% ในวันที่ 1 กันยายนนี้ จะจัดเก็บในอัตรา 15% แทน

ท่าทีล่าสุดนี้ ยิ่งทำให้เกิดข้อกังขามากขึ้นถึงโอกาสที่จะแก้ปัญหาความขัดแย้งทางการค้าของ 2 ประเทศ ที่เป็นชาติมหาอำนาจทางเศรษฐกิจของโลกทั้งคู่

สถานการณ์ที่ตึงเครียดขึ้นอย่างรวดเร็วนี้ ยังสร้างความกังวลให้กับบรรดาบริษัทอเมริกัน ที่ส่วนใหญ่พึ่งพาการผลิตในจีน

“เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลยสำหรับการทำธุรกิจ ที่จะวางแผนการดำเนินงานในอนาคต ท่ามกลางสภาพแวดล้อมแบบนี้” เดวิด เฟรนช์ จากสหพันธ์ค้าปลีกแห่งชาติสหรัฐกล่าว

การประกาศของทรัมป์ ที่รวมถึง การให้บริษัทอเมริกันเริ่มมองหาทางเลือกใหม่นอกเหนือจากจีนในทันที รวมถึง การย้ายฐานธุรกิจกลับมายังบ้านเกิด และผลิตสินค้าในสหรัฐ ยังฉุดให้ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ของสหรัฐ ปิดซื้อขายเมื่อวานนี้ ดิ่งลงไปถึง 623.34 จุด หรือ 2.37% มาอยู่ที่ 25,628.90 จุด และยังหนุนให้ราคาทองคำในตลาดโคเม็กซ์ กำหนดส่งมอบเดือนธันวาคม พุ่งขึ้นถึง 29.10 ดอลลาร์ ปิดซื้อขายที่ 1,537.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์

แม้จะยังไม่ชัดเจนว่า อำนาจประธานาธิบดีที่มีอยู่นั้น จะช่วยให้ทรัมป์บีบให้บริษัทอเมริกันทำตามความต้องการของเขาได้หรือไม่ แต่หอการค้าสหรัฐ กลุ่มทรงอิทธิพลทางธุรกิจ ก็ได้ออกมาเรียกร้องให้สหรัฐ และจีนกลับมาสู่โต๊ะเจรจาอีกครั้ง เพื่อหาทางออกในเรื่องนี้

“ในขณะที่เราแบ่งปันความขัดข้องใจของประธานาธิบดี แต่เราก็เชื่อว่า การเดินหน้าเจรจาอย่างสร้างสรรค์ เป็นทิศทางที่ถูกต้องที่ควรมุ่งหน้าไป” ไมรอน บริลเลียนท์ หัวหน้าฝ่ายกิจการต่างประเทศ ของหอการค้าสหรัฐกล่าว

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0