มาตรการช่วยเหลือจากรัฐบาลสำหรับ "กลุ่มเปราะบาง" ที่ครอบคลุมทั้งเด็กแรกเกิดจนถึงอายุ 6 ปี ผู้พิการ และผู้สูงอายุ ในช่วงที่ผ่านมาหลายคนติดตามการช่วยเหลือเยียวยาอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ยังไม่มีวี่แววว่าภาครัฐจะจ่ายเงินช่วยเหลือดังกล่าวให้เมื่อไร ขณะเดียวกันมาตรการช่วยเหลืออื่นๆ อย่างเช่นมาตรการเยียวยาบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือบัตรคนจน ที่มอบให้กับผู้ถือบัตรคนจนนั้น เริ่มทยอยโอนเงินเยียวยาเข้าบัตรอิเล็กทรอนิกส์แล้วตั้งแต่วันที่ 4 กรกฎาคม 2563 และจะจ่ายจนถึงวันที่ 9 กรกฎาคม 2563
ล่าสุด เพจเฟซบุ๊ค สำนักประชาสัมพันธ์เขต 7 กรมประชาสัมพันธ์ ได้เผยแพร่ข้อมูลเมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2563 โดยระบุว่า "ผู้ที่ได้รับเบี้ยผู้สูงอายุและเบี้ยผู้พิการ ที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ซึ่งยังไม่ได้รับเงินเยียวยา 5,000 บาทเราไม่ทิ้งกัน หรือเงินเยียวยาเกษตรกร ชื่อท่านจัดอยู่ในกลุ่มเปราะบาง จะได้รับเงินเยียวยา 3,000 บาท ในช่วงประมาณวันที่ 20 กรกฎาคม 2563 ซึ่งเงินจะโอนเข้าบัญชีเดียวกับที่ได้รับเบี้ยผู้สูงอายุและเบี้นพิการ"
ประกอบกับ "กรุงเทพธุรกิจออนไลน์" ได้สอบถามเจ้าหน้าที่ผ่าน สายด่วน พม.1300 ก็ได้รับคำตอบจากเจ้าหน้าที่ในทิศทางเดียวกันว่า การจ่ายเงินเยียวยากลุ่มเปราะบางจะจ่ายรวดเดียวในวันที่ 20 กรกฎาคม 2563 เป็นจำนวน 3,000 บาท ซึ่งก็คือการจ่ายเงินเยียวยาในเดือนกรกฎาคม 1,000 บาท และจ่ายย้อนหลังให้ 2 เดือน คือ พฤษภาคม และมิถุนายน อีก 2,000 บาทนั่นเอง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
- กลุ่ม 'เปราะบาง' ไม่ต้องลงทะเบียนใหม่! รอรับ 'เงินเยียวยา' 3,000 บาท โอนเข้าบัญชีได้เลย
- ส่องเงื่อนไข 'กลุ่มเปราะบาง' ใครมีสิทธิ์ได้ 3,000 บาท? พร้อมเปิดช่องทางรับเงินเยียวยา
- เช็คเลย! เงินเยียวยา 3,000 บาท ผู้รับเงินอุดหนุนบุตร-บัตรคนจน-กลุ่มเปราะบาง ได้เงินวันไหน?
- 'เยียวยาเกษตร' เช็คสิทธิ์ 'ธ.ก.ส.' จ่าย กลุ่มแจ้งบัญชีใหม่ เพิ่ม 8 ก.ค.นี้
ดังนั้นมาทำความเข้าใจกันอีกสักครั้งสำหรับมาตรการเยียวยากลุ่มเปราะบาง เพื่อให้เกิดความกระจ่างแจ้ง ไม่พลาดข้อมูลรายละเอียดสำคัญต่างๆ ดังนี้
- ใครได้รับสิทธิ์บ้าง?
กลุ่มเปราะบางต้องเป็นผู้ที่ ครม.ได้เห็นชอบในหลักการมาแล้ว และผ่านการตรวจสอบความซ้ำซ้อน ซึ่งจะต้องไม่เคยได้รับการเยียวยาจากมาตรการอื่นๆ เช่น มาตรการเยียวยา "เราไม่ทิ้งกัน" หรือ "เยียวยาเกษตร" เป็นต้น ซึ่งในกลุ่มนี้มีจำนวนกว่า 6,700,000 คน กรอบวงเงินราว 20,000 ล้านบาท ประกอบด้วย 3 กลุ่ม คือ
1.กลุ่มเด็กจากครัวเรือนยากจน ซึ่งนับตั้งแต่แรกเกิด จนถึงอายุ 6 ปี จำนวน 1,300,000 คน
2.กลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป จำนวน 4,000,000 คน
3.กลุ่มคนพิการ จำนวน 1,300,000 คน
- ทำอย่างไรถึงจะได้รับสิทธิ์?
ทั้งนี้ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) จะจัดสรรเงินเยียวยาตามฐานข้อมูลที่มีอยู่ เนื่องจากเป็นผู้ที่ได้รับเงินอุดหนุนรายเดือนอยู่แล้ว จึงไม่ต้องลงทะเบียนใหม่เพื่อขอรับสิทธิช่วยเหลือเยียวยาตามมาตรการนี้
- ผู้มีสิทธิ์จะได้รับเงินเยียวยาผ่านช่องทางไหน?
สำหรับช่องทางการรับเงินเยียวยานั้น เนื่องจากผู้ที่มีสิทธิ์ได้รับเงินเยียวยานี้ เป็นผู้ที่ได้รับเงินอุดหนุนรายเดือนอยู่แล้วจากการจัดสรรของ พม.อยู่แล้ว ซึ่งจะแยกเป็น 2 กรณี คือ
- หากเคยรับเงินอุดหนุนผ่านบัญชีธนาคาร เงินเยียวยาครั้งนี้จะโอนโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารที่เคยได้รับเงินอุดหนุนเด็กแรกเกิด เพิ่มเติมจากเบี้ยผู้สูงอายุหรือเพิ่มเติมจากคนพิการ
- หากไม่มีบัญชีธนาคาร หรือไม่ได้รับเงินผ่านบัญชีธนาคารตั้งแต่แรก จะเป็นการไปรับเงินเยียวยาที่เป็นเงินสดผ่านองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
อย่างไรก็ตาม หากมีข้อสงสัยสอบถามได้ที่สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดทั่วประเทศ หรือศูนย์ช่วยเหลือสังคม สายด่วน พม. โทร 1300 ตลอด 24 ชม.