โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

ไม่สนจะถูกไล่พ้นเก้าอี้ 'รมว.กห.'ค้านทหารยุติจลาจลสีผิว

เดลินิวส์

อัพเดต 04 มิ.ย. 2563 เวลา 04.19 น. • เผยแพร่ 04 มิ.ย. 2563 เวลา 00.27 น. • Dailynews
ไม่สนจะถูกไล่พ้นเก้าอี้ 'รมว.กห.'ค้านทหารยุติจลาจลสีผิว
นายมาร์ค เอสเปอร์ รมว.กระทรวงกลาโหมสหรัฐ ไม่เห็นด้วยกับการใช้กองทัพปราบปรามความวุ่นวายทางสังคม ที่เป็นผลจากการใช้ความรุนแรงของตำรวจผิวขาวต่อชายผิวสี ที่รัฐมินนิโซตา ท่ามกลางกระแสข่าวว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ต้องการไล่เอสเปอร์พ้นตำแหน่ง

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 3 มิ.ย.ว่านายมาร์ค เอสเปอร์ รมว.กระทรวงกลาโหมของสหรัฐ แถลงเมื่อวันพุธ เกี่ยวกับสถานการณ์ประท้วงและจลาจลสีผิวที่ขยายวงกว้างไปทั่วประเทศ และมีความรุนแรงในหลายพื้นที่ ว่าเข้าไม่สนับสนุนการใช้อำนาจตามที่บัญญัติอยู่ในกฎหมายการจลาจล ฉบับปี 2350

ซึ่งมีเนื้อหาตอนหนึ่งว่าประธานาธิบดีสหรัฐสามารถสั่งการให้กองทัพ "เคลื่อนไหวเพื่อความมั่นคงภายใน" ในกรณีเกิดการลุกฮือ การจลาจล และการก่อกบฏ จนส่งผลให้ไม่อาจบังคับใช้กฎหมายได้ในพื้นที่แห่งนั้น

 

เอสเปอร์กล่าวว่าการให้ทหารอเมริกันเป็นผู้ใช้อำนาจเพื่อความมั่นคงของพลเรือน "ควรเป็นทางเลือกสุดท้าย" และต้องเป็นกรณีเร่งด่วนอย่างยิ่งจนใช้วิธีการอื่นไม่ได้แล้วเท่านั้น สำหรับสถานการณ์วุ่ยวายทางสังคมที่เกิดขึ้นภายในสหรัฐตอนนี้ เพนตากอนมองว่า "ยังไม่ถึงขั้นนั้น" และเชื่อมั่นว่ากองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิจะปฏิบัติการสนับสนุนรัฐบาลท้องถิ่นและหน่วยงานพลเรือนซึ่งมีหน้าที่บังคับใช้กฎหมายในแต่ละรัฐได้

 

Secretary @EsperDoD: "I do not support invoking the Insurrection Act."

Secretary Esper also addresses news reports regarding his knowledge of events on Monday evening while accompanying President Trump to St. John's Church.

Full video here: https://t.co/Qpy2CUTnF2 pic.twitter.com/jLktV53alu

— CSPAN (@cspan) June 3, 2020

ขณะเดียวกัน เอสเปอร์ขอโทษที่ใช้ศัพท์ทางทหาร คือคำว่า "พื้นที่ปฏิบัติการ" เรียกแทนเมืองที่มีสถานการณ์ชุมนุมประท้วงในระดับตึงเครียด จนสื่อหลายแหงนำไปขยายความว่า เพนตากอนกำลังมองสถานการณ์ครั้งนี้ในเชิงยุทธศาสตร์ทหาร และอาจมีการเคลื่อนไหวบางอย่างหรือไม่

 

การแถลงของเอสเปอร์ซึ่งถือได้ว่าคือจุดยืนอย่างเป็นทางการของเพนตากอน เกิดขึ้นหลังก่อนหน้านั้นเพียง 48 ชั่วโมง ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศว่าเขาอาจใช้ "มาตรการทางทหาร" ตามกฎหมายการจลาจลซึ่งบัญญัติขึ้นตั้งแต่สมัยสงครามกลางเมือง ให้กองทัพสหรัฐยุติ "สถานการณ์ลุกฮือทางสังคมที่ทวีความรุนแรงและบานปลาย" จากการเสียชีวิตของนายจอร์จ ฟลอยด์ ชายผิวสีซึ่งถูกตำรวจผิวขาวที่เมืองมินนีแอโพลิส ในรัฐมินนิโซตา ใช้เข่ากดที่คอจนขาดอากาสหายใจและเสียชีวิต ระหว่างการจับกุมฟลอยด์ เมื่อวันที่ 25 พ.ค. ที่ผ่านมา

 

ทั้งนี้ มีรายงานจากสำนักข่าวเอพีว่า เอสเปอร์สั่งทหารประมาณ 1,600 นายรวมถึงเจ้าหน้าที่จากกองพลทหารราบ ให้มารวมตัวตามฐานทัพใกล้กับกรุงวอชิงตัน "ตามความต้องการของผู้นำสหรัฐ" แต่หลังจากนั้นไม่นาน เอสเปอร์สั่งให้ทหารทยอยเคลื่อนพลกลับไปยังฐานที่ตั้งเดิม ทว่าหลังเสร็จสิ้นการแถลงเมื่อวันพุธ ทำเนียบขาวเชิญเอสเปอร์เข้าพบ และต่อมาคำสั่งให้ทหาร 1,600 นายเดินทางกลับฐานที่ตั้ง "ถูกยกเลิก"

.@weijia asks if Trump has confidence in Defense Sec. Mark Esper, after Esper opposed deploying active-duty troops to protests.

McEnany: "As of right now, Secretary Esper is still Secretary Esper. And should the president lose faith, we will all learn about that in the future." pic.twitter.com/F6N2ICdPxE

— CBS Evening News (@CBSEveningNews) June 3, 2020

 

ด้านน.ส.เคลลีย์ แมคอีแนนีย์ โฆษกหญิงทำเนียบขาว กล่าวถึงรายงานดังกล่าว และกระแสข่าวที่เริ่มแพร่สะพัด ว่าทรัมป์ต้องการปลดเอสเปอร์ออกจากตำแหน่ง ฐานคัดค้านการใช้อำนาจทางทหารของเขา เพียงว่า "ณ เวลานี้" เอสเปอร์ยังคงดำรงตำแหน่งรมว.กระทรวงกลาโหมของสหรัฐ.

เครดิตภาพ : REUTERS

 

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0