ฟุตบอลโตโยต้า ไทยลีก 2019 นัดที่ 29
วันอาทิตย์ที่ 20 ตุลาคม 2562
สนาม : ช้าง อารีน่า
ผลการแข่งขัน : บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 3-1 การท่าเรือ เอฟซี
ผู้ประตู : 0-1 เซร์คิโอ ซัวเรซ น.20, 1-1 นาสเซอร์ บาราซิต น.34, 2-1 สุภโชค สารชาติ น.36, 3-1 เควิน อินเกรโซ น.70
เกมนัดสำคัญของทั้งสองทีมที่มีผลต่อการลุ้นแชมป์ กรณีที่ บุรีรัมย์ ชนะ และ สิงห์ เชียงราย ไม่ชนะ พีที ประจวบ จะทำให้ “ปราสาทสายฟ้า” คว้าแชมป์โตโยต้า ไทยลีก 2019 ทันที ขณะที่ การท่าเรือ ต้องชนะ เพื่อไปลุ้นต่อในนัดสุดท้าย โดยผลงานเจอกันเลกแรก “สิงห์เจ้าท่า” แพ้คาบ้าน 1-3 ส่วนเกมนี้มียอดผู้ชมถึง 32,538 คน
ครึ่งเวลาแรก
นาทีที่ 6 โอกาสครั้งแรกของ บุรีรัมย์ ได้เตะมุมทางซ้าย รัตนากร ใหม่คามิ เปิดบอลยาวไปที่เสาสอง วรวุฒิ ศรีสุภา นายด่านทีมเยือนออกมาปัดบอลไม่ถึง บอลลอยมาเข้าหัว อภิวัฒน์ งั่วลำหิน ได้โหม่งบอลแต่กดไม่ลง บอลเลยลอยข้ามคานออกไป
นาทีที่ 7 การท่าเรือ ได้ลุ้นบ้างจาก ปกรณ์ เปรมภักดิ์ ตัดบอลได้กลางสนามเลี้ยงไปทางริมเส้นด้านขวาก่อนเปิดยาวเข้ากลาง บอลโค้งไปที่เสาสองชนคานเด้งออกมาเกือบเป็นประตูขึ้นนำของทีมเยือน
นาทีที่ 15 ปราสาทสายฟ้า มาได้ฟรีคิกระยะน่าลุ้น รัตนากร ใหม่คามิ เล่นสั้นจ่ายบอลให้ อันเดรส ตูเญซ ยกบอลเข้าเขตโทษให้ สุภโชค สารชาติ แต่งบอลแล้วตัดสินใจยิง แต่ติดบล็อก ก่อนที่ผู้เล่นการท่าเรือ จะช่วยกันสกัดบอลทิ้งออกมาได้
นาทีที่ 20 กองเชียร์เจ้าถิ่นเงียบกริบทั้งสนาม เมื่อ เซร์คิโอ ซัวเรซ กดเต็มข้อจากหน้ากรอบเขตโทษ บอลพุ่งเรียดผ่านมือ ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน ชนเสาในเข้าประตูไปอย่างสุดสวยให้ การท่าเรือ ขึ้นนำ 1-0
นาทีที่ 25 บุรีรัมย์ ได้เตะมุมถึง 3 ครั้งติดต่อกัน แต่ทำได้แค่เฉี่ยวไปเฉี่ยวมา
นาทีที่ 33 ปราสาทสายฟ้า น่าจะได้ประตูตีเสมอ จากจังหวะที่ สุภโชค สารชาติ ได้บอลหลุดกับดักล้ำหน้า ก่อนยิงด้วยขวา แต่ติดเซฟ วรวุฒิ ศรีสุภา อย่างน่าเสียดาย
อย่างไรก็ตาม นาทีที่ 34 กองเชียร์เจ้าถิ่นได้เฮกันลั่น เมื่อ นาสเซอร์ บาราซิต ดึงบอลลงได้ในเขตโทษจากลูกเปิดของเพื่อนร่วมทีม ก่อนจะล้มตัวจิ้มบอลผ่าน วรวุฒิ ศรีสุภา เข้าประตูไปให้ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ตีเสมอ การท่าเรือ เอฟซี 1-1
จากนั้นอีกเพียงแค่ 2 นาที กองเชียร์เจ้าถิ่นได้เฮกันลั่นอีกครั้ง เมื่อ ศศลักษณ์ ไหประโคน ได้บอลตรงกลางสนามก่อนจะแทงทะลุให้ สุภโชค สารชาติ ใช้สปีดความเร็ววิ่งไปแตะบอลหลบ วรวุฒิ ศรีสุภา ที่พยายามออกมาตัดบอล ก่อนจะยิงนิ่มๆ เข้าประตูไปให้ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แซงขึ้นนำ 2-1
นาทีที่ 38 การท่าเรือ บุกขึ้นมามีลุ้นตีเสมอจากลูกยิงของ บดินทร์ ผาลา แต่ ศิวรักษ์ ล้มตัวเซฟออกไปได้
นาทีที่ 41 การท่าเรือ บุกขึ้นมาอีกระลอก และมีโอกาสลุ้นอีกครั้งจากลูกยิงของ นิติพงษ์ เสลานนท์ บอลพุ่งส่าย แต่ ศิวรักษ์ ยังเซฟด้วยขา พ้นอันตรายออกไปได้
ช่วงท้ายครึ่งแรก การท่าเรือ พยายามโหมบุกหนักหวังตีเสมอให้ได้ แต่ได้แค่หวาดเสียว จบ 45 นาทีแรก บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด นำ การท่าเรือ เอฟซี 2-1
ครึ่งเวลาหลัง
กลับมาลุยต่อ การท่าเรือ เปิดเกมบุกเข้าใส่ทันที แต่จังหวะสุดท้ายยังขาดไปเกินไป ไม่ผ่านแนวรับของบุรีรัมย์
นาทีที่ 56 ปราสาทสายฟ้า ขึ้นเกมทางซ้าย ศศลักษณ์ แตะบอลดึงจังหวะก่อนจะเขี่ยขึ้นหน้าให้ เควิน อินเกรโซ ได้กระชากบอลไปจนสุดเส้นหลังแล้วปาดเข้าในเขตโทษ นฤบดินทร์ เติมเกมขึ้นมายิงบอลเหินข้ามคานออกไป
นาทีที่ 70 ปราสาทสายฟ้า มาได้ฟรีคิกระยะอันตรายหน้ากรอบเขตโทษ เควิน อินเกรโซ ยืนตั้งท่าอยู่ที่บอลก่อนจะเดินเข้าไปยิงด้วยเท้าซ้ายข้างถนัด บอลโค้งเบียดเสาเข้าประตูไปให้ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด หนีห่างเป็น 3-1
การท่าเรือ ยังไม่ท้อ นาทีที่ 77 สุมัญญา เปิดฟรีคิกเข้าไปหน้าประตู โรลันโด้ แบล็คเบิร์น ตัวสำรองได้แปด้วยขวาแต่ติดตัว ศิวรักษ์ เซฟไว้ แต่ก็เป็นจังหวะล้ำหน้าด้วย
นาที 79 ซัวเรซ เปิดบอลเข้ากลาง แบล็คแบิร์น ได้โหม่งกดลงพื้น แต่ ศิวรักษ์ ก็ยังพุ่งปัดบอลออกไปได้
ช่วงเวลาที่เหลือ ไม่มีประตูเพิ่ม จบเกม บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ย้ำแค้น การท่าเรือ เอฟซี 3-1ทำให้ยังนำจ่าฝูง มี 57 คะแนน ทิ้งรองจ่าฝูง สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด อยู่ 2 แต้ม ขณะที่ การท่าเรือ มี 52 คะแนนเท่าเดิม หมดลุ้นแชมป์แน่นอนแล้ว
สำหรับโปรแกรมนัดสุดท้ายของฤดูกาล วันที่ 26 ตุลาคม บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จะไปเยือน เชียงใหม่ เอฟซี ที่ตกชั้นไปแล้ว โดย “ปราสาทสายฟ้า” ถ้าชนะ จะคว้าแชมป์สมัยที่ 3 ติดต่อกันทันที แต่หากเสมอหรือแพ้ ก็ต้องลุ้นให้ สิงห์ เชียงราย ไม่ชนะ สุพรรณบุรี
รายชื่อผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด : ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน (GK), อันเดรส ตูเญซ, นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม, อภิวัฒน์ งั่วลำหิน, ศศลักษณ์ ไหประโคน, ฮาจิเมะ โฮโซไก, สุภโชค สารชาติ, เควิน อินเกรโซ 26MFรัตนากร ใหม่คามิ, นาสเซอร์ บาราซิต, ศุภชัย ใจเด็ด
การท่าเรือ เอฟซี : วรวุฒิ ศรีสุภา (GK), เอเลียส ดอเลาะ, นิติพงษ์ เสลานนท์, เควิน ดีรมรัมย์, ธนบูรณ์ เกษารัตน์, ปกรณ์ เปรมภักดิ์, บดินทร์ ผาลา, สุมัญญา ปุริสาย, ศิวกร จักขุประสาท, เซอร์จิโอ ซัวเรซ, โจซิมาร์
