“จะขายของออนไลน์ การมีเว็บไซต์เป็นสิ่งสำคัญ” เชื่อว่าหลายคนคงเคยได้ยินคำแนะนำประมาณนี้ แต่สิ่งที่สำคัญกว่านั้น คือวิธีการทำเว็บไซต์ต่างหาก หนึ่งในอุปสรรคของธุรกิจที่ต้องการทำการตลาดออนไลน์คือการสร้างเว็บไซต์ เพราะกว่าจะสร้างเว็บไซต์ขึ้นมาได้เว็บนึงนั้น ต้องใช้เวลา อีกทั้งยังมีต้นทุนสูง (ในกรณีที่ต้องจ้างคนอื่นทำ) จะดีกว่าไหมถ้าวันนี้ใคร ๆ ก็สามารถสร้างมินิเว็บไซต์ได้ด้วยตัวเอง ใช้เวลาไม่นาน แถมไม่ต้องลงทุนเพิ่ม เพียงแค่มี LINE Official Account ก็สามารถใช้งานฟีเจอร์นี้ได้
ฟีเจอร์สุดเจ๋งที่ว่านั่นก็คือ “Account Page” นั่นเอง (สามารถเข้าใช้งานผ่านทาง manager.line.biz)
Account Page เป็นเหมือน Mini Website ที่ให้เจ้าของธุรกิจสามารถเพิ่มข้อมูลพื้นฐานของร้านค้า เช่น เวลาเปิด - ปิด งบประมาณเฉลี่ย เบอร์โทรติดต่อ ที่ตั้งของร้าน เป็นต้น อีกทั้งยังสามารถเพิ่มข้อมูลที่มากกว่า โดยจะใส่เป็นข้อความหรือภาพสินค้า ทำเป็นคอลเลกชันก็ยังได้ ที่มากกว่านั้นก็คือ การดึงคูปองส่วนลดหรือบัตรสะสมแต้มที่เคยสร้างไว้บน LINE Official Account มาแสดงผลบนหน้า Account Page ได้ทันที เรียกว่าครบเครื่องในหน้าเดียว
หลังจากมีการเปลี่ยนโฉม LINE@ เป็น LINE Official Account แล้ว แน่นอนว่าฟีเจอร์ต่าง ๆ ก็ถูกอัพเกรดขึ้นรวมทั้ง Account Page ด้วย วันนี้เราจะพามาดูกันว่า Account Page ที่ดีกว่าเดิม ล้ำกว่าเดิม มีลูกเล่นอะไรให้เราบ้าง
1.การจัดการส่วนต่าง ๆ ใน Account Page
การตั้งค่าข้อมูลเบื้องต้นของร้านเรียกได้ว่าเป็นส่วนแรกที่คนเข้ามาจะเห็นก่อน ถ้าสังเกตทางด้านซ้ายมือจะเห็นเครื่องหมาย ขีด 2 ขีด และเครื่องหมายกากบาท หมายความว่าเราสามารถจัดการเรียงลำดับส่วนต่าง ๆ ได้เอง จะเพิ่มหรือ ลดส่วนไหนก็ได้ตามใจชอบ ตัวอย่างเช่น ให้เริ่มต้นด้วยข้อความ ตามด้วยรูปภาพ คูปอง บัตรสะสมแต้ม และคอลเลกชัน ปิดท้ายด้วยข้อมูลพื้นฐาน
2. โปรไฟล์ (Profile)
ข้อมูลในหน้า Profile นี้เป็นเหมือนข้อมูลสำคัญที่สั้น กระชับ แต่ให้ข้อมูลที่ครบถ้วน ข้อมูลจะถูกดึงมาอัตโนมัติจากชื่อบัญชีและสถานะที่ตั้งไว้ใน LINE Official Account และข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับร้านค้า
ส่วนที่เพิ่มเติมคือสามารถใส่ปุ่มกระตุ้นให้เกิดการกระทำบางอย่างได้อีก 3 ปุ่ม เช่น
และด้านล่างของหน้า Account Page จะมีแถบสีที่จะโชว์ข้อมูลของบัญชีและปุ่มที่ได้เลือกไว้ในตอนแรก ซึ่งตรงนี้สามารถเลือกสีได้เองให้สะท้อนถึงตัวตนของแบรนด์เรา
3. ข้อความ (Text)
พื้นที่ในส่วนข้อความ เป็นพื้นที่สำคัญที่ให้เขียนอะไรก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นคำอธิบายสินค้า ประวัติความเป็นมาของธุรกิจ หรือแม้แต่บทความสั้น ๆ ที่เป็นสาระความรู้ เขียนได้สูงสุด 2,000 ตัวอักษร โดยสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการใส่ “Keyword” หรือคำสำคัญที่คนมักใช้ในการค้นหาเพื่อดึงเข้ามาสู่การซื้อสินค้าของเรา เป็นประโยชน์ในเชิง SEO เช่น ถ้าเป็นร้านของฝากที่เน้นขายอาหารทะเลแห้ง ก็ควรใส่คำว่า “อาหารทะเลแห้ง” หรือ “ของฝาก” เพื่อให้คนค้นหาเจอได้ง่ายขึ้นนั่นเอง
4. มีเดียล่าสุด (Recent media)
มีเดียที่ว่าก็คือโพสต์ต่างๆ บนไทม์ไลน์ที่จะนำมาแสดงผลโดยอัตโนมัติและในส่วนนี้ยังสามารถใส่รูปภาพหรือวีดีโอได้ไม่จำกัด แต่จะแสดงผลเพียงแค่ 9 รูปล่าสุดเท่านั้น ในแต่ละรูปก็สามารถเขียนคำบรรยายสั้น ๆ ได้ไม่เกิน 200 ตัวอักษร
5. คอลเลกชัน (Collection)
สำหรับคอลเลกชันจะเป็นเหมือนแคตตาล็อกสินค้าที่ให้ใส่รูป ตั้งชื่อ และใส่ข้อความ พร้อมทั้งลิ้งค์ที่จะส่งลูกค้าไปยังเว็บไซต์หลัก หรือส่งไปยังหน้าสินค้าเหล่านั้นโดยตรงเลยก็ได้ โดยสามารถเพิ่มสินค้าได้ถึง 100 ชิ้น
6. คูปอง (Coupon) และบัตรสะสมแต้ม (Reward card)
สำหรับคูปองและบัตรสะสมแต้ม ถ้าเปิดใช้งานฟีเจอร์เหล่านี้ใน LINE Official Account แล้วก็จะสามารถแสดงผลในหน้า Account Page ได้เลยทันที
7. ข้อมูลพื้นฐาน (Basic info.)
และส่วนสุดท้าย คือข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับธุรกิจ เราสามารถเลือกที่จะแสดงข้อมูลแค่บางส่วนหรือทั้งหมดก็ได้ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้ประกอบด้วยคำอธิบายร้านค้า วันและเวลา เปิด – ปิด ช่วงราคา เบอร์โทรศัพท์ เว็บไซต์ การรับชำระเงิน สิ่งอำนวยความสะดวกที่ร้านมี และปักหมุดแผนที่ (กรณีมีหน้าร้าน)
เพียงเท่านี้คุณก็สามารถมีเว็บไซต์เป็นของตัวเองได้ นอกจากจะเป็นเว็บไซต์ที่ให้ข้อมูลครบถ้วน ใส่รูปภาพและทำกิจกรรมทางการตลาดที่เชื่อมโยงกับ LINE Official Account ได้แล้ว Account Page ยังสามารถค้นหาเจอจากหน้าเว็บอื่น ๆ อีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นการเพิ่มโอกาสให้ลูกค้าเข้ามาที่หน้าเว็บไซต์ของเราที่ดีเลยทีเดียว
กรณีตัวอย่างจากร้าน STAYLEAN อาหารคลีน ที่ใช้ Account Page เป็นอีกช่องทางในการนำเสนอสินค้า
สำหรับลูกค้า LINE@ สามารถดูวิธีการย้ายไประบบใหม่ได้ที่ https://lin.ee/hEmI9AQ
เขียนและเรียบเรียงโดย วณิชชา วรรคาวิสันต์ จาก DIGI.TORY
- LINE Certified Coach 2019
- ติดตามผลงานอื่นๆ ได้ที่ LINE : @digitorystyle