นับตั้งแต่ไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด-19) ระบาด และแพร่กระจายไปยังหลายประเทศทั่วโลก ไม่เพียงส่งผลเรื่องสุขภาพ ความเป็นอยู่ แต่ยังส่งผลเรื่องเศรษฐกิจที่ชะลอจนแทบหยุดชะงัก จนเห็นได้ชัดขณะที่ ยอดผู้เสียชีวิตก็เพิ่มขึ้นในหลักพันคน และยอดผู้ติดเชื้อทั่วโลกก็ใกล้จะแตะหลักแสนเต็มแก่ จนองค์การอนามัยโลกยังต้องประกาศให้เป็นภาวะวิกฤติ เมื่อปัญหาที่กำลังลุกลาม คุกคามทั้งโลกแบบนี้ ซึ่งชีวิตจริงไม่เหมือนในโลกฮอลลีวูด ที่จะมีซูเปอร์ฮีโร่มาช่วยเหลือ ก็ต้องเป็นเหล่าบรรดาบุคลากรทางการแพทย์ทั่วโลกนี่แหละ ที่กำลังคิดค้นหาวิธีจัดการเจ้าไวรัสร้ายและเพื่อให้งานวิจัยดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง ก็จำเป็นต้องใช้งบประมาณมหาศาล จนเป็นที่มาของการที่มหาเศรษฐีชื่อดังทั่วโลก พาเหรดมาบริจาคเงินนับพันล้าน เพื่อช่วยเหลือการวิจัยค้นคว้าต่อสู้ไวรัสร้ายตัวนี้กันอย่างต่อเนื่อง
แจ็ค หม่าถือเป็นมหาเศรษฐีรายแรกๆ ที่ออกมาบริจาค ด้วยทั้งเป็นชาวจีน ต้นทางของไวรัสร้าย และตัวเขาก็ยังเป็นมหาเศรษฐีอันดับ 2 ของจีน แจ็ค หม่า ไม่พูดพร่ำทำเพลงประกาศบริจาคเงินทันที 14.4 ล้านดอลลาร์ เพื่อใช้ต่อสู้กับไวรัสโคโรน่า โดยเงิน 5.8 ล้านเหรียญ จะถูกแบ่งไปให้สถาบันวิจัยสองแห่งในจีน สำหรับคิดค้นวัคซีน ส่วนที่เหลือนำไปใช้สำหรับทางการแพทย์เพื่อมาตรการป้องกันและรักษาในปัจจุบัน
บิล และเมลินดา เกตส์สองสามี-ภรรยามหาเศรษฐีระดับโลก เป็นที่รู้กันดีผ่านมูลนิธิของทั้งคู่ว่า ทำเพื่อสุขอนามัย และต่อต้านโรคร้ายให้หายไปจากโลกใบนี้ บิลและเมลินดาจึงไม่รอช้า บริจาคผ่านมูลนิธิของพวกเขาทันที 10 ล้านดอลลาร์ เพื่อสนับสนุนการต่อสู้กับไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่นี้
เบอร์นาร์ด อาร์โนลด์ธุรกิจแฟชั่นสามารถทำกำไรอย่างมหาศาลในจีน จึงไม่น่าแปลกใจที่ เบอร์นาร์ด อาร์โนลด์ เจ้าพ่อแห่งกลุ่ม LVMH ควักเงินกว่า 2.3 ล้านดอลลาร์ ให้กับสภากาชาดของจีนทันที เพื่อซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ และเวชภัณฑ์สำหรับการรักษาและป้องกัน พร้อมทั้งยังสั่งให้หน่วยงานธุรกิจในเครือช่วยประสานการขนสินค้าและเวชภัณฑ์จำเป็น จากฝั่งยุโรปเข้าไปที่จีนด้วยฟรองซัวร์ อองรี ปิโนลต์ ในโลกแฟชั่น อาร์โนลด์กับปิโนลด์ อาจเป็นคู่แข่งทางธุรกิจระหว่างกัน แต่งานนี้ประธานกลุ่ม Kering ขอร่วมบริจาคให้สภากาชาดจีน และโรงพยาบาลในมณฑลหูเป่ย อีกร่วม 1.1 ล้านดอลลาร์
หม่า ฮั่วเถิงเมื่อ แจ็ค หม่า แห่ง อาลีบาบา ลงขันไปแล้ว อีกหนึ่งมหาเศรษฐีเจ้าของธุรกิจด้านไอทีอย่าง หม่า ฮั่วเถิง แห่งเทนเซ็นต์ คงอยู่เฉยไม่ได้ จึงบริจาคเงินกว่า 50 ล้านดอลลาร์ โดยเน้นให้เงินลงไปยังพื้นที่สีแดงที่มีการแพร่ระบาดมากที่สุด ทั้งยังสั่งให้ทาง Wechat แอปฯ แชทยอดนิยมของจีน ที่เทนเซ็นต์เป็นเจ้าของ อำนวยความสะดวกด้วยฟีเจอร์แผนที่นำทางไปโรงพยาบาลทั้ง 300 แห่งทั่วประเทศจีนอีกด้วย
ลี กา-ชิง มังกรแห่งฮ่องกง วัย 91 ปี ลี กา-ชิง ผู้ร่ำรวยเป็นอันดับ 2 ของเอเชีย แม้จะประกาศวางมือทางธุรกิจไปแล้วเมื่อ 2 ปีก่อน แต่เมื่อเห็นจีนรวมทั้งฮ่องกง กำลังอยู่ในภาวะเสี่ยงสุดขีด จึงขอร่วมบริจาคเงินผ่านมูลนิธิส่วนตัวกว่า 13 ล้านดอลลาร์ ที่จะกระจายไปให้หน่วยงานสภากาชาดทั่วประเทศจีน โดยเฉพาะ ในเมืองอู่ฮั่น
