ค่ายสองล้อยามาฮ่ารุกตลาดรถครอบครัวต่อเนื่อง จัดทริป “ยามาฮ่าฟินน์ทั่วไทยใช้น้ำมันถังเดียว” ชวนสื่อมวลชนและลูกค้าแฟนพันธุ์แท้ ขี่ยามาฮ่า ฟินน์ เที่ยวเชียงใหม่แบบเอ็กซ์คลูซีฟ สัมผัสสมรรถนะการใช้งานจริง ผ่านการขับขี่ขึ้นเขาพิชิตโค้ง ระยะทางรวมกว่า 160 กิโลเมตร โชว์ความคุ้มค่าด้วยอัตราความประหยัดน้ำมันเหลือเชื่อ
ตลาดรถจักรยานยนต์ประเภทรถครอบครัวในเมืองไทยคึกคักอีกครั้ง เมื่อค่ายส้อมเสียงเดินหน้าจัดกิจกรรมรุกตลาดอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด บุกขึ้นเหนือไปที่จังหวัดเชียงใหม่ เปิดทริป “ยามาฮ่าฟินน์ทั่วไทยใช้น้ำมันถังเดียว” ชวนสื่อมวลชนกลุ่มเล็กๆ พร้อมกับลูกค้าแฟนพันธุ์แท้ยามาฮ่าอีก 3 คน มาร่วมพิสูจน์สมรรถนะความคุ้มค่าในกิจกรรมครั้งนี้
อยากรู้ว่าขี่ฟินน์ด้วยน้ำมันถังเดียว จะเที่ยวเชียงใหม่ได้ฟินน์ขนาดไหน-ช่วงท้ายมีคำตอบจากลูกค้าด้วย
ก่อนออกเดินทาง ขอเริ่มต้นด้วยข้อมูลผลิตภัณฑ์ สำหรับ ยามาฮ่า ฟินน์ (Finn) รถครอบครัวรุ่นใหม่ มาพร้อมสโลแกน “ฟินน์กว่า…ก็โดนกว่า” เปิดตัวไปเมื่อช่วงปลายปี 2017 ซึ่งเป็นการเข้ามาทำตลาดแทนที่รุ่นเดิมอย่างรุ่นสปาร์ค(Spark) โดยมีความโดดเด่นอยู่ที่การออกแบบรูปลักษณ์ที่มีความทันสมัย ฟังก์ชั่นใช้งานสะดวกสบาย ขับขี่ง่ายและคล่องตัว
ขุมพลังขับเคลื่อนใช้เครื่องยนต์ 4 จังหวะ ขนาด 115 ซีซี สูบเดียว SOHC ระบายความร้อนด้วยอากาศ สามารถเติมน้ำมันได้หลากหลาย ทั้งเบนซินและแก๊สโซฮอล์ทุกประเภท ไปจนถึง E85 พัฒนาโดยความร่วมมือของ บริษัท ยามาฮ่ามอเตอร์เอเชียนเซ็นเตอร์ จำกัด และบริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ที่ได้ศึกษาความต้องการและการใช้งานของลูกค้าคนไทยโดยเฉพาะ
ล่าสุด มีตัวเลือกสีใหม่ โฉมปี 2019 วางจำหน่ายแล้ว ทั้งแบบล้อแม็กและล้อซี่ลวด ราคาอยู่ที่ 40,200-45,300 บาท
เข้าสู่กิจกรรมการขับขี่ ขบวนความฟินน์ออกสตาร์ทจากร้านเจริญมอเตอร์ ดีลเลอร์เจ้าใหญ่ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ มุ่งหน้าสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่เมืองล้านนา “พระบรมราชานุสาวรีย์สามกษัตริย์” จากนั้นไปทำความดี มอบเงินบริจาคให้กับสถานสงเคราะห์เด็กบ้านเวียงพิงค์ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่ในหลวงรัชกาลที่ 10 เนื่องในวันมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
หลังออกนอกเมือง บิดฟินน์อุ่นเครื่องขึ้นเขาไปที่ อ.แม่ริม เดินเที่ยวชมวิวเหนือยอดไม้บนความสูงกว่า 20 เมตร แบบ 360 องศา บน Canopy Walkway ที่อยู่ในสวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ ก่อนไปอิ่มท้องที่ร้านอาหารโป่งแยง แอ่งดอย เพื่อรับประทานอาหารมื้อเที่ยง
ต่อด้วยพาซิ่งขึ้นเขาที่สะเมิงในช่วงบ่าย ได้พิสูจน์สมรรถนะกำลังเครื่องยนต์อย่างเต็มที่ จุดหมายต่อไปตื่นตาตื่นใจกับแกรนด์แคนยอน สถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ในเชียงใหม่ที่กำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก และปิดท้ายวันนี้ ด้วยการถ่ายภาพเป็นที่ระลึกกับสะพานขัวเหล็กในช่วงหัวค่ำ ซึ่งมีแสงไฟหลากสีสันเป็นจุดดึงดูดให้นักท่องเที่ยวต้องมาเช็กอิน
ส่วนการเดินทางวันที่สอง เริ่มต้นตั้งแต่ตอนเช้าไปที่อ่างเก็บน้ำกาแล ตามด้วยวัดเก่าแก่อย่างวัดอุโมงค์ เสร็จแล้วก็ไปช้อปปิ้งกันที่แลนด์มาร์คสำคัญ “บ้านข้างวัด” บริเวณใกล้เคียงกัน
หลังจากนั้นจึงเคลื่อนขบวนไปที่วัดพระธาตุดอยคำ ไหว้พระขอพรกับพระเจ้าทันใจ บิดไปคลายเหนื่อยกันที่ร้านกาแฟลานดิน ก่อนปิดทริปไปคืนรถทดสอบที่ร้านเจริญมอเตอร์ ในช่วงเย็น รวมระยะทางตลอดทั้ง 2 วัน จากตัวเลขแสดงผลที่หน้าจอ อยู่ที่ 162.6 กิโลเมตร
ขณะที่ตัวเลขอัตราการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง เมื่อเติมกลับเข้าไปแล้วหาค่าเฉลี่ย พบว่าทำได้ 70.69 กิโลเมตรต่อลิตร
“เห็นรถคันเล็กๆ แบบนี้ ขนาดซ้อนสอง แต่เรี่ยวแรงดีใช้ได้ ” หนึ่งในเสียงจากสื่อมวลชนที่ร่วมสัมผัสความฟินน์ ขณะแลกเปลี่ยนความคิดเห็นหลังจบทริปน้ำมันถังเดียวเที่ยวเชียงใหม่ กล่าวและว่า
“ถือว่าประทับใจไม่น้อย เพราะเส้นทางที่ใช้ขับขี่กว่า 80 เปอร์เซ็นต์ เป็นเส้นทางบนเขา เครื่องยนต์ให้การตอบสนองได้ดี แถมยังให้ความประหยัดคุ้มค่า”
ขณะเดียวกันทางด้านลูกค้าแฟนพันธุ์แท้ของยามาฮ่าที่ร่วมกิจกรรมครั้งนี้ พวกเขารู้สึกอย่างไร ทั้ง 3 คนให้คำตอบไว้ว่า
“ริน” ไพรินทร์ ครึ่งธิ อายุ 48 ปี
“ที่บ้านมีมอเตอร์ไซค์ยามาฮ่า 3 คัน มีโอ แกรน์ฟีลาโน่ และฟินน์”
“ถ้าไปไกลก็ใช้รถยนต์ ใกล้ๆ ก็ใช้รถเครื่อง เติมน้ำมันครั้งหนึ่ง 100 บาท ใช้ได้ทั้งอาทิตย์”
“ขี่ยามาฮ่า ฟินน์เที่ยวไกลๆ แบบนี้ เพิ่งเคยครั้งแรก ความรู้สึกก็สะดวกสบายนะ ขึ้นเขาลงเขา ขี่คนเดียวก็นั่งสบายดี ขี่ง่ายด้วย”
“หมาย” พีระพงศ์ ศฤงคาร อายุ 46 ปี
“ที่บ้านเป็นแฟนยามาฮ่ามาตลอด มีรุ่นใหม่ๆ ออกมา เราก็ขายคันเก่าไปซื้อคันใหม่ ตอนนี้ล่าสุด มี 2 คัน ฟินน์ กับ เอ็นแม็กซ์”
“ประทับใจอะไรกับยามาฮ่า ตอบยาก เพราะเราผูกพันกับยามาฮ่ามาตั้งแต่เด็ก คงเหมือนแฟนบอล เชียร์ทีมแมนยูกับลิเวอร์พูล พอเชียร์ทีมไหนแล้วมันเปลี่ยนยาก”
“ฟินน์ ไม่เคยขี่ไกลเลย ใช้ซื้อกับข้าว ส่งน้องไปโรงเรียน พอมาใช้ขี่เที่ยวครั้งนี้ รถมันก็ไปได้นะ แม้เครื่องยนต์จะเล็กไปหน่อย ถ้าเทียบกับการขี่รถใหญ่เที่ยว แต่ข้อดีคือได้ความประหยัด”
“อั๋น” ธวัชชัย สายธรรม อายุ 38 ปี
“ที่บ้านใช้แต่รถยามาฮ่าครับ ก่อนหน้านี้ใช้รุ่นสปาร์ค พอซื้อฟินน์มาแล้วก็ยกคันเก่าให้คุณพ่อใช้”
“ถามว่าทำไมถึงเลือกใช้ยามาฮ่า ผมว่าการออกแบบดูสวย ผมชอบหน้าตาแบบนี้ ดูแล้วมันเท่กว่ายี่ห้ออื่น”
“ทริปนี้สนุกมากครับ เป็นประสบการณ์ที่ดีมาก ตามชื่อทริป ฟินน์มากเลย(หัวเราะ) อีกอย่างผมไม่เคยใช้มอเตอร์ไซค์ขี่เที่ยวไกลๆ แบบนี้ ปกติจะใช้ขี่แค่ในเมือง พอมาขี่ขึ้นดอยจึงรู้ว่าเขาก็พาเราไปได้นะ ไม่ยากอย่างที่คิด”