นายซันเจย์ เมห์รอตรา ผู้บริหารบริษัทไมครอน เทคโนโลยี ผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์ของสหรัฐฯเปิดเผยบีบีซีว่า บริษัทฯได้เริ่มทยอยจัดส่งสินค้าให้กับบริษัทหัวเว่ย ตามปกติ หลังเห็นว่า การจัดส่งสินค้าตามคำสั่งซื้อให้กับหัวเว่ยเป็นเรื่องที่สามารถจะทำได้ไม่ผิดกฎหมาย
ด้านบริษัทอินเทลและผู้ผลิตชิปประมวลผลชั้นนำอื่นๆของโลกเริ่มทยอยจัดส่งสินค้าให้กับหัวเว่ยเช่นกัน โดยหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์ของสหรัฐฯระบุว่า บริษัทไมครอน,อินเทลและผู้นำอุตสาหกรรมผลิตชิปประมวลผลรายอื่นๆได้เลี่ยงคำสั่งห้ามทำธุรกิจกับหัวเว่ย โดยการไม่ติดป้ายสินค้าว่าผลิตในสหรัฐฯ
มาตรการคว่ำบาตรหัวเว่ยของสหรัฐฯนั้นใช้กับสินค้าที่มีส่วนผสมหรือวัตถุดิบจากสหรัฐฯในอัตราร้อยละ 25 หรือมากกว่านั้น แต่สินค้าที่บริษัทสหรัฐฯผลิตจากโรงงานผลิตที่อยู่นอกสหรัฐฯไม่ถือว่าเป็นสินค้าที่ผลิตในสหรัฐฯ บีบีซีตั้งข้อสังเกตว่ามาตรการคว่ำบาตรหัวเว่ยของสหรัฐฯอาจจะทำให้หัวเว่ยสูญเสียรายได้ราว 30,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯในปีนี้ แต่นักวิเคราะห์หลายคนเชื่อว่าหัวเว่ยมีเครื่องสมาร์ทโฟนอยู่ในคลังสินค้าต่างๆมากพอที่จะขายไปได้อีกหนึ่งปี
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม รัฐบาลสหรัฐฯมีคำสั่งห้ามบริษัทสหรัฐฯขายอุปกรณ์และเทคโนโลยีให้กับหัวเว่ย โดยระบุว่า หัวเว่ยเป็นภัยคุกคามความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ
