จำนวนผู้เสียชีวิตจากไฟป่าทางเหนือของรัฐแคลิฟอร์เนียเพิ่มขึ้นเป็น 42 รายแล้วเมื่อวันจันทร์ ถือเป็นไฟป่าครั้งประวัติศาตร์ที่สร้างความเสียหายครั้งใหญ่ที่สุดให้รัฐแคลิฟอร์เนีย
คอรี โฮเนีย นายอำเภอเทศมณฑลบัตต์กล่าวว่าพบร่างของผู้เคราะห์ร้ายที่เสียชีวิตอีก 13 ศพทำให้จำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นมาเป็น 42 รายแล้ว และกล่าวว่าไฟป่าครั้งนี้ถือเป็นไฟป่าครั้งรุนแรงที่สุดของประวัติศาสตร์รัฐแคลิฟอร์เนีย
ขณะที่นักดับเพลิงนับพันปฏิบัติการควบคุมไฟป่า “แคมป์ไฟเออร์” ที่เชิงเขาเซียร์รา เนวาดาเป็นวันที่ 5 ส่วนทีมปฏิบัติการกู้ภัยก็ค้นหาร่างผู้เสียชีวิตต่อไปด้วยความหวังอันริบหรี่ โดยแม้ว่าการเก็บข้อมูลไฟป่าจะไม่แน่นอน แต่แคมป์ไฟเออร์ถึงเป็นไฟป่าครั้งร้ายแรงที่สุดที่เกิดขึ้นในสหรัฐฯ ในรอบ 100 ปี หลังจากไฟป่า “โคลเกต์ไฟเออร์” (Cloquet Fire) เคยทำให้ประชาชนในรัฐมินเนโซตาเสียชีวิตไปราว 1,000 รายเมื่อปี 2461
แคมป์ไฟเออร์เป็นไฟป่าขนาดใหญ่ที่สุดเมื่อเทียบกับไฟป่าแห่งอื่น ๆ ที่เกิดขึ้นในรัฐ ซึ่งทำให้ประชาชนรวม 250,000 รายต้องอพยพออกจากบ้าน เนื่องจากความเร็วลมสูงสุด 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำให้เพลิงลุกลามอย่างรวดเร็ว โดยตอนนี้แคมป์ไฟเออร์เผาทำลายบ้านเรือนในเมืองพาราไดซ์ไปแล้ว 6,500 หลังคาเรือน อันเทียบได้กับการลบเมืองออกจากแผนที่ไปโดยปริยาย
ไฟป่าแคมป์ไปเออร์ทำลายพื้นที่ป่าบนเขาของเทศมณฑลบัตต์ไปทั้งหมด 45 ตารางกิโลเมตร ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวมีฝนตกไม่ถึงหนึ่งเซนติเมตรมานานกว่า 30 สัปดาห์แล้ว โดยหน่วยป่าไม้และป้องกันเพลิงของแคลิฟอร์เนีย (California Department of Forestry and Fire Protection) กล่าวว่าขณะที่ควบคุมเพลิงได้แล้ว 25 เปอร์เซ็นต์