เคยไหมที่อยากฟังแจ๊ส แต่ครั้นจะเปิดฟังจากมือถือก็รู้สึกมันไม่ได้ฟีล จะเสิร์ชหาลิสต์ร้านก็รู้สึกว่าทำไมมีแต่ร้านหรูๆ ต้องแต่งตัวดี จิบซิงเกิลมอลต์เท่านั้น แต่มันก็ไม่เสมอไป เพราะครั้งนี้ THE STANDARD POP อยากชวนทุกคนให้กลับไปทองหล่ออีกรอบ ณ แจ๊สบาร์บรรยากาศสบายๆ คล้ายไปดื่มที่บ้านเพื่อน พร้อมกับเซตแผ่นเสียงเก่าที่พาย้อนวันวานกลับสู่ยุค Golden Age ของแจ๊ส ไล่มาเรื่อยๆ จนถึงยุคปัจจุบันและร่วมสมัยที่ดิว่า (Diva) ไม่จำเป็นต้องเป็นคนแอฟริกันเสมอไป แต่อาจเป็นชาวญี่ปุ่นก็ได้
เลยปากซอยทองหล่อ 17 มานิดหน่อย ลองสังเกตป้ายสัญลักษณ์นกสีฟ้าถือไวนิลและแซกโซโฟน แล้วเดินทะลุเข้าตึกแถวมาไม่กี่ก้าวก็พบกับ Bluebird Jazz Bar ห้องนั่งเล่นที่ต้อนรับทุกคนให้มานั่งฟังแจ๊สด้วยกัน
แจ๊สบาร์แห่งนี้เกิดขึ้นจากไอเดียของ แอนดี้ แพทย์หนุ่มที่เริ่มหลงใหลแผ่นเสียงและดนตรีแจ๊สเมื่อครั้งไปเรียนต่อที่อเมริกา และพบรักกับเครื่องเล่นแผ่นเสียงที่ร้านขายของเก่าแห่งหนึ่ง หลังจากที่มีเครื่องเล่นแล้ว เขาก็เริ่มทยอยฟังเพลงหลายๆ แนว จนมาลงตัวที่แจ๊ส และนั่นคือจุดเริ่มต้นของการเก็บสะสมแจ๊สไวนิล และตะลุยแจ๊สบาร์ทุกครั้งที่เดินทางไปต่างประเทศ เมื่อกลับมาไทยก็อยากทำพื้นที่เล็กๆ เป็นแจ๊สบาร์ประจำชุมชนให้ใครก็ได้แวะมานั่งเล่น นั่งฟัง นั่งคุย หรือนั่งจิบ แล้วได้มิตรภาพและความรู้สึกดีๆ ติดไม้ติดมือกลับบ้าน
บรรยากาศด้านในค่อนข้างสลัว แต่อบอุ่นและเป็นกันเองจริงๆ ยิ่งมีโต๊ะเก้าอี้และโซฟาคละแบบ เสียงเพลงคลอที่ดังมาจากเครื่องเล่นแผ่นเสียง เปียโนที่วางอยู่มุมหนึ่งของร้าน (ซึ่งเล่นได้จริง) และของสะสมชิ้นเล็กชิ้นน้อยที่เกี่ยวกับดนตรี ก็รู้สึกเหมือนอยู่ในห้องนั่งเล่นบ้านเพื่อน แถมวันดีคืนดีก็อาจจะเจอแขกด้วยกันเองที่ลุกไปเล่นเปียโน หรือแจมไลฟ์แบนด์ด้วยนะ
แน่นอนว่านี่เป็นบาร์ ก็คงขาดเครื่องดื่มไปเสียไม่ได้ แวะไปที่เคาน์เตอร์เล็กด้านในสุด มีลิสต์คลาสสิกค็อกเทล และซิกเนเจอร์อีกนิดหน่อยให้เลือกสั่งมาแกล้มเสียงเพลง ถ้าค็อกเทลไม่ใช่สไตล์ ก็มีเหล้า ไวน์ และเบียร์พอหอมปากหอมคอ ส่วนของกินเราแนะนำให้อิ่มท้องมาก่อน จากนั้นค่อยมานั่งดริงก์พร้อมของขบเคี้ยวอีกเล็กน้อยให้พอเพลิน
มา Bluebird ก็ต้องสั่ง Bluebird (320 บาท) จินค็อกเทลรสเปรี้ยวอมหวานที่ได้สีฟ้าสดใสมาจากเหล้าหวาน Blue Curaçao และรสเปรี้ยวของเลมอน ดื่มง่าย ให้ความสดชื่น แถมยังเสิร์ฟมาในแก้วใสนกฟ้า (ที่แอบเหมือนโลโก้ทวิตเตอร์)
ต่อด้วยคลาสสิกค็อกเทลที่เราว่าเหมาะกับการฟังแจ๊ส เหล้าเข้มนำไว้ก่อนอย่าง Old Fashioned (360 บาท) เบอร์เบินวิสกี้ น้ำตาลก้อน และบิตเทอร์ แล้วบีบเปลือกส้มให้ละอองน้ำมันหอมระเหยฟุ้งเต็มแก้ว จิบทีละนิดแล้วดื่มด่ำไปกับค่ำคืนแห่งแจ๊สและแผ่นเสียง
Negroni (380 บาท)คลาสสิกค็อกเทลอีกตัวที่เหมาะสำหรับนั่งจิบยาวๆ จิน คัมปารี และสวีทเวอร์มุท ไม่เคยทำให้เราผิดหวังแม้แต่ครั้งเดียว
ในส่วนของอาหาร แม้จะมีสแน็กไม่กี่อย่าง แต่รสชาติก็ดีไม่เบา Shumai (140 บาท)ขนมจีบหมูไส้แน่นเน้นๆ เต็มปากเต็มคำ หรือจะเป็น Potato Wedges (160 บาท)มันฝรั่งชิ้นใหญ่ทอดแล้วคลุกเคล้าผงปาปริก้า จิ้มซอสมะเขือเทศ แล้วต่อด้วยซาวครีม ชิ้นเดียวเอาไม่อยู่แน่นอน
คราฟต์ขึ้นมาหน่อยก็คงต้องเป็น Smoked Octopus (320 บาท) หนวดหมึกยักษ์รมควันสูตรพิเศษจาก Meat & Bones ร้านเนื้อเจ้าดังแห่ง The COMMONSทองหล่อ หมึกยักษ์สัมผัสเหนียวนุ่มหนึบหนับ เรียกน้ำย่อยและเป็นกับแกล้มที่ดี บีบเลมอนอีกนิดคือเพอร์เฟกต์
What You Should Know:
- ดนตรีแนวแจ๊ส เน้นเปิดจากแผ่นเสียง ใครที่อยากฟังของศิลปินคนไหน หรืออัลบั้มใดลองสอบถามทางร้านได้ ส่วนไลฟ์แบนด์สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติม และตารางเล่นได้จากเฟซบุ๊กแฟนเพจ
- เป็นเรื่องปกติหากค่ำคืนสุดสัปดาห์จะมีแขกมาร่วมสร้างบรรยากาศครื้นเครงด้วยการเซตอัพแบนด์เฉพาะกิจ ครบครันทั้งนักร้อง มือเปียโน หรือบางทีก็อาจจะมีแซกโซโฟนมาเสริมด้วย
Bluebird Jazz Bar
Open: วันอังคาร-เสาร์ เวลา 19.00-24.00 น.
Address: ระหว่างซอยทองหล่อ 17 กับ 19
Budget: 500-1,000 บาท
Contact: 08 9777 9248
Website: www.facebook.com/pg/bluebirdjazzbar/
Map:
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์