โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

ไปต่อ..หรือรอต่อไปดี ? - เพจบันทึกนึกขึ้นได้

TOP PICK TODAY

อัพเดต 27 ต.ค. 2563 เวลา 04.19 น. • เผยแพร่ 12 มี.ค. 2563 เวลา 03.16 น.

คุณเคยรอใครสักคนนานที่สุดแค่ไหน

หนึ่งสัปดาห์ หนึ่งเดือน หนึ่งปี หรือผ่านมาตั้งหลายปีแล้ว ตอนนี้ก็ยังรออยู่

 

เอาเข้าจริงๆ การรอใคร หรือรออะไรสักอย่างเนี่ยมันเป็นเรื่องปัจเจกบุคคล

คือ บางคนก็เต็มใจรอ บางคนก็ ไม่ไหวอะ ไปต่อไม่รอแล้วนะ

 

แต่มันก็ยังค้างคาอยู่ในหัวผมอยู่หลายวันว่า

สรุปแล้วถ้าเราต้องรอใครสักคน หรือต้องอยู่ในสถานการณ์นั้น

เราจะไปต่อ หรือรอต่อไปดี

 

อะไรที่ทำให้เราตัดสินใจเลือกที่จะรอใครสักคน

เราคาดหวังว่าการรอนั้น จะยาวนานหรือสิ้นสุดลงเมื่อไหร่

ทำไมการต่อแถวรอคิวซื้อของ หรือถือสายรอโอเปอร์เรเตอร์

เราถึงบ่นยุบยับ หัวเสีย หัวร้อน

 

แต่การที่ต้องรอใครสักคนกลับมา

เราถึงให้ค่าของเวลาไว้นานจนแทบไม่เคยหยิบนาฬิกามาดูเลย

 

มีคนเคยถามผมว่า พี่จะรอต่อไปไหม

ถ้าสุดท้ายแล้วความรู้สึกพี่มันยังไปไหนไม่ได้เลย

 

โห แค่คำถามก็คือพี่อ้อยพี่ฉอดแล้ว

แล้วผมจะมีหน้าที่ไหนไปเสนอหน้าให้คำปรึกษาคนอื่นเขา

 

ก็เลยได้แต่เอามาคิดต่อว่า

มีบางครั้งในชีวิตที่ผมเป็นคนรอ และเป็นคนปล่อยให้ใครสักคนรอเหมือนกันนะ

 

เรียกว่าไม่ใช่คนดี 

ช่วงที่ผมปล่อยให้ใครสักคนรอเนี่ย

มันเป็นช่วงที่ผมไม่แน่ใจกับตัวเอง

เรียกว่าเป็นช่วงเห็นแก่ตัว เรารู้สึกว่าเราอยากเบรก

มาทบทวน ว่าจริงๆ แล้วเราอยากได้อะไรจากความสัมพันธ์กันแน่

ยังใช่คนนี้มั้ย หรือควรเริ่มใหม่ หรือหยุดพักสักหน่อยดี

 

เราเลยปล่อยให้ใครสักคนรอ

โดยที่เราเองก็ไม่รู้ว่า เมื่อไหร่เราจะคิดได้

แล้วไอ้การคิดเรื่องพวกนี้ เราก็ไม่ได้จดจ่อกับมันตลอดเวลา

เราทำงาน เราทำหน้าที่ต่างๆ ไปในทุกๆวัน

พอว่าง หรือเผลอก็กลับมาคิดว่า เออ เอาไงดี

คือคนที่ปล่อยให้อีกคนรอ

เวลามันไม่ได้เดินช้าเหมือนคนที่รอหรอก

 

ผมเคยเขียนบันทึกไว้บทนึงสั้นๆ ว่า

เวลาปล่อยให้ใครสักคนรอ

อย่าดูเวลาที่จริง

ให้ดูเวลาที่ใจ

เพราะไม่ว่าจะวัดกันที่ไหน

เวลาที่ใจ มักนานกว่าเวลาที่จริงเสมอ

 

แล้วตอนนั้นผมไม่ใช่คนรอไง

ผมก็ไม่ได้คิดว่าทุกๆ วันที่ผ่านไป

มันจะนาน และทำให้อีกคนรู้สึกว่าเออ มันเจ็บปวดนะ

กับการรอคำตอบจากใครสักคน

 

จนกระทั่งวันหนึ่งผมก็ได้กลายมาเป็นคนที่ต้องรอบ้าง

 

โอ้โห รู้รสถึงการยืนรอที่ป้ายรถเมล์ แล้วรถไม่มาสักที

แต่ในใจก็ยังรู้สึกอยู่เสมอนะว่า

เออ เดี๋ยวมันก็มา

 

เลยลองสังเกตรอบๆป้ายรถเมล์ดูนะว่า

จะมีคนไม่กี่แบบที่ยืนรออยู่ตรงนั้น

 

บ้างก็รอรถเมล์คันที่ตัวเองต้องการคันเดียวเท่านั้น

บ้างก็ถ้าคันไหน มันน่าจะผ่าน แล้วพาเราออกไปจากที่นี่

เขาก็ขึ้นไป

บ้างก็รอสักพัก พอเห็นท่าว่าไม่มีวี่แวว

แท็กซี่มาก็รีบโบก

 

แต่ไม่ค่อยมีใครรอจนข้ามวัน

 

เพราะเราต่างรู้นะว่า

รอรถรอบต่อไปเมื่อไหร่มันจะมา

แต่การรอให้ใครสักคนกลับมา

เราไม่มีวันรู้เลย

 

แต่ในวันนั้น

ผมเป็นคนรอรถเมล์ที่ผมต้องการข้ามวัน

ผมไว้เวลารอทั้งสิ้นเป็นเวลาหนึ่งปี

 

เป็นหนึ่งปีที่ผมรอโดยที่สุดแล้ว

ไม่มีอะไรเกิดขึ้น

มีเพียงความหวังลมๆ แล้งๆ

ว่าสุดท้าย สิ่งที่เรารอมันจะโผล่หน้ามาจ๊ะเอ๋ให้ชื่นใจ

 

ถ้ามันเป็นสิ่งที่ควรค่ากับเรา เรายินดีที่จะรอ

 

แต่ถามว่าการรอ ที่บางครั้งก็ลมๆ แล้งๆ แบบนี้

รอแล้วได้อะไร(นิวจิ๋วก็มา)

 

เอาจริงๆ ผมคิดไปเองทั้งหมดว่าผมควรค่ากับสิ่งที่ผมรอ

แต่ถ้ารอแล้วไม่มา

บางทีเราก็ต้องคิดว่า หรือจริงๆ สิ่งนั้น หรือคนนั้นไม่ได้ควรค่ากับเรา

 

จริงๆ ก็ไม่ใช่ปีที่เสียเปล่าไปกับการรอหรอก

เพราะระหว่างรอ เราก็ยังใช้ชีวิตแบบปกติต่อไป

เพียงแค่สายตาเรายังชำเลืองหาสัญญาณบางอย่าง

มันจะบีบแตรเรียกมั้ย หรือรถเสียนะะทำไมไม่มาสักที

 

ผมถามเพื่อนทุกคนว่าผมควรรอต่อไปไหม

แน่นอน ทุกคนตอบว่า มึงบ้าไหม รอทำไม

 

แต่คุณคิดเหมือนผมมั้ยครับ

เวลาเราถามใครสักคนเกี่ยวกับอะไรสักอย่าง

เรามักมีธง หรือมีคำตอบอยู่ในใจอยู่แล้ว

 

เพียงแค่เราต้องการใครสักคนมาสนับสนุนความคิดเรา

ใครเห็นด้วยเราก็ทดแต้มเอาไว้

ใครเห็นต่างเราก็ อือ ๆแล้วก็บอกว่า จะพยายาม

 

เรามีคำตอบอยู่ในใจ

เรารู้ว่าเราจะรอมั้ย

ถึงแม้ว่าสุดท้ายแล้วจะไม่พบอะไรเลยหลังการรอ

 

แต่พอมันมาถึงจุดหนึ่ง

จุดที่ผมคิดขึ้นมาได้ว่า

 

รอต่อไปทำไมวะ

การมีชีวิตอยู่ต่อ คือการรอให้ใครสักคนกลับมา

ถึงจะรู้สึกดีกับชีวิตต่อไปหรอ

 

ทำไมถึงต้องมีความสุขเมื่อมีเขา

ในขณะที่ก่อนหน้านั้นก็อยู่ได้

นี่เราโฟกัสสิ่งที่เคยเกิดขึ้น แล้วอยุ่กับมัน

แทนที่จะอยู่กับสิ่งที่มันกำลังเกิดขึ้นกับเราจริงๆ ตรงนี้รึเปล่า

 

สิ่งที่ผมคิดได้ คือผมไม่ให้เกียรติตัวเองเลย

ไม่คิดเลยว่าบางครั้งเราก็มีความสุขกับการรอ และยืนตากแดดอยู่ที่ป้ายรถเมล์

 

สุขที่หวังไปเองว่า สุดท้ายแล้วมันจะมา

แต่เป็นสุขปลอมๆ ที่หลอกตัวเองไปวันๆ

 

พอคิดได้แบบนั้นแล้วก็บอกตัวเองว่า

โอเค ไปต่อดีกว่า

เราควรจะมีความสุขได้ด้วยตัวเอง

เราควรเป็นคนที่มีความสุขด้วยตัวเองก่อน

แล้วค่อยมีใครสักคน มาแชร์ความสุขนั้น

ไม่ใช่การวิ่งหา หรือรอใครมาทำให้เรามีความสุข

 

อย่ารอในสิ่งที่ควบคุมไม่ได้

อย่ารอใครที่ไม่เคยบอกว่าเมื่อไหร่จะกลับมา

 

บางคนอาจจะคิดว่า เพราะผมยังรอไม่มากพอ

ผมจึงไม่ได้สิ่งนั้น

 

อย่าลืมว่าเราไม่ได้เกิดมาเพื่อรอ

การปลูกต้นไม้ที่เรารู้ตั้งแต่แรกแล้วว่า มันเป็นไม้ไร้ดอก

ไม้ไม่มีผล

แล้วการรอยืนรอมันออกดอกออกผล

มันจะมีประโยชน์อะไร

 

โค่นมันไปเลย

ไม่ก็ปล่อยให้มันเติบโตในแบบที่มันควรจะเป็น

 

เช่นเดียวกับผม ที่ควรจะใช้เวลาที่เหลือ

เติบโตในแบบที่ผมควรจะเป็น

 

ผมไม่รู้ว่าคุณจะเป็นเหมือนผมมั้ย

หรือมีความคิดเห็นต่างกันออกไปรึเปล่า

แวะเข้าไปบอกกันในเพจ บันทึกนึกขึ้นได้ หรือคอมเมนต์ไว้ในนี้

ว่าช่วงเวลาที่คุณรอนานที่สุด หรือนานแค่ไหน

สุดท้ายผลของมันเป็นอย่างไร

 

ถ้ายืนยันจะรอ ผมก็เอาใจช่วย

แต่ถ้าไม่ไหว ผมว่าเราควรไปต่อ

 

ไม่ต้องรอแล้วนะ

 

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0