จากทีมที่ก่อตั้งเป็นรูปเป็นร่างในปี 2004 ไปถึงแชมป์โปรวินเชี่ยลลีก ดิวิชั่น 2 อีก 2 ปีถัดมา ส่งผลให้ปี 2007 สโมสรราชบุรี ได้สิทธิ์ลงแข่งขันฟุตบอลดิวิชั่น 1 เป็นปีแรก แต่โชคร้ายที่ไม่สามารถยืนระยะได้นานพอ ทีม“มังกรแห่งลุ่มน้ำแม่กลอง”จึงหล่นชั้นอีกหนในปีต่อมา
กระทั่งปี 2009 การแข่งขันฟุตบอลลีกระดับภูมิภาคถูกแบ่งออกเป็นโซนต่างๆทั่วประเทศ พร้อมกับการเข้าเทคโอเวอร์ทีมอย่างเป็นทางการโดย กลุ่มกาญจนากรุ๊ป นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญต่อสโมสรมาจนถึงทุกวันนี้
ด้วยความเป็นทีมระดับภูมิภาค การเลือกใช้สีประจำสโมสรจึงอ้างอิงตามสีประจำจังหวัด โดยในขณะนั้นคือสีฟ้า แต่ “ฟลุ้ค” ธนวัชร์ นิติกาญจนา ผู้บริหารสโมสรกลับมองว่าสีฟ้าเป็นสีของขนม ทำให้คู่แข่งที่เจอกันมองทีมเป็นเหมือนขนมหวาน จึงตัดสินใจเปลี่ยนสีโมสรเป็นสีส้ม โดยให้เหตุผลว่าเป็นสีที่ใส่ยาก จะใช้เฉพาะโอกาสพิเศษเท่านั้น เมื่อนำมารวมกับความชอบในฟุตบอลทีมชาติฮอลแลนด์ด้วยแล้ว รูปโฉมของทีมจึงเปลี่ยนไป
ตามประวัติศาสตร์ ราชบุรี มีความผูกพันกับรัชกาลที่ 1 พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช โดยพระองค์ทรงเคยมารับราชการในตำแหน่งหลวงยกกระบัตร ที่จังหวัดราชบุรี ก่อนที่พระองค์จะทำการปราบดาภิเษกขึ้นเป็นกษัตริย์พระองค์แรกของราชวงศ์จักรี จากจุดนี้ทำให้ ธนวัชร์ มองว่า ราชบุรี คือจังหวัดของพระราชา จึงนำมารวมกับ ลวดลายจากโอ่งมังกร ของขึ้นชื่อประจำจังหวัด ทำให้เกิดฉายา “ราชันมังกร” มาจนถึงทุกวันนี้
นับตั้งแต่เปลี่ยนสีเสื้อ และฉายา สโมสรเดินหน้าเลื่อนชั้นอย่างต่อเนื่อง แชมป์ดิวิชั่น 2 โซนภาคกลาง-ตะวันออก แชมป์ระดับดิวิชั่น 1 จนปี 2013 ทีมสามารถขึ้นมาสู่ไทยลีกได้สำเร็จ แม้จะทุลักทุเลไปบ้างในปีแรก แต่อีก 4 ฤดูกาลถัดมา ราชบุรี มิตรผล เอฟซี ก็ไม่เคยจบด้วยอันดับต่ำกว่า 10 อีกเลย
ปี 2018 ที่ผ่านมาพวกเขาต้องเผชิญกับช่วงเวลาที่ไม่ดีนัก ด้วยอันดับที่จบได้ต่ำกว่ามาตรฐาน ซ้ำร้ายยังต้องดิ้นรนหนีจากการตกชั้นถึง 5 ทีม มาในซีซั่นนี้ทีม “ราชันมังกร” จึงตัดสินใจเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่อีกครั้ง เริ่มตั้งแต่การเปลี่ยนผู้เล่นต่างชาติเกือบยกชุด การหั่นชื่อกุนซือใหม่ออกไปตั้งแต่ยังไม่เริ่มฤดูกาล รวมไปถึงการเปลี่ยนโลโก้ประจำทีมที่ใช้มาอย่างยาวนานถึง 5 ปี
ราชบุรี มิตรผล เอฟซี
ฉายา : ราชันมังกร
ตัวย่อ : RBMFC
ก่อตั้ง : 2004 (15 ปี)
สนาม : มิตรผล สเตเดี้ยม
ความจุ : 13,000
เจ้าของทีม : บริษัท ราชบุรี ฟุตบอลคลับ จำกัด
ประธานสโมสร : บุญยิ่ง นิติกาญจณา
หัวหน้าผู้ฝึกสอน : ฟรานเชสก์ บอช
ผลงานในฤดูกาลที่ผ่านมา : โตโยต้า ไทยลีก อันดับที่ 12
แฟนเพจอย่างเป็นทางการ : www.facebook.com/RBMFCOFFICIAL
รายชื่อนักเตะ ราชบุรี มิตรผล เอฟซี ฤดูกาล 2019
ผู้รักษาประตู : อุกฤษณ์ วงศ์มีมา, ไพโรจน์ เอี่ยมมาก, กฤษฎา โนนชัย
กองหลัง : ศิลา ศรีกำปัง, สุรีย์ สุขะ, ฟิลิป โรลเลอร์, ปวีร์ ตันฑะเตมีย์, ประวีณวัช บุญยงค์, จิรวัฒน์ ทองแสงพราว, เตียน ตัน วิน, เดอชิว ฟิลโญ่, ศาสนพงษ์ วัฒยุชูติกุล, เอกลักษณ์ ทองกริต
กองกลาง : ณัฐวุฒิ สมบัติโยธา, มนตรี พรมสวัสดิ์, มานูเอล อ๊อด, สตีเว่น ล็องจิล, ปฐมชัย เสือสกุล, ชุติพนธ์ ทองแท้, นรากร นุ่มชาญสกุล, อามิน นาซารี่, กฤษณนน ศรีสุวรรณ
กองหน้า : สมปอง สอเหลบ, คัง ซู อิล, ยานนิค โบนี, ยศศักดิ์ เชาวนะ, สิทธินันท์ รุ่งเรือง
สถิติสโมสร (นักเตะ)
ลงเล่นมากที่สุด(ทุกรายการ) : ชุติพนธ์ ทองแท้ 165 นัด
ยิงประตูมากที่สุด(ทุกรายกร) : เฮแบร์ตี้ แฟร์นานเดส 65 ประตู
ทำประตูรวมสูงสุดในหนึ่งฤดูกาล(ทุกรายการ) : เฮแบร์ตี้ แฟร์นานเดส 26 ประตู (ฤดูกาล 2014)
ทำประตูรวมสูงสุดในฤดูกาลแรกกับทีม(ทุกรายการ) : เฮแบร์ตี้ แฟร์นานเดส 26 ประตู (ฤดูกาล 2014)
อายุน้อยที่สุดที่ทำประตูได้ : เควิน ดีรมรัมย์ 20 ปี 38 วัน (พบ ซุปเปอร์พาวเวอร์ สมุทรปราการ 17 ตุลาคม 2017)
อายุมากที่สุดที่ทำประตูได้ : ประทุม ชูทอง 35 ปี 161 วัน (พบ พัทยา ยูไนเต็ด 12 พฤษภาคม 2018)
ค่าตัวแพงสุด (ซื้อ) : บิลล์ โรซิมาร์ อามันซิโอ จาก อเมริกา มิเนโร่ 39 ล้านบาท (29 มกราคม 2018)
ค่าตัวแพงสุด (ขาย) : เฮแบร์ตี้ แฟร์นานเดส ไป อัล ชาบับ ริยาร์ด 71 ล้านบาท (3 กรกฎาคม 2016)
ทำเนียบแชมป์
ลีกภูมิภาค ดิวิชั่น 2 : ภาคตะวันออก อันดับที่ 1 (2011)
ลีกภูมิภาค ดิวิชั่น 2 : อันดับที่ 1 (2011)
ไทยลีก ดิวิชั่น 1 : อันดับที่ 1 (2012)
เอฟเอ คัพ : 1 สมัย (2016)
รู้จักเฮดโค้ช : ฟรานเชสก์ บอช
แม้จะถูกแต่งตั้งได้ไม่นาน แต่ก็มีอันต้องอำลาทีมไปอย่างรวดเร็วเช่นกันสำหรับกุนซืออย่าง มาร์เกวซ โรมา “มาโนโล่” เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้แฟนบอลทีม “ราชันมังกร” หวั่นใจพอสมควรว่าทีมจะวุ่นวายไม่แพ้ฤดูกาลที่ผ่านมา
แต่ด้วยความกล้าในการตัดสินใจของ “เสี่ยฟลุ้ค” ธนวัชร์ นิติกาญจนา รองประธานสโมสรฯ จึงทำการดึงมือขวาของ อิวาน ปาลังโก้ อดีตเฮดโค้ชเคยผู้พาทีมทะลุเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศในฟุตบอลลีก คัพ ปี 2013 มาแล้วอย่าง บอช มารับเผือกร้อนชิ้นนี้ด้วยความหวังที่ว่าทีมต้องไปไกลกว่าที่เป็นอยู่
แม้จะเป็นการเข้ามาทำหน้าที่อย่างกะทันหัน แต่ด้วยประสบการณ์การคุมทีมระดับเยาวชนของทีมยักษ์ใหญ่ในสเปนอย่าง บาร์เซโลน่า บวกกับความเชื่อมั่นในสไตล์การทำทีมจากรองประธานสโมสร จึงคาดว่ากุนซือหนุ่มวัย 30 ปี จะเป็นผู้ที่พาทีม “ราชันมังกร” จบอันดับด้วยเลขตัวเดียวในลีกพร้อมคว้าแชมป์ฟุตบอลถ้วยหนึ่งรายการเป็นอย่างน้อย
สตาร์เด่น : ฟิลิป โรลเลอร์
ไม่มีข้อกังขาใดๆในฝีเท้าของแบ็กจอมบุกผู้นี้ เพียงแค่ 7 นัด ของฤดูกาลแรกที่ย้ายมา ก็สามารถพิสูจน์ตัวเองจนก้าวขึ้นไปติดทีมชาติไทยชุดใหญ่ในยุคของ มิโลวาน ราเยวัช ได้อย่างต่อเนื่อง ด้วยจุดเด่นที่มีความรวดเร็ว พลังการทะลุทะลวง ความแข็งแกร่ง และความดุดัน จึงช่วยยกระดับให้เกมริมเส้นของราชบุรีน่ากลัวมากยิ่งขึ้นในช่วง 2 ปีหลัง โดยเฉพาะในฤดูกาลที่ผ่านมาที่ทำไป 2 ประตู กับอีก 5 แอสซิสต์ จากการลงเล่นทั้งหมด 33 นัด ทำให้ตอนนี้แบ็กขวาลูกครึ่งไทย-เยอรมัน กลายเป็นผู้เล่นตัวหลักที่ทีม “ราชันมังกร” จะขาดไม่ได้เสียแล้ว
บทวิเคราะห์
การปล่อยผู้เล่นต่างชาติทั้ง โจเอล ซามี่, ยานนิค ยาโล, เนริยุส วัลสกีส์, รวมไปถึง มาร์ค ฮาร์ทมันน์ นั่นหมายถึงการเปลี่ยนแปลงทีมครั้งใหญ่ตั้งแต่ก่อตั้งทีมมา เพราะผู้เล่นหน้าใหม่ที่เข้ามาแทนล้วนแต่มีดีกรีที่ไม่ด้อยไปกว่ากันทั้ง เดอซิว เด โอลิเวรา ฟิลโญ แข้งชาวบราซิล ที่สูงถึง 191 เซนติเมตร, อามิน นาซารี ห้องเครื่องดีกรี ทีมชาติฟิลิปินส์, ยานนิค โบลี อดีตดาวเตะ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง และสตีเว่น ล็องจิล ที่ย้ายมาจาก เอ็นอีซี ไนจ์เมเก้น ทีมดังจากลีกรองแดนกังหัน เมื่อนำมารวมกับกลุ่มตัวผู้เล่นที่มีคุณภาพสูงอยู่แล้ว อย่าง ประวีณวัช บุญยงค์, ฟิลิป โรลเลอร์, ชุติพนธ์ ทองแท้, ปฐมชัย เสือสกุล, และ ณัฐวุฒิ สมบัติโยธา อีกทั้งการได้กุนซือที่มีความคุ้นเคยกับนักเตะดีอยู่แล้วอย่าง ฟรานเชสก์ บอช เชื่อได้เลยว่านี่คือทีมที่มีศักยภาพจะเป็นม้ามืด และไม่ใช่เรื่องยากเลยในการกลับขึ้นมาจบด้วยอันดับเลขตัวเดียว
อีกหนึ่งการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญของทีม “ราชันมังกร” ในปีนี้คือ การเปลี่ยนโลโก้ของทีม ที่จากเดิมเป็น Badge แบบ 4 ช่อง เหมือนโรงเรียนนานาชาติ โดยช่องซ้ายบน มีตัวอักษรว่า RBMFC ย่อจากราชบุรี มิตรผล เอฟซี ช่องขวาบน เป็นมงกุฏ เขียนคำว่า Pride หรือความภาคภูมิใจ ช่องซ้ายล่าง เป็นมังกรสีส้มหันข้าง และช่องขวาล่าง เป็นฉายาว่า The Dragons กลายมาเป็น กราฟฟิกลายมังกรหันหน้าตรง ซึ่งเปรียบได้ดั่งการหันหน้ารับมือคู่แข่ง โดยอ้างอิงตามหลักฮวงจุ้ย และความเป็นศิริมงคล
พร้อมกันนี้ยังตัดกรอบออกเพื่อให้มีความมินิมอล และตัวมังกรมีความเป็นอิสระมากขึ้น ซึ่งปรากฏว่า แฟนบอลให้เสียงตอบรับดีกว่าที่คาดไว้ นั่นจึงเป็นเหมือนนิมิตหมายที่ดี และสร้างความเชื่อมั่นให้กับสโมสร ว่าจะสามารถก้าวไปสู่สิ่งที่ดีกว่าได้หรือไม่
“Simple_Ja”
อ่านข่าว ตลาดซื้อขายนักเตะไทยลีก 2019
อ่านข่าว ตลาดซื้อขายนักเตะพรีเมียร์ลีก 2018/19
ดูบอลสด – ไฮไลท์บอล แบบจัดเต็มได้ ที่นี่
ดูบอลสดผ่านเว็บไซต์ ทรูไอดี ฟรี คลิก!
ดูไฮไลท์บอล พรีเมียร์ลีก ฟรี คลิก!
ติดตามข่าวสารกีฬาได้ที่ TrueID App หรือร่วมพูดคุยกันผ่านทาง Line @TrueID ร่วมไปถึงแฟนเพจ TrueID Sports
