เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคมที่ผ่านมา รัฐบาลได้ประกาศมาตรการผ่อนปรนระยะที่ 2 โดยอนุญาตให้ห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร และสถานประกอบการหลายแห่งเปิดกิจการได้ ขณะเดียวกันก็ได้เปิดตัวแพลตฟอร์มใหม่ชื่อว่า “ไทยชนะ” ของกระทรวงสาธารณสุข เพื่อใช้ติดตามควบคุมโรค และเพื่อประเมินความหนาแน่นของสถานประกอบการ
ขั้นตอนการใช้งานไม่ยุ่งยาก คนที่ไม่ถนัดเรื่องเทคโนโลยีสามารถใช้งานได้อย่างสบาย โดยเมื่อผู้ใช้บริการจะเข้าไปยังห้างสรรพสินค้าหรือร้านค้าต่าง ๆ เพียงแค่ยกโทรศัพท์มือถือ สแกน QR Code >> กดเช็คอินร้าน >> รับข้อตกลงและความยินยอม >> กรอกหมายเลขโทรศัพท์ >> เช็คอินสำเร็จ
ผู้ใช้สมาร์ทโฟนระบบ iOS สามารถสแกน QR Code ผ่านกล้อง ในขณะที่ผู้ใช้สมาร์ทโฟนระบบ Android สามารถสแกน QR Code ผ่านแอปพลิเคชัน QR Code Reader
นอกจากนี้ ผู้ใช้บริการยังสามารถลงทะเบียนเข้า-ออกสถานที่ต่าง ๆ ผ่านวิธีการเพิ่มเพื่อนในระบบ Line ได้เช่นกัน สำหรับคนที่ไม่มีสมาร์ทโฟนหรือไม่สะดวกใช้ สามารถลงทะเบียนได้ โดยการกรอกข้อมูล ชื่อ-นามสกุล และเบอร์โทรศัพท์ลงในสมุดบันทึกของสถานประกอบการ
หลังเสร็จสิ้นการเข้ารับบริการในสถานที่นั้นๆ ผู้ใช้บริการต้องเช็คเอาท์ ซึ่งมีขั้นตอนเช่นเดียวกับการเช็คอิน แต่ในส่วนของการเช็คเอาท์ ระบบได้เพิ่มแบบสอบถาม 4 ข้อ เพื่อประเมินสุขอนามัยของสถานประกอบการ ได้แก่ 1) การทำความสะอาดพื้น/พื้นผิวสัมผัสบ่อยๆ
2) การสวมหน้ากากอนามัย/หน้ากากผ้าของผู้ประกอบการ 3) จุดบริการล้างมือด้วยสบู่/เจลแอลกอฮอล์ 4) การเว้นระยะห่างของโต๊ะ ที่นั่ง และทางเดิน อย่างน้อย 1 เมตร
อย่างไรก็ตาม ระบบมีช่อง “ไม่ประเมิน” เป็นทางเลือกให้แก่ผู้ใช้บริการด้วยเช่นกัน
จากการเปิดให้ใช้งานพบว่าผู้ใช้กังวลของบริการในเรื่องข้อมูลส่วนบุคคลอยู่บ้าง
แต่อันที่จริงแล้วไม่เฉพาะประเทศไทยที่นำเทคโนโลยีมาใช้ในการเก็บข้อมูลประชาชน เพื่อควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 หลายประเทศ เช่น สิงคโปร์ ใช้แอปพลิเคชันชื่อว่า “TraceTogether”
ขณะที่ออสเตรเลียมีแอปพลิเคชัน “COVIDSafe” ซึ่งรัฐบาลของประเทศต่างๆ รวมถึงไทย ต่างรับรองเรื่องความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล
ทั้งนี้ทั้งนั้น ในการเข้าสู่การดำเนินชีวิตแบบใหม่ (new normal) ทุกคนต่างมีหน้าที่ของตนต่อสังคม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการรักษาระเบียบวินัย ความรับผิดชอบต่อสังคม การให้ความร่วมมือและปฏิบัติตามนโยบายของรัฐบาล เพื่อให้ประชาชนและสังคมไทยปลอดโรค เป็นสังคม “ไทยชนะ”
ขณะเดียวกัน ภาครัฐก็มีหน้าที่ในการบริหารข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเหมาะสม เพื่อให้ผู้ใช้บริการสบายใจและพร้อมให้ความร่วมมือแก่รัฐด้วยเช่นกัน
