โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

ไทม์ไลน์! คำพิพากษาก่อน'ธาริต'เข้าสู่ประตูคุก1ปี

[invalid]

อัพเดต 14 ธ.ค. 2561 เวลา 07.02 น. • เผยแพร่ 14 ธ.ค. 2561 เวลา 07.02 น. • tnnthailand.com
ไทม์ไลน์! คำพิพากษาก่อน'ธาริต'เข้าสู่ประตูคุก1ปี
ไทม์ไลน์! คำพิพากษา 3 ศาล 'ธาริต เพ็งดิษฐ์' หมิ่นประมาท 'สุเทพ' ทุจริตสร้างโรงพักก่อนเข้าสู่ประตูคุก1ปี

ถือเป็นบทสรุปสุดท้าย สำหรับชะตากรรมของอดีตอธิบดี ดีเอสไอ อย่าง นายธาริต เพ็งดิษฐ์จำเลย ในคดีหมายเลขดำ อ.495/2556 ที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรีและอดีตเลขาธิการ กปปส. เป็นโจทก์ยื่นฟ้องเป็นจำเลย ในความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326, 328

@@วันที่ 7 ก.พ. 2556 ระบุโจทก์ฟ้องพฤติการณ์สรุปว่า เมื่อระหว่างวันที่ 21 ม.ค. - 4 ก.พ. 2556 นายธาริต ขณะดำรงตำเเหน่งอธิบดีดีเอสไอ แถลงแถลงข่าวข่าวผ่านสื่อมวลชนกล่าวหาว่า นายสุเทพ โจทก์ ขณะดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี เป็นผู้สั่งการไม่ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ทำสัญญาก่อสร้างอาคารที่ทำการสถานีตำรวจ 396 แห่งเป็นรายภาค ตามที่ สตช.เสนอ แต่กลับให้รวมสัญญาการจัดซื้อจัดจ้างเพียงรายเดียว ทำให้บริษัทพีซีซี ดิเวลล็อปเม้นท์ แอนด์คอนสตรัคชั่น จำกัด เป็นผู้ชนะการประมูล จนเกิดปัญหาที่ไม่สามารถก่อสร้างได้เสร็จทันตามกำหนด ซึ่งล้วนเป็นเท็จ ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย เสื่อมเสียชื่อเสียง

@@วันที่ 26 มี.ค. 2558 ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษา ให้ยกฟ้อง เนื่องจากเห็นว่าการแถลงข่าวของจำเลยเป็นการตรวจสอบโครงการก่อสร้างโรงพักและให้ความเห็นในทางกฎหมายในฐานะอธิบดีดีเอสไอ ไม่ได้มีการยืนยันข้อเท็จจริงว่าโจทก์ได้กระทำการทุจริต การแถลงข่าวและให้สัมภาษณ์ของจำเลยเป็นการสรุปความคืบหน้าของคดีตามพยานหลักฐาน ในฐานะเป็นเจ้าพนักงานที่ได้ปฎิบัติตามอำนาจหน้าที่ และเป็นการแสดงความคิดเห็นโดยสุจริต ไม่เป็นความผิดฐานหมิ่นประมาท

@@วันที่ 3 พ.ค. 2559 ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนยกฟ้อง โดยเห็นว่าพยานหลักฐานโจทก์ยังไม่มีน้ำหนักให้รับฟังเพียงพอได้ว่าการกระทำของจำเลยเป็นความผิดตามที่โจทก์ฟ้อง ต่อมานายสุเทพ โจทก์ได้ขออนุญาตฎีกาต่อ

@@วันที่ 24 ต.ค. 2561 ที่ศาลอาญา ซึ่งศาลฎีกาได้นัดอ่านฎีกาครั้งเเรก แต่ในวันดังกล่าวนายธาริต ไม่ได้เดินทางมาศาลอาญาเนื่องจากมีการป่วยติดเชื้อในลำไส้ไม่สามารถเดินทางมาศาลได้ พร้อมแสดงใบรับรองแพทย์ต่อศาล ทั้งยังได้มอบหมายทนายยื่นคำร้องขอความเป็นธรรมต่อประธานศาลฎีกา ขอให้ส่งเอกสารเพิ่มเติมให้ศาลฎีกาวินิจฉัย ซึ่งศาลอาญาพิเคราะห์แล้วเห็นว่า เอกสารถ้อยคำที่มีการยื่นเพิ่มเติมดังกล่าวเป็นข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นหลังการพิจารณาของศาลชั้นต้นและศาลชั้นอุทธรณ์ เชื่อว่าศาลฎีกายังไม่ได้พิจารณาเอกสารดังกล่าว เอกสารทั้ง 3 ชุดที่ยื่นมานั้นเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับโครงการก่อสร้างโรงพักทั้ง 396 แห่ง ซึ่งเป็นมูลเหตุในการฟ้องหมิ่นประมาทในคดีนี้ จึงเห็นควรมีคำสั่งให้ส่งคำร้องของจำเลย รวมถึงถ้อยคำในเอกสารส่งขึ้นให้ศาลฎีกาพิจารณาต่อไป และเมื่อมีคำสั่งส่งคำร้องแล้วก็ไม่จำเป็นต้องวินิจฉัยว่าจำเลยป่วยจนไม่สามารถเดินทางมาศาลได้หรือไม่ จึงมีคำสั่งให้เลื่อนฟังคำพิพากษาศาลฎีกาออกไป

@@วันที่7 ธันวาคม 2561 นายธาริต จำเลยได้ยื่นคำร้องต่อศาลฎีกา ขอถอนคำให้การเดิมและเปลี่ยนคำให้การเป็นรับสารภาพตามฟ้อง พร้อมขอเลื่อนการอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาในวันที่ 14 ธันวาคมออกไปก่อน 60 วัน โดยอ้างเหตุว่าได้มีการขอขมาต่อนายสุเทพ ที่มี นายคณิต ณ นคร อดีตอัยการสูงสุด รับเป็นคนกลางในการเจรจา โดยทำหนังสือแสดงความสำนึกผิดและขอขมาลาโทษ เเละยื่นขอให้การใหม่เป็นให้การ รับสารภาพตามฟ้องเพื่อให้สอดคล้องหนังสือสำนึกผิดและขอขมาลาโทษต่อนายสุเทพไปแล้ว พร้อมทั้งส่งบันทึกรับรองข้อเท็จจริงผลการเจรจาประนีประนอมฯ ที่นายคณิต ได้รับรองยื่นต่อศาล แต่หากศาลฎีกาไม่อนุญาตให้เลื่อนคดีก็ขอความกรุณาต่อศาลฎีกาลงโทษสถานเบาโดยรอการลงอาญา ทั้งนี้ต่อมานายธาริตยังได้ส่งทนายความยื่นคำร้องพร้อมวางเงิน1เเสนบาทต่อศาล เพื่อเยียวยาบรรเทาผลร้ายต่อโจทก์

@@วันที่ 11 ธ.ค.2561 นายสุเทพ โจทก์ยื่นคำร้องมาที่ศาลฎีกาสรุปเนื้อหาตามที่มีข่าวปรากฎตามสื่อสรุปว่าจำเลยในคดีได้ให้ทนายความเเถลงว่ามีการปะนีประนอมพร้อมขอขมาลาโทษเเละขอบพระคุณกับโจทก์ที่จะได้เมตตายกโทษในคดีตามที่โจทก์เห็นสมควรให้นั้น ไม่เป็นความจริง โจทก์จึงขอให้ศาลอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาตามที่นัดไว้ในวันที่ 14 ธ.ค.61 ตามเดิม สำหรับการอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาวันนี้จะเป็นไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 244 ประกอบมาตรา 252 ที่บัญญัติว่า ศาลฎีกาจะอ่านคำพิพากษาหรือคำสั่งที่ศาลฎีกาหรือจะส่งไปให้ศาลชั้นต้นอ่านก็ได้ และระเบียบศาลฎีกาว่าด้วยการอ่านคำพิพากษาหรือคำสั่งศาลฎีกา พ.ศ.2550 ข้อ3 (3) กำหนดให้อ่านคำพิพากษาศาลฎีกาได้ในคดีที่มีผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือเป็นที่สนใจของประชาชนหรือคดีอื่นใดซึ่งประธานศาลฎีกาเห็นสมควรให้อ่านคำพิพากษาหรือคำสั่งที่ศาลฎีกา

@@วันที่ 14 ธ.ค.2561 เวลา 7.30 น.นายธาริต เดินทางมาศาล ศาลฎีกาตรวจสำนวนประชุมปรึกษาหารือกันเเล้วเห็นว่า การเเถลงข่าวเรื่องเกี่ยวกับเสนอราคาในการประมูลโครงการก่อสร้างโรงพัก396เเห่งของนายธาริต เป็นความผิดฐานหมิ่นประมาทโจทก์ นายสุเทพ ตามฟ้อง ที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษามานั้นศาลฎีกาไม่เห็นด้วยพิพากษาลงโทษจำคุก จำเลย 1 ปีที่จำเลยขอถอนคำให้การเป็นรับสารภาพ ไม่อาจถอนคำให้การได้ในชั้นฎีกาให้ยกคำร้อง ส่วนที่จำเลยอ้างว่า ได้มีการบรรเทาผลร้ายเเละการเจรจาไกล่เกลี่ยเป็นผลสำเร็จมีการทำตามข้อตกลงสิทธิในการดำเนินคดีอาญาต้องระงับไป ศาลเห็นว่ายังอยู่ระหว่างการเจรจาไกล่เกลี่ยการ เเละการเจรจาไกล่เกลี่ยต้องคำนึงถึงคู่ความทั้งสองฝ่าย เมื่อโจทก์ไม่ประนีประนอม ให้จำเลยนำเงินวางคืนได้

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0