ไทม์ไลน์ชีวิต เรนาโต้ จากดาวโรจน์ตกอับ แต่เหมือนได้กลับชาติมาเกิด

ถ้าพูดถึงชื่อของ เรนาโต้ ซานเชส มิดฟิลด์ทีมชาติโปรตุเกส อดีตเจ้าของรางวัลดาวรุ่งยอดเยี่ยม แห่งทัวร์นาเมนต์ "ยูโร 2016" เชื่อเหลือเกินคุณจะต้องจำภาพตัวตลก ที่โดนล้อเลียนบนโลกโซเชียล กับฟอร์มอันสุดเห่ย สมัยย้ายมาเล่นแบบยืมตัวให้กับ สวอนซี ซิตี้

แต่กระนั้นจากตัวตลก ที่ถูกดรอปเป็นสำรอง พร้อมได้แต่นั่งมอง "หงส์ขาว" ตกชั้นไปสู่ เดอะ แชมเปี้ยนชิพ มาวันนี้เขาได้กลับไปสู่รั้ว บาเยิร์น มิวนิค อีกครั้ง และ เหมือนถูกฉุดขึ้นมาจากนรก คัมแบ็กสู่โลกใบใหม่แบบที่เขาควรจะเป็น เหมือนนัดที่ "เสือใต้" บุกไปชนะ เบนฟิก้า 2-0 มาดูไทม์ไลน์ชีวิตของเขากันว่ามันดิ่งลงเหว และ พุ่งขึ้นมาขนาดไหน

• แจ้งเกิดกับทีมชาติโปรตุเกส

เรนาโต้ ซานเชส ขึ้นมาเล่นชุดใหญ่ให้กับ เบนฟิก้า ในซีซั่น 2015-16 เพียงแค่ปีเดียว ก็สร้างผลงานเตะตา แฟร์นานโด ซานโตส กุนซือทีมชาติโปรตุเกส จนถูกเรียกไปติดชุดลุย ยูโร 2016 และ รายการนั้นก็สร้างชื่อของเด็กวัยเพียง 19 ปี กระฉ่อนไปทั่วโลก เพราะทำผลงานได้แบบ แจ่ม จะ แดม แจ่ม ว้าว เหลือเกิน ขับเคลื่อนวิ่งเป็นม้า ไล่ตัดทั้งเกมรับ และ เลี้ยงมาช่วยเกมรุก มีส่วนสำคัญนำทัพ "ฝอยทอง" คว้าแชมป์ ยูโร มาครองแบบยิ่งใหญ่ ด้วยผลงานที่ประจักษ์เช่นนั้น เรนาโต้ ได้รับรางวัล ดาวรุ่งยอดเยี่ยม ประจำทัวร์นาเมนต์ ยูโร ก่อนจะต่อยอดคว้ารางวัล "โกลเด้น บอย" ในปีเดียวกัน

• ทีมใหญ่รุมตอม สุดท้ายได้ไปเริ่มชีวิตใหม่กับ บาเยิร์น มิวนิค

หลังจากมีข่าวกับ "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อย่างหนักหน่วง แต่ก็ไม่รู้ว่าไปคุยกันอีท่าไหน ทำไม เรนาโต้ ยังไม่ตัดสินใจย้ายทีมสักที ทั้งที่ โชเซ่ มูรินโญ่ ก็เป็นคนบ้านเดียวกัน และ เมื่อเวลาผ่านไป "ปีศาจแดง" ซึ่งมัวแต่ป้อ ล่อไม่เป็น ต้องซดแห้วเต็มคำ เพราะไอหนุ่มผมเดรดล็อค เลือกเก็บข้าวข้องย้ายจาก เบนฟิก้า ไปอยู่กับ บาเยิร์น มิวนิค ด้วยค่าตัว 35 ล้านยูโร ซึ่งการซื้อ-ขายครั้งนี้ เกิดขึ้นก่อนศึก ยูโร 2016 จะเริ่มขึ้น และ พอได้เห็นฟอร์มเขาแล้ว ต้องชมทีมงานแมวมองของ "เสือใต้" เลยว่า สายตาแหลมคมสุดๆ

• แต่การย้ายสู่รั้ว "เสือใต้" ไม่ได้เป็นแบบที่ เรนาโต้ ใฝ่ฝัน

ถึงแม้ เรนาโต้ ซานเชส จะสร้างดีกรีไว้มากมาย แต่ก็ไม่ได้การันตีว่าเขาจะมาเป็นจอมทัพยึดตัวจริง "เสือใต้" แบบปัจจุบันทันด่วน เพราะในยุค คาร์โล อันเชล็อตติ กุมบังเหียน ยังมีทั้ง ชาบี อลอนโซ่, ติอาโก้ อัลคันตาร่า รวมถึง โจชัว คิมมิช ดาวรุ่งที่ บาเยิร์น รักนักรักหนา ขวางทางอยู่ นั่นทำให้ เรนาโต้ เป็นได้เพียงแค่สำรองเท่านั้น โดยฤดูกาล 2016-17 ได้ลงสนาม บุนเดสลีกา เยอรมัน เพียงแค่ 17 นัด แบ่งเป็นตัวจริงแค่ 6 เกม และมันส่งผลต่อความมั่นใจ ดั่งสุถาษิตที่ว่า "ขี้หดตดหาย" กันหมดแล้ว

• ชีวิตพลิกผัน เมื่อต้องย้ายอยู่กับ สวอนซี ซิตี้

หลังจากที่ เรนาโต้ ซานเชส ถูกส่งลงสนามแบบจำกัดจำเขี่ย ซึ่งขืนอยู่ต่อไปก็คงมีแต่ก้นด้านเสียมากกว่า ทำให้ บาเยิร์น ต้องปล่อยนักเตะรายนี้ ไปเก็บชั่วโมงบินเพิ่มเติม แต่ที่มันเซอร์ไพรส์มากก็คือไม่มียักษ์ใหญ่ทีมไหนยื่นข้อเสนอเข้ามา อาจด้วยเพราะทีมเหล่านั้น อยากจะได้ลายเซ็นแบบถาวร ไม่ใช่ให้มาอยู่แบบชุบเลี้ยง จึงกลายเป็น สวอนซี ซิตี้ ได้ตัวไปซะอย่างนั้น ในซีซั่น 2017-18

ซึ่งการย้ายมาอยู่ สวอนซี ของ เรนาโต้ นับว่าเซอร์ไพรส์สุดๆ เพราะยอมลดชั้นจากทีมลุ้นแชมป์ทุกรายการกับ บาเยิร์น และมาอยู่กับ "หงส์ขาว" ด้วยภารกิจหนีตาย ทำไมถึงเป็น สวอนซี นะเหรอ ? เพราะขณะนั้น พอล คลีเมนต์ เป็นกุนซือใหญ่ โดยเคยเป็นมือขวา "คาร์เล็ตโต้" ตั้งแต่อยู่กับ เชลซี เรื่อยยาวมาจนถึง บาเยิร์น ฉะนั้นความสัมพันธ์ย่อมแน่นแฟ้น และ แทบการันตีการลงสนามของไอ้หนูคนนี้ไปเลย

• มาอยู่ สวอนซี กลายเป็นชีวิตค้าแข้ง ดิ่งลงเหวอย่างหนัก

สวอนซี คาดหวังสุดๆว่า เรนาโต้ จะช่วยยกระดับให้ทีมแข็งแกร่งขึ้นมา แต่เหมือนกับว่า "เรื่องนั้นเป็นแค่ฝันไป" เพราะเพียงแค่ 4 เดือนแรก ก็มีรายงานว่า สวอนซี อยากจะอัญเชิญคืนไปให้ บาเยิร์น ซะเหลือเกิน เพราะ 10 นัดแรก ในศึก พรีเมียร์ลีก ไม่มีประตู หรือ แม้กระทั่งแอสซิสต์ จากอดีตเจ้าของ "โกลเด้น บอย" แถมต้องมาแบกรับภาระค่าเหนื่อยถึง 5 หมื่นปอนด์ ต่อสัปดาห์อีก

โดยมีเกมหนึ่ง ที่ สอวนซี บุกไปเยือน เชลซี ในศึก คาราบาว คัพ เมื่อช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน 2017 เรนาโต้ ได้กลายเป็น "ตัวตลก" ในสายตาแฟนบอลทั่วโลก เมื่อจู่ๆ เขาจ่ายบอลออกข้าง ไปโดนป้ายโฆษณาแบบงงทั้งสนาม ทั้งๆที่ไม่มีใครวิ่งมาบีบกดดันเลยแม้แต่น้อย เล่นเอา คลีเมนต์ กุมขมับ ก่อนจะเปลี่ยน เรนาโต้ ออกจากสนามช่วงพักครึ่งทันที

https://www.youtube.com/watch?v=rFOZgMnyBLk

จากนั้น เรนาโต้ ได้ลงให้กับ สวอนซี อีกเพียงแค่ 4 นัด ราวประมาณต้นปี 2018 และ ก็หายหน้าหายตาไปเลย

• จากตกอับสุดขีด แต่ได้เกิดใหม่อีกครั้ง พอกลับมา บาเยิร์น

เมื่อ เรนาโต้ ไม่เป็นที่ต้องการของ สวอนซี เขาก็ได้กลับมาสู่อ้อมอก บาเยิร์น อีกครั้ง โดย นิโก้ โควัช กุนซือคนใหม่ "เสือใต้" ประกาศแล้วว่า เรนาโต้ จะได้เป็นส่วนหนึ่้งของทีมในการแข่งขันฤดูกาล 2018-19 ซึ่ง บุนเดสลีกา เยอรมัน ผ่านไป 3 นัด ยังไม่เคยสัมผัสพื้นสนาม โดยมีชื่อเป็นตัวสำรองแค่เกมเดียว

อย่างไรก็ตาม โอกาสของ เรนาโต้ ก็มาถึง เมื่อเป็นเกมใหญ่ระดับเวที ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก และ เป็นแมตช์ที่เจ้าตัวจะได้ย้อนกลับไปเจอกับ เบนฟิก้า อดีตต้นสังกัดที่ปลุกปั้นเขามา เรียกว่าเป็นแมตช์เดิมพันของ เรนาโต้ เลยก็ว่าได้ ถ้า 90 นาทีนี้ เขาทำผลงานได้ดี การจะได้สอดแทรกมาเป็นตัวจริงย่อมสูงกว่าเดิม

และ โรนาโต้ ก็ไขว่ขว้าโอกาสนั้นไว้ได้ เมื่อเขางัดฟอร์มเทพ ใช้จังหวะโต้กลับเร็ว กระชากหนีคู่แข่งจากแดนตัวเอง พร้อมต่อบอลกับเพื่อน และสุดท้ายตนเองเป็นคนจบสกอร์ไปแบบทีมเวิร์ค ชนิดที่แฟนบอล "เหยี่ยวลิสบอน" ยังปรบมือให้ นับเป็นการสร้างความประทับใจให้กับ โควัช ได้อย่างแน่นอน

https://twitter.com/eMiaSanMia/status/1042512813019811840

อีกทั้งสถิติเกมดังกล่าวของ ซานเชส ในเกมเจอกับ เบนฟิก้า นับว่ายอดเยี่ยม

เรนาโต้ ซานเชส vs เบนฟิก้า

90 นาที
1 ประตู
ผ่านบอลสำเร็จ : 44 ครั้ง (คิดเป็น 93%)
วางบอลยาวสำเร็จ : 3/3
เลี้ยงผ่านคู่แข่ง : 2/3
ชนะในการปะทะคู่แข่ง : 3/8
ตัดบอลการผ่านของคู่แข่ง : 1

เพียงแค่นี้ก็ทำให้รู้ว่า เรนาโต่ ซานเชส คนเดิม ที่พวกเราเคยเห็นในศึก ยูโร 2016 กำลังกลับมา ทุกอย่างอยู่ที่ความมั่นใจ หากเขายังได้รับโอกาสอย่างต่อเนื่องจาก โควัช เชื่อว่าคงได้เห็นเด็กนรกแตกจากค่าย "เสือใต้" เพิ่มมาอีก 1 คน