โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

กีฬา

ไทม์ไลน์ของ แดนนี่ ดริงค์วอเตอร์ … เมื่อชีวิตไม่ได้ใสสะอาดเหมือนน้ำเปล่า

ขอบสนาม

อัพเดต 15 ก.พ. 2561 เวลา 03.21 น. • เผยแพร่ 16 ก.ย 2562 เวลา 02.48 น. • ขอบสนาม
ไทม์ไลน์ของ แดนนี่ ดริงค์วอเตอร์ … เมื่อชีวิตไม่ได้ใสสะอาดเหมือนน้ำเปล่า

ย้อนกลับไปเมื่อครั้งที่ เลสเตอร์ ซิตี้ ผงาดกวดแชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ 1 ในนักเตะที่ได้รับคำชมเป็นอย่างมากเลยนั้นก็คือ แดนนี่ ดริงค์วอเตอร์ มิดฟิลด์ชาวอังกฤษที่คุมแดนกลางของทัพ 'สุนัขจิ้งจอก' ได้อย่างยอดเยี่ยม

แต่ทว่าเมื่อวันเวลาผ่านไปจากแข้งที่ได้รับคำชม ก็ค่อยแปรเปลี่ยนเป็นแข้งที่แฟนบอลลืมเลือนลางไปจากความทรงจำ จนกระทั่งข่าวล่าสุดที่เจ้าตัวสร้างชื่อขึ้นมาได้อีกครั้ง แต่มันไม่ใช่เรื่องของฟุตบอลนะ แต่เป็นการโดนกระทืบจากการไปหลีหญิงในสภาพที่เมาแอ๋

ว่าแล้ววันนี้ ขอบสนาม เราจะพาไปไล่เรียงไทม์ไลน์ของ แดนนี่ ดริงค์วอเตอร์ กันว่าชีวิตของเจ้าหนุ่มคนนี้มันพลิกพันไปมากขนาดไหน …

เริ่มต้น และเติบโต

แดนนี่ ดริงค์วอเตอร์ เติบโตขึ้นมาจากการเป็นแข้งเยาวชนของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เนื่องจากเขาก็เกิดและลืมตาดูโลกในเมือ แมนเชสเตอร์ เช่นเดียวกัน แต่ทว่าเส้นทางมันไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ จริงอยู่ว่าตัวเขาสามารถก้าวขึ้นมาสู่ทีมชุดใหญ่ของทัพ 'ปีศาจแดง' ได้ แต่แล้วสิ่งนึงที่ ดริงค์วอเตอร์ ทำไม่ได้นั้นก็คือการได้ลงสนาม

การกระโดดขึ้นสู่ทีมจุดใหญ่เมื่อปี 2008 เขาถูกห่อกระดาษส่งยืมตัวเป็นว่าเล่น ไม่ว่าจะเป็น ฮัดเดอร์ฟิลด์, คาร์ดิฟฟ์, วัตฟอร์ด และบาร์นลี่ย์ ก่อนที่ในปี 2012 จะถูก เลสเตอร์ ซิตี้ มาคว้าตัวไปร่วมทีมอย่างถาวรในที่สุด ซึ่งนั้นมันก็ไม่ต่างอะไรกับจุดเปลี่ยนของชีวิต

เขาได้กลายเป็นตัวสำคัญของทัพ 'สุนัขจิ้งจอก' ที่สามารถพาทีมเลื่อนชั้นมายัง พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ได้เมื่อฤดูกาล 2013-14 ส่วน ดริงค์วอเตอร์ ก็ถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลแข้งยอดเยี่ยมของศึกเดอะ แชมเปี้ยนส์ชิพ ในซีซั่นนั้นด้วยจากผลงานซัดไป 8 ประตู 5 แอสซิสต์ จากการลงสนาม 49 นัด

ชีวิตช่วงขาขึ้น

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า แดนนี่ ดริงค์วอเตอร์ ในสีเสื้อของ เลสเตอร์ ซิตี้ นั้นก็ช่วงขาขึ้นของชีวิตเขาอย่างแท้จริง นอกจากพาทีมตีตั๋วกลับยังพรีเมียร์ ได้แล้ว ทั้งเป็นส่วนสำคัญในการพาทีมขีดเขียนประวัติศาสตร์คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ครั้งแรกของสโมสรได้อีกด้วย

ซึ่งการจับคู่แดนกลางกับ เอ็นโกโล่ ก็องเต้ ในช่วงนั้นถือว่าลงตัวมากจริงๆ ทำให้ได้รับการขนานนามว่าเป็นคู่มิดฟิลด์ที่ดีที่สุดในห้วงเวลานั้นอีกต่างหาก

นอกจากนั้นชื่อของเขายังถูกเรียกไปติดทีมชาติอังกฤษ เมื่อช่วงเดือนมีนาคม 2016 ซึ่งตอนนั้นทัพ ' ทรี ไลออนส์' ถูกคุมทีมโดย รอย ฮ็อดจ์สัน นั้นเอง

โดยรวมแล้วเจ้าตัวทิ้งสถิติการลงสนามให้กับ เลสเตอร์ ซิตี้ ทั้งสิ้น 218 นัด ยิง 15 ประตู และทำอีก 23 แอสซิสต์ ตลอดการสวมเสื้อสีน้ำเงินตราสุนัขจิ้งจอก

ชีวิตช่วงขาลง

ย่างก้าวเข้าฤดูกาล 2017-18 แดนนี่ ดริงค์วอเตอร์ ได้ออกเดินทางอีกครั้ง โดยครั้งนี้จุดหมายอยู่ที่ลอนดอน จากการคว้าตัวของ เชลซี ด้วยค่าตัวที่จำนวน 35 ปอนด์ พร้อมประเคนค่าเหนื่อยให้สัปดาห์ละ 100,000 ปอนด์ เพื่อหวังที่จะให้เจ้าตัวมาประสานงานกับ ก็องเต้ ให้แข็งแกร่งเหมือนครั้งบัญชาเกมแดนกลางกับ เลสเตอร์ ซิตี้

แต่ทว่าเกมนัดแรกในลีกที่ ดริงค์วอเตอร์ ลงเล่นให้กับ เชลซี ต้องรอถึงเดือนพฤศจิกายน ในเกมที่บุกไปเอาชนะ บอรนมัธ 0-1 ซึ่งเจ้าตัวลงสนามมาเป็นตัวสำรองในช่วง 10 นาที สุดท้าย โดยสาเหตุที่ต้องรอลงเล่นนัดแรกนานขนาดนี้เพราะอาการบาดเจ็บบริเวณต้นขาของนักเตะนั้นเอง

ซึ่งอาการบาดเจ็บนี้ก็คือคู่กับ ดริงค์วอเตอร์ มาอย่างเนิ่นนานทำให้จบฤดูกาลแรกกับ 'สิงห์บลู' เจ้าตัวลงเล่นไปเพียง 22 นัด ยิงไป 1 ประตู และไร้แม้แต่แอสซิสต์เดียว

และมันหนักหน่วงมากยิ่งขึ้นเมื่อเข้าสู่ซีซั่น 2018-19 ชื่อของ ดริงค์วอเตอร์ ลืมเลือนหายไปจากความทรงจำแฟนบอลมากขึ้น โดยตลอดฤดูกาลเจ้าตัวมีโอกาสลงสนามเพียงนัดเดียวเท่านั้น ซึ่งมันเกิดขึ้นในเกมคอมมิวนิตี้ ชิลด์ เกมก่อนซีซั่นจริงจะเริ่ม

และพอฤดูกาลได้เริ่มรูดม่านเปิดขึ้นชื่อของเขาก็ได้หายจากสารบบของทีม โดยมีชื่อในม้านั่งสำรองเพียง 2 นัดเท่านั้นเอง (เจอ คาร์ดิฟฟ์ ในลีก, เจอ ดาร์บี้ ในลีก คัพ) และไม่ได้โอกาสลงสนามเลยสักวินาทีเดียว

โดยนับมาจนถึงจบฤดูกาลที่ผ่านมา (2018-19) แดนนี่ ดริงค์วอเตอร์ ลงเล่นภายใต้สีเสื้อ เชลซี ไปทั้งสิ้นเพียง 23 เกมเท่านั้น แน่นอนมันไม่มีอะไรที่น่าจดจำเลยสักนิดเดียว

เมาแล้วขับ

เห็นหน้าตาที่เรียบร้อยแบบนี้ แดนนี่ ดริงค์วอเตอร์ ก็คือสายดื่ม และท่องราตรีแบบจัดเต็มนะครับ! และย้อนกลับไปเมื่อช่วงเดือนเมษายน 2019 มีข่าวใหญ่รายงานมาว่า ดริงค์วอเตอร์ ซิ่งรถเรนจ์ โรเวอร์ คู่ใจ พร้อมกับอาการเมาแบบเต็มคราบไปสอยกำแพงเข้าให้ซะ แต่บุญยังพอมี ที่เจ้าตัวไม่ได้รับอาการบาดเจ็บแต่อย่างใด

และเมื่อตำรวจสืบไปเรื่อยๆ รวมไปถึงนักเตะให้กับยอมรับว่าเมา แน่นอนเขาถูกลงโทษห้ามขี่รถยนต์เป็นเวลา 20 เดือน พร้อมกันนั้นเขาก็ได้ทำงานเพื่อชุมชน เพื่อตอบแทนในสิ่งที่เขาได้ทำผิดพลาดไป

หงี่จนได้เรื่อง

ประเด็นล่าสุดที่เป็นข่าวใหญ่ก็คือเจ้า ดริงค์วอเตอร์ ได้ออกไปปาร์ตี้และ ดริงค์สุรา จนมีสภาพแบบเมาแอ๋มาเลย ซึ่งมันก็ไม่แปลกหรอกที่ดื่มไปเยอะแล้วจะเมา แต่… มันพิเศษตรงที่พี่แกเมาแล้วดันไปยุ่งกับเมียชาวบ้านนี่แหละ!

แน่นอนการไปหงี่ หรือพูดเชิงจีบเมียชาวบ้านเขาแบบนั้น ก็โดนรุมบาทาสิครับ และมันมาบาทาถึง 12 ข้างด้วยกัน (6 คน) ซึ่งการโดนรุมกระทืบในคืนนั้นส่งผลให้เอ็นข้อเท้าของเขาฉีกขาด ดวงตาฟกซ้ำ มีแผลบริเวณหน้าผาก และบริเวณรอบๆ ดวงตา

และเมื่อสถานการณ์เป็นเช่นนี้ดูแล้วอนาคตของเขามีโอกาสดับสลายสูงมากเลยทีเดียว

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0