โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

ได้ใจกองเชียร์! “มนัญญา ไทยเศรษฐ์”รมช.เกษตรฯ บุกสำนักควบคุมพืชฯ ทวงเอกสาร “สต๊อกสารเคมีพิษ” **"ลุงตู่" หัวร้อนฝ่ายค้านจับเรื่องน้ำท่วมมาก่อกระแสดรามา "น้ำท่วมอีสาน แต่นายกฯลงใต้"

Manager Online

เผยแพร่ 16 ก.ย 2562 เวลา 22.02 น. • MGR Online

ข่าวปนคน คนปนข่าว

**ได้ใจกองเชียร์! “มนัญญา ไทยเศรษฐ์”รมช.เกษตรฯ บุกสำนักควบคุมพืชฯ กรมวิชาการ ทวงเอกสาร “สต๊อกสารเคมีพิษ”หลังขอมาให้รอหลายวัน ลั่น“ถ้าคิดว่าคุณไม่ฟังก็เอาคนมาถอดถอนฉันออกไป”

ถือเป็นรัฐมนตรีหญิงที่มาแรงส์ ! ไม่พูดถึงคงไม่ได้ สำหรับ "นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ " รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เมื่อเป็นข่าวบุกสำนักควบคุมพืชและวัสดุการเกษตร กรมวิชาการเกษตร เพื่อทวงเอกสารเกี่ยวกับสต๊อกสารเคมีพิษในภาคการเกษตรด้วยตัวเอง หลังรอเอกสารมานานหลายวัน พร้อมด้วยคำพูดตรงๆ แรงๆ ที่ไม่ต้องแปลความว่า ทำไมจึงไม่ได้เอกสารตามที่ต้องการสักที …

"ก็บอกเขาไปว่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มนัญญา ไทยเศรษฐ์ คุมกรมวิชาการเกษตร แต่ถ้าคิดว่าคุณไม่ฟัง คุณก็ไปเอาคนมาถอดฉันออกไป ถ้าคุณมาปลดฉันออกไปเมื่อไหร่ ฉันจะได้ไม่ต้องยุ่งเกี่ยวกับตรงนี้ แต่ตอนนี้ดิฉันยังอยู่ตรงนี้อยู่ คุณก็ต้องเชื่อฟังฉัน"

พลันที่คำพูดนี้ออกสื่อไป ชาวโซเชียลฯ ก็กดไลค์ให้รัวๆ ชื่นชมว่า "นี่สิคนจริง 2019" ซึ่งหากไม่ทวงก็คงไม่ได้มา หรือกว่าจะได้มาก็คงต้องรอนาน…

ไม่บ่อยครั้งนัก ที่รัฐมนตรีจะลงมาบู๊ตามหาเอกสารที่ได้เคยขอรายละเอียดจากส่วนราชการเอง นั่นแสดงว่าต้องมีอะไรสักอย่าง เป็นไปได้ทั้งไม่ได้รับความร่วมมือในการทำงาน หรือ เพราะระบบการสั่งการของราชการไทย

ปากของเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบเตรียมเอกสารอาจจะบอกว่า “ได้ครับท่าน”แต่ก็นั่นละ “เคารพมิสู้ทำตามคำสั่ง”บังเอิญว่า นางสาวมนัญญา กำกับดูแลกรมวิชาการเกษตร และเป็นตัวตั้งตัวตีที่อยากจะทำเรื่อง แบน“สารพิษในภาคการเกษตร”3 ตัวใหญ่ คือ พาราควอต ไกลโฟเซต และ คลอร์ไพริฟอส ให้เกิดขึ้นจริง

ตั้งแต่ประกาศนโยบาย "นางสาวมนัญญา" ได้สั่งตั้งคณะกรรมการชุดเล็ก เพื่อศึกษาผลกระทบจากการใช้สารเคมี มีทั้ง กระทรวงเกษตรฯ กระทรวงสาธารณสุข และ กระทรวงอุตสาหกรรม เพื่อเร่งศึกษาผลกระทบการใช้สารพิษ 3 ตัวนี้ โดยลั่นวาจาว่า ภายในสิ้นปีนี้จะ"แบน" แน่นอน 1-2 ตัว

แน่นอนว่า นโยบายแบนสารเคมีการเกษตร ไม่ได้เพิ่งจะคิดทำในยุคสมัยนี้ ถกเถียงกันมาเยอะ แต่สุดท้ายเสร็จ “นายทุน”เป่านโยบายนี้ให้หายกลายเป็นอากาศธาตุอยู่เสมอ … นายทุนที่ว่า มีทั้งพ่อค้าสารเคมี ปุ๋ยและยา ผลประโยชน์มหาศาล เพราะ 80% ของเกษตรกรไทย ยังใช้สารเคมีกันอยู่…

บริษัทยักษ์ใหญ่ ทั้งในและบริษัทข้ามชาติย่อมหาทางผูกขาดการหากินบนชีวิตมนุษย์มาช้านานกันต่อไป เพื่อความร่ำรวยที่ไม่สิ้นสุด ไม่มีทางที่จะให้ใครมาขวางรายได้และช่องทางทำมาหากินง่ายๆ แน่

แว่วว่า ตอนนี้ก็ยังวิ่งเต้นกันฝุ่นตลบ เพื่อให้รัฐบาลเปลี่ยนใจ หรือ ยืดเวลาออกไปนานๆ เตะถ่วงได้ก็เตะถ่วงไป ลือไปกระทั่งว่า มี “ใบสั่ง”ให้กระทรวงที่เกี่ยวข้อง “ลากยาว”หวังว่า สังคมจะลืม เลิกต้านกันไปเองในที่สุด…

เอาตามจริง ว่ากันว่า แต่ละปี มีเคสผู้ป่วยจากสารพิษเสียชีวิตนับไม่ถ้วน ไหนจะผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม กุ้ง หอย ปู ปลา ในนา ในพื้นที่การเกษตร มีพาราควอต ปนเปื้อนเกินมาตรฐานทั้งนั้น ไหนจะสิ้นเปลืองเงินงบประมาณจากภาษีของประชาชนไม่รู้ตั้งเท่าไหร่ เพื่อรณรงค์ ให้องค์ความรู้แก่คนที่เกี่ยวข้องกับการใช้สารพิษ และชักชวนให้เข้าสู่วิถีเกษตรอินทรีย์ … ทุกๆอย่างเลวร้ายลงเรื่อยๆ ชนิดที่ว่า มีผลวิจัยจากมหาวิทยาลัยหลายแห่งบอกว่า ทารกแรกเกิดถึงครึ่งหนึ่ง ที่ลืมตามาดูโลกพร้อมกับมีสารพิษพวกนี้ในร่างกายแล้ว…

เรื่องนี้ต้องทำอย่างรอบคอบ ข้อมูลเอกสารต่างๆ เกี่ยวกับ “สต๊อกสารพิษในภาคการเกษตร”จึงมีความสำคัญในการต่อสู้กับข้ออ้างของใครก็ตาม ที่ยังหนุนการใช้สารเคมี … วันนี้ถ้าใครลุกมาทำนโยบายนี้ให้เกิดขึ้นได้ แบนสารพิษ-สารเคมี ในภาคเกษตรให้หมดไป สังคมจะยกมือท่วมหัว เห็นด้วยร้อยเปอร์เซ็นต์ … เพราะ ถ้าทำได้จะช่วยเกษตรกรและคนบริโภค ไม่ต้องมาตายผ่อนส่ง หรือ เสียชีวิตจากสารพิษ

"นางสาวมนัญญา" ที่ว่ากันว่า เป็นคนขยัน ใจถึงเหมือนพี่ชาย "ชาดา ไทยเศรษฐ์" บุกไปทวงเอกสารเร่งงานเองแบบนี้ ได้ใจกองเชียร์ไปเต็มๆ .

** "ลุงตู่" เจอฝ่ายค้านจับเรื่องน้ำท่วมมาก่อกระแสดรามา "น้ำท่วมอีสาน แต่นายกฯลงใต้" เล่นเอาหัวร้อน อารมณ์หลุด รัฐบาลต้องรีบแก้เกม จัดให้ลุงตู่ และครม. ออกทีวี รับบริจาค

ผลจากจากพายุโซนร้อน "โพดุล" และ"คาจิกิ" ในช่วงที่ผ่านมา ทำเอาพื้นที่ภาคอีสาน และภาคเหนือ ประสบปัญหาน้ำท่วมหลายจังหวัด ซึ่ง”ลุงตู่” ก็ได้ลงพื้นที่ ไปตรวจเยี่ยม ให้กำลังใจ กำชับหน่วยราชการให้ช่วยเหลือประชาชนมาบางแล้ว จนหลายพื้นที่ระดับน้ำได้ลดลงสู่ภาวะปกติ แต่ที่ จ.อุบลราชธานี ขณะนี้ระดับน้ำยังคงสูงมาก และกินบริเวณกว้าง เนื่องจากเป็นพื้นที่รองรับน้ำ จากแม่น้ำหลายสายในภาคอีสาน ก่อนไหลลงสู่แม่น้ำโขง

ก็เป็นจังหวะเดียวกับที่ "นายกฯลุงตู่" เดินทางลงพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช เพื่อไปตรวจ ติดตามงานก่อสร้างประตูระบายน้ำ คลองท่าเรือ -หัวตรุด ซึ่งเป็นโครงการบรรเทาอุทกภัยเมืองนครศรีธรรมราชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จากนั้น ก็ไปยังเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อเยี่ยมชมการเรียนการสอนของวิทยาลัยอาชีวศึกษาภาวนาโพธิคุณ ที่ "ลุงกำนัน" สุเทพ เทือกสุบรรณ เป็นผู้ก่อตั้ง และไปเป็นประธานพิธีเปิดงานเทศกาลท่องเที่ยวเกาะสมุย หรือ"สมุย เฟสติวัล"

"ไฮไลต์" ของทริปนี้มันก็อยู่ที่เกาะสมุยนี่แหละ เพราะภาพ ข่าวที่ออกมา เป็น"ลุงกำนัน" ในฐานะเจ้าบ้าน และเชียร์ลุงตู่เป็นนายกฯ มาตั้งแต่ไก่โห่ ที่ตามประกบไม่ห่าง ทั้งชี้ชวนกันดูขบวนพาเหรด เปิดงานสมุย เฟสติวัล อีกทั้ง"ลุงตู่" ยังสวมบทเป็นกุ๊ก โชว์ลีลาควงตะหลิว ปรุง "ใบเหลียงผัดไข่" เมนูยอดฮิตของชาวใต้ แบ่งแจกกันกิน บรรยากาศ ชื่นมื่น … แทนที่จะเป็นภาพ"ลุงตู่" ไปผัดกะเพรา หรือผัดข้าวผัด แจกจ่ายผู้ประสบภัยน้ำท่วม … ดรามา เลยบังเกิด

ยิ่งเป็นจังหวะเดียวกับ "หญิงหน่อย" คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย กำลังเดินสายรณรงค์แก้ไขรัฐธรรมนูญ ไปเปิดเวที ที่ จ.มหาสารคาม ยังอดแขวะไม่ได้ว่า น้ำท่วมอีสานในครั้งนี้ รุนแรงเหลือเกิน อยากให้นายกฯ ให้ความสนใจ มาดูมาแลประชาชนบ้าง เผื่อมีปัญหาติดขัดอะไร จะได้ใช้ภาวะผู้นำของนายกฯตัดสินใจสั่งการ การแก้ไขปัญหาจะได้รวดเร็วทันใจประชาชนที่เขากำลังเดือดร้อนแสนสาหัส …ขอให้นายกฯแบ่งเวลามาสนใจปัญหาน้ำท่วมของคนอีสานให้มากกว่านี้หน่อยเถอะ …

ในโลกโซเชียลฯ เห็นภาพ เห็นเรื่องแบบนี้ได้ที่ไหน… เพราะคนอีสานกำลังเดือดร้อนจากน้ำท่วม แต่นายกฯ ไปเปิดงาน ดูขบวนพาเหรดที่ภาคใต้ คอมเมนต์ ก็เลยกระหน่ำไปที่"ลุงตู่" ประมาณว่า… “น้ำท่วมอีสาน แต่นายกฯ ดันหลบไปภาคใต้” …และอีกสารพัดเรื่องจนเหมือนกับว่า "ลุงตู่" ทำอะไรก็ผิดไปหมด

ทำเอา"ลุงตู่"หัวร้อน เก็บอารมณ์ไม่อยู่ ไปเป็นประธานเปิดการสัมมนาบุคลากรภาครัฐ โดยมีข้าราชการทุกระดับเข้าร่วม ก็เลยระบายใส่ข้าราชการ…"ทุกวันนี้เราไม่ได้มีปัญหา แค่ระบบราชการ หรือการเมือง แต่มีปัญหาที่คนด้วย ที่พูดไม่ได้ตำหนิใคร เพียงแต่อยากชี้ให้เห็นว่า โจทย์ของประเทศอยู่ตรงไหน ไม่ใช่เห็นหน้ากันก็จะขอแต่เงิน ขอแต่เงิน และร้องเรียนว่าเงินไม่ถึงมือโดยตรง ไม่ว่าผมจะไปไหน ก็มีแต่คนขอเงิน ของบฯ ขอขึ้นเงินเดือน ผมอึดอัดใจมาก … วันนี้ก็มีประเด็นอีก อย่างการช่วยเหลือน้ำท่วม ว่าทำไมรัฐบาลไม่ออกไปช่วย ทำไมนายกฯไปภาคใต้ ไม่ไปอีสาน ทำไมไม่ไปลุยน้ำกับพวกเขา ซึ่งเป็นการสร้างความขัดแย้ง ทุกคนจึงต้องช่วยกันคิด ช่วยกันแก้ไข ช่วยกันสร้างความเข้าใจด้วย… อยากให้รัฐบาลปฏิรูป ตัวเองปฏิรูปกันบ้างหรือยัง ผมปฏิรูปแล้ว ผมปฏิรูปทุกวัน อันไหนดี อันไหนไม่ดี อันไหนต้องทำ อันไหนต้องแก้ ผมรับจากพวกท่านมาแก้ทุกวัน ขอให้ข้าราชการช่วยผมตรงนี้ด้วย…"ลุงตู่เล่นเอางานสัมมนาข้าราชการ"ร้อน"ไปทั้งงาน

ไม่เพียงเท่านั้น ตอนไปเป็นประธานในพิธีมอบรางวัลอุตสาหกรรม ประจำปี 2562 "ลุงตู่" ก็ยังไม่หายหัวร้อน แต่คราวนี้พุ่งเป้าไปที่นักการเมืองฝ่ายตรงข้าม ที่แม้ไม่ต้องออกชื่อก็น่าจะรู้ว่าเป็นใคร … หลายท่านก็เคยอยู่ในรัฐบาลมาก่อน ผมก็ไม่เข้าใจว่า เขามาเรียกร้องนั้น หมายความว่าอย่างไร สมัยก่อนเขาก็เป็นรัฐบาล แล้วผมก็ไม่เห็นว่าคนที่ออกมาพูดในวันนี้ … ผมไม่เห็นว่าอดีตนายกรัฐมนตรีคนก่อน จะฟังคุณเท่าไหร่เลย อยู่รัฐบาลเดียวกันด้วยนิ น้ำท่วมเมื่อครั้งนั้น ผมก็อยู่ด้วย เห็นมาเสนอนู่น เสนอนี่ นายกฯ ท่านก่อนก็ไม่เอาตามนั้น บอกให้เอาตาม ผบ.ทบ. ซึ่งสมัยนั้นผมก็เป็น ผบ.ทบ.อยู่ ก็ได้ไปช่วยน้ำท่วม แล้ววันนี้มาพูดนู่น นี่กับผม มันน่าเบื่อหน่าย…

ยิ่งมาเจอเรื่องที่ "บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์" นักแสดง จิตอาสา จากมูลนิธิร่วมกตัญญู ประกาศบริจาคเงิน ส่วนตัว 1 ล้านบาท เพื่อหวังจะไปช่วยครอบครัวผู้ประสบภัย ซักครอบครัวละ 1 พันบาท ก็จะช่วยได้ 1 พันครอบครัว พร้อมเชิญชวนประชาชน ให้มาร่วมบริจาค โดยตัวเขาจะเป็นคนกลาง อาสานำไปช่วยเหลือแทนให้…เพียงแค่"บิณฑ์" โพสต์ลงในโซเชียลฯ เพียงไม่กี่ชั่วโมง ยอดบริจาคก็พุ่งไป 50 ล้าน และเพียงวันเดียวก็ทะลุกว่า 100 ล้านไปแล้ว …เพราะคนไทยก็อยากช่วยเหลือผู้ที่ได้รับความเดือดร้อน แต่ไม่มีเวลา ไม่สะดวก ไม่มีช่องทางที่จะร่วมบริจาค เพราะรัฐบาล ไม่ได้มาเปิดช่องทางตรงนี้

เมื่อเป็นอย่างนี้ ก็เลยร้อนไปทั้งรัฐบาล จน "เทวัญ ลิปตพัลลภ" รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ต้องออกมาประกาศว่า รัฐบาลจะ จัดรายการ "ร่วมใจ พี่น้องไทย ช่วยภัยน้ำท่วม" ในค่ำวันนี้ (17ก.ย.) ออกอากาศสด ทางช่อง 9 อสมท. โดยนายกฯ พร้อมคณะรัฐมนตรี จะมารับโทรศัพท์ รับบริจาคด้วยตนเอง …

เท่านั้นยังไม่พอ ที่รัฐบาลเตรียมจัดงานฉลองให้กับส.ส.พรรคร่วมรัฐบาล หลังเสร็จศึกอภิปรายฯ และ ปิดสมัยประชุมสภาฯ ในวันที่ 19 ก.ย.นี้ เห็นทีต้องเลื่อนออกไปก่อน เพราะบรรยากาศไม่อำนวย …จะกลายเป็นว่า แทนที่ปิดสมัยประชุมสภาฯ ส.ส.จะรีบไปช่วยเหลือประชาชนที่กำลังเดือดร้อน แต่นี่กลับมาจัดงานเลี้ยงฉลอง รื่นเริงกัน … แต่ถ้าไม่เลื่อน ก็รอรับอารมณ์ ทั้งในโซเชียลฯ นอกโซเชียลฯ กันเอาเองละกัน

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0