โรคร้ายคร่าชีวิต ..
น.ส.พัชราวัลย์ วงษ์เวช หรือน้องมุก อายุ 23 ปี ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ H1N1 และเสียชีวิตลง
โดยวันนี้ (21 ส.ค.61) ทางครอบครัวได้นำร่างไร้วิญญาณของน้องมุกกลับมาประกอบพิธีทางศาสนาที่บ้านเกิด ใน จ.อุทัยธานี
นางนุชจริน วงษ์เวช ผู้เป็นแม่น้องมุก ยังอยู่ในอาการเศร้า เพราะสูญเสียลูกสาวเพียงคนเดียวไป และน้องมุก เพิ่งเรียบจบ และรับปริญญาได้ไม่นาน
โดยแม่เล่าว่า ก่อนที่น้องมุกจะจากไป น้องมุกได้กลับมาบ้าน ปลายเดือน ก.ค. ช่วงเทศกาลเข้าพรรษา และเริ่มเห็นลูกสาวป่วย มีอาการไข้สูง ตัวร้อน ไอตลอดเวลา จึงพาน้องมุกไปหาหมอที่คลินิกในตลาด อ.ทัพทัน จ.อุทัยธานี แพทย์ตรวจอาการแล้วให้ยามารับประทานที่บ้าน
หลังจากนั้น น้องมุกได้กลับไปทำงานต่อ ปรากฏว่า อาการป่วยไม่ดีขึ้น แม่จึงตัดสินใจพาน้องมุกไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง แต่ยิ่งรักษาอาการก็ยิ่งหนักขึ้นเรื่อยๆ จึงย้ายน้องมุกไปรักษาที่ รพ.วิภาวดี
เมื่อวันที่ 6 ส.ค. แพทย์เอกซ์เรย์ปอด กลับพบว่า ปอดหายไปครึ่งหนึ่ง จึงเจาะเลือดไปตรวจ ผลตรวจแพทย์ระบุ ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ H1N1
โดยแพทย์ รพ.วิภาวดี ให้ครอบครัวนำตัวน้องมุก กลับมารักษาตัวที่ รพ.การุญเวช นวนคร แต่พักรักษาตัวได้เพียง 5 วัน น้องมุกอาการแย่ลง สุดท้ายโรคไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ H1 N1 ก็คร่าชีวิตน้องมุก
นายปัญญา วงษ์เวช ลุงของน้องมุก เผยว่า เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทางแพทย์ รพ.วิภาวดี ระบุชัดเจน ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ H1 N1 ทำให้ระบบการหายใจของน้องมุกมีปัญหาและเสียชีวิตในที่สุด
พร้อมอยากขอให้กระทรวงสาธารณสุขควรมีการรณรงค์ให้ความรู้กับประชาชน เพราะเป็นโรคที่อันตราย ถ้าไม่รู้จริงรักษาเองไม่ได้เลย ต้องอาศัยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น
ด้าน นพ.พัลลบ ยอดศิรจินดา นายแพทย์สาธารณสุขจ.อุทัยธานี กล่าวว่า ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ H1 N1 จริงๆ แล้วเป็นเชื้อสายพันธุ์ที่เกิดขึ้นตามฤดูกาล เป็นเชื้อที่ไม่มีความรุนแรง แต่สามารถติดต่อได้ง่าย
ทางกระทรวงสาธารณสุขได้มีวัคซีน เพื่อป้องกันในกลุ่มบุคคลบางกลุ่ม โดยเฉพาะผู้ป่วยเรื้อรัง คนท้อง และกลุ่มที่ทำงานที่ใกล้ชิดกับผู้ป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ตัวนี้ ซึ่งไม่สามารถฉีดให้กับประชาชนได้ทุกๆคน จะต้องมีการสำรวจก่อนว่าใครที่มีความเสี่ยงที่จะติดโรคนี้
สำหรับอัตราการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ของ จ.อุทัยธานี ช่วงเดือน กรกฏาคม มีคนไข้จำนวน 97 ราย ส่วนเดือน สิงหาคม เริ่มลดลง
