ไขรหัส ‘ผลโพลล์’ สำรวจคนส่วนใหญ่จากไหน? ทำไมไม่เคยโดนถาม? ทำไมผลโพลล์ถึงย้อนแย้งกับใจเรา?
ว้อทเดอะโพลล์?
คำว่า “โพลล์” (Poll) มีรากศัพท์มาจากภาษาเยอรมันโบราณหมายถึง “หัว” ในการนับหัว เป็นการเก็บรวบรวมข้อมูลข่าวสาร (Information) จากประชาชน และโพลล์กับงานวิจัยเชิงสำรวจ (Survey Research) คือสิ่งเดียวกัน เพียงแต่ว่า โพลล์ถูกใช้โดยองค์กรสื่อมวลชน แต่งานวิจัยเชิงสำรวจถูกทำขึ้นโดยนักวิจัยของสถาบันการศึกษา อย่างไรก็ตามโพลล์ก็ยังมีการแบ่งคุณภาพได้หลายๆ แบบ ทั้ง โพลล์ที่ดีโพลล์ที่แย่และโพลล์ที่รับไม่ได้
ไขรหัสโพลล์ที่ดี โพลล์ที่แย่ และโพลล์ที่รับไม่ได้
เนื่องจากโพลล์สำรวจเป็นการสำรวจความคิดเห็นของคนจำนวนหนึ่งที่เรียกว่า ‘กลุ่มตัวอย่าง’ แทนการสำรวจ ‘ประชากร’ ทั้งหมดของสังคม การเลือกกลุ่มตัวอย่างที่สามารถสะท้อนความเป็นจริงของประชากรทั้งหมดในสังคม โดยมีปัจจัยที่เกี่ยวข้องหลายอย่าง และสามารถคลาดเคลื่อนได้ บ่อยครั้งโพลล์สำรวจจึงไม่สามารถสะท้อนความเป็นจริงของสังคมได้ เราจึงรู้สึกว่าผลสำรวจที่ออกมาช่างย้อนแย้งกับความรู้สึกที่เรามีต่อเรื่องนั้นๆ เหลือเกิน อย่างไรก็ดี ความรู้สึกอันย้อนแย้งนั้นก็ไม่ได้เป็นมาตรวัดที่เที่ยงตรงว่าโพลล์นั้นดีหรือแย่เพราะมันอาจจะเป็นโพลล์ที่สะท้อนความเป็นจริงก็ได้ทว่ามันอาจไม่ตรงกับใจเราเท่านั้นเอง
โพลล์เครื่องมือของอำนาจทุน
ในฐานะที่ผู้เขียนมีประสบการณ์การใช้บริการจากสถาบันโพลล์สำรวจมาบ้าง พบว่าในเชิงของการค้ามีการใช้โพลล์อย่างแพร่หลาย โดยอาศัยความไม่เที่ยงตรงและความคลาดเคลื่อนที่อาจเป็นได้จากการทำโพลล์สำรวจนั้นเอง มาเป็นตัวกำหนดอุปสงค์ต่อสินค้าให้เกิดขึ้น ยกตัวอย่างสมมติ เช่น กรุงเกษมโพลล์สำรวจพบว่าคนไทย 67% หวาดกลัวสารตกค้างในโฟมล้างหน้า ก็จะเป็นที่มาของการเปิดตัวสินค้าโฟมล้างหน้ายี่ห้อหนึ่งที่ไร้สารตกค้าง ซึ่งแน่นอนว่าในการทำโพลล์ย่อมต้องมีค่าใช้จ่าย และผู้รับผิดชอบต่อค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น ก็คือโฟมล้างหน้ายี่ห้อดังกล่าวนั่นเอง
ลองคิดกลับกันว่าหากสำนักโพลล์นั้นได้รับการว่าจ้างจากฝั่งขั้วอำนาจทางการเมือง ก็คงจะมีผลต่อคะแนนความนิยมต่อขั้วนั้นๆ อยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว
ถามจริงตอบจริงล็อกเลขจริง
ปัจจุบันการทำโพลล์สำรวจของสำนักต่าง ๆ มีทั้งการออกเก็บข้อมูลเพื่อทำแบบสอบถามแบบตัวต่อตัว ซึ่งย่านที่มีการสำรวจนั้น ก็ดูจะมีผลต่อผลสำรวจอยู่ไม่น้อย เช่น หากมีการสำรวจความนิยมของคนในแต่ละภาคต่อพรรคการเมืองหนึ่งๆ ก็เห็นจะเลี่ยงไม่ได้ว่าแต่ละภาคก็มีพรรคที่ยึดหัวหาดความนิยมไว้อยู่แล้ว และในอีกแบบคือการสำรวจทางโทรศัพท์ ซึ่งแม้จะมีการสำรวจจริง แต่การโทร.หาคนเดิมซ้ำๆ ก็ค่อนข้างคาดเดาคำตอบได้อยู่แล้วว่าคนปลายสายจะมีความเห็นต่อเรื่องที่ถามว่าอย่างไร
แล้วยังจะเชื่อโพลล์อยู่อีกหรือ?
ตราบใดที่สถาบันโพลล์ หรือสถาบันสื่อต่างๆ ของเมืองไทย ยังคงสามารถว่าจ้างได้ หรือยังมีท่อน้ำเลี้ยงจากขั้วอำนาจใดขั้วอำนาจหนึ่งอย่างชัดเจน ก็ขอตอบเลยว่ายังไม่สามารถเชื่อโพลล์เหล่านั้นได้ หากจะเชื่อโพลล์ใดๆ ขอให้ลองกลับไปดูว่าสำนักที่ทำโพลล์นั้นมีความเป็นอิสระต่ออำนาจหรือทุนมากน้อยแค่ไหน ค้นให้เจอว่าการนำเสนอโพลล์ครั้งนั้นๆ มีนัยยะอะไรแฝงอยู่ หรือพลังของโพลล์นั้นสั่นคลอนความเชื่อของผู้อ่านได้มากน้อยเพียงใด ก่อนจะปักใจเชื่อหรือยอมเปลี่ยนความคิดของตัวเอง
ขอสติจงสถิตย์อยู่กับตัวท่าน.
https://deepsouthwatch.org/th/node/7933
http://campus.sanook.com/924835/
ภาพประกอบจาก
http://www.elportal.com.do
www.prachachat.net
www.posttoday.com