กรณีการเสียชีวิตของน้องชมพู่ วัย 3 ขวบ โดยผลชันสูตรน้องชมพู่ กระดูกสันหลังคอไม่หัก หนังศีรษะไม่ซ้ำ รูจมูกหนอนแมลงชอนไช กะโหลกไม่แตก ปากมีหนอนไช ตาแห้ง เบ้าตาเว้าลึก
คลิกอ่านข่าว "น้องชมพู่" ทั้งหมดที่นี่
ส่วนระบบภายในร่างกายนั้น พบว่าผิวเยื่อหุ้มปอดไม่มีเลือดออก หัวใจเริ่มเน่า ปอดทั้ง 2 ข้างเริ่มเน่า และผิวทั้งร่างกายเริ่มแห้งกร้าน
ทั้งนี้อวัยวะสำคัญ ได้แก่ ทวารหนักขยายเล็กน้อย ช่องคลอดไม่พบบาดแผล กระดูกขาไม่แตกหัก และเยื่อพรหมจารี ไม่ฉีกขาด
ล่าสุดวันที่ 14 ก.ค.63 ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี สอบถามนายไชย์พล วิภา ลุงของชมพู่ เปิดเผยว่า ตั้งแต่คืน 12 พ.ค.63 ตนก็นอนอยู่บ้านของน้องชมพู่ จนกระทั่งเช้า 13 พ.ค.63 ส่วนตัวไม่ได้สังเกตว่ามีใครบ้าง แต่ตนก็เห็นมีแม่ครัวมาทำกับข้าวแล้ว ตนเองก็ตื่น จัดของรับแขก จากนั้นก็กลับบ้านพร้อมภรรยา เพื่ออาบน้ำเปลี่ยนชุด เนื่องจากตนใส่ชุดที่เดินค้นหาตั้งแต่ 12 พ.ค.63
ถัดมาช่วงสายวันที่ 13 พ.ค.63 ตนก็ชักชวน ป้าแต๋น แม่ถอน ไปที่บ้านโคกกลาง เพื่อไปหาหมอผู้นำจิตวิญญาณ และไปเจอกับชาวบ้านที่บ้านโคกกลาง เพื่อพาไปหาหมออีกทีหนึ่ง
เมื่อไปถึงบ้านหมอก็มีการทำพิธีอยู่สักพักหนึ่ง จากนั้นก็รับหมอมาที่บ้าน น่าจะมาถึงบ้านชมพู่เกือบ 12.00 น. จากนั้นช่วงบ่าย 2 โมงจนถึงบ่าย 3 โมงก็ไปเอาลิง ไปพร้อมกับพี่ชายพ่อชมพู่ และป้าแต๋น โดยไปที่บ้านห้วยเบือก เมื่อเอาลิงมา ตนเองก็อยู่แถวบ้านงาน จนกระทั่งหมอจะกลับบ้าน ตนเองก็พาไปส่งที่บ้านโคกกลาง โดยไปกับแม่ถอน จากนั้นก็กลับมาที่บ้าน ซึ่งตนไม่แน่ใจเวลา
นอกจากนี้ยังมีชาวบ้านพูดบอกว่ามีพระสงฆ์ที่อยู่ บ้านแก่งนาง ที่สามารถทำพิธีพวกนี้ได้ จึงพากันไปหาอีก โดยไปกับ แม่ถอน และมีชาวบ้านนำทาง จากนั้นก็ไปนิมนต์ท่านมา รู้ว่าน่าจะช่วงบ่าย 3 โมงจนถึงบ่าย 4 โมง จากนั้นพระท่านก็มา โดยขับรถตามหลังมา
ส่วนเช้าวันที่ 14 พ.ค.63 ตนก็ตื่นกลับบ้าน อาบน้ำ และออกมารับนางปาน เพื่อให้เอาเครื่องดื่มไปมอบให้แม่ชมพู่ ช่วงสายก็ออกไปวัดชัยมงคล เพื่อที่ไปหาพระ เพื่อนิมนต์มา โดยไปกับ นางวงศ์ ท่านไม่ได้มา เพียงให้ธูปมา เมื่อมาถึงบ้านก็อยู่บ้านตลอด จนเที่ยง ๆ บ่าย ๆ ก็มีคนแนะนำให้ไปวัดถ้ำแกบทิพย์ บ้านห้วยหวด กับลุงวี ตนก็ไป ท่านไม่มาเช่นเดิม เพียงแนะนำวิธีเท่านั้น ตนก็กลับมาที่บ้าน จากนั้นไม่ได้ไปไหนจนกระทั่งถึงช่วงเย็น คอยดูเรื่องน้ำ
ช่วงวันที่ 13-14 พ.ค.63 ตนแทบไม่ได้ออกค้นหา มีหาหมอธรรม กับช่วยหน้างาน จนกระทั่งมีคนเห็นรองเท้า ตนก็เตรียมตัวเพื่อขึ้นเขา โดยรอป้าตุ่นมา ส่วนตัวยืนยันว่าตนไม่มีเวลาที่จะไปก่อเหตุอะไรได้ เป็นไปไม่ได้ โดยเฉพาะหากเป็นเวลาตามที่พิสูจน์หลักฐานว่าเด็กเสียชีวิต 8-10 ชั่วโมง
