ภัยแล้งลามหนักกระทบลิงแสมขนสีทองกว่า 800 ตัว วนอุทยานโกสัมพี จ.มหาสารคาม หลังฝนทิ้งช่วงกว่า 2 เดือน ทำให้อาหารตามธรรมชาติไม่พอ ต้องอพยพหนีแล้งมาด้านล่าง ด้านชาวประมงลุ่มน้ำโขง จ.หนองคาย เดือดร้อนน้ำแห้งโขดหินโผล่ต้องจอดเรือหันไปทำงานก่อสร้าง ขณะที่ชาวนา จ.นครสวรรค์ สุดช้ำข้าวขาดน้ำตาย ต้องไถทิ้งเป็นรอบที่ 3 เช่นเดียวกับชาวสวนลำไย จ.พะเยา ทุกข์ระทมเจออากาศร้อนจัดทำผลแตกเสียหาย ด้าน “ประภัตร” สั่งเพิ่มระบายน้ำ 2 เขื่อนยักษ์ช่วยนาข้าว 17 ล้านไร่ลุ่มเจ้าพระยา สวนทางแผนการบริหารจัดการน้ำของ สทนช.
สถานการณ์ภัยแล้งเมื่อวันที่ 23 ก.ค. ที่วนอุทยานโกสัมพี หรือบุ่งลิง อ.โกสุมพิสัย จ.มหาสารคาม เกิดภัยแล้งจากภาวะฝนทิ้งช่วงยาวนานกว่า 2 เดือนส่งผลให้ลิงแสมกว่า 800 ตัวได้รับผลกระทบ เนื่องจากอาหารตามธรรมชาติมีไม่พอต้องอพยพหนีความอดอยากมาอยู่ตามกำแพงวัดและโรงเรียน รวมถึงที่ลานจอดรถของวนอุทยาน ทำให้เสี่ยงที่จะโดนรถชน สำหรับวนอุทยานโกสัมพีเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติชื่อดังของจังหวัดมหาสารคาม เนื่องจากมีฝูงลิงแสม โดยเฉพาะลิงแสมขนสีทองที่มีอยู่เพียงแห่งเดียวและมากที่สุดในเอเชีย แต่ขณะนี้ลิงขาดอาหารอย่างหนัก ส่วนการช่วยเหลือมีการรับบริจาคเงินผ่านทางกองทุนอาหารลิงอำเภอโกสุมพิสัยเพื่อนำไปซื้ออาหารให้ลิงในช่วงวิกฤติภัยแล้ง
ที่ประตูระบายน้ำห้วยใหญ่ ต.ศิลา อ.เมืองขอนแก่น จุดรับน้ำสำคัญจากลำน้ำพองไปใช้ในการเกษตรขณะนี้น้ำเกือบแห้งขอดเหลือเพียงก้นห้วย สาเหตุมาจากเขื่อนอุบลรัตน์ระบายน้ำผ่านลำน้ำพองน้อยมาก ทำให้ลำห้วยใหญ่ไม่มีน้ำส่งไปตามคันคลองส่งน้ำสายต่างๆส่งผลให้นาข้าวในพื้นที่ ต.ศิลา กว่า 1,000 ไร่ทยอยเหี่ยวแห้งลงทุกวัน ด้านนายกิจ วงคุย อายุ 66 ปี ชาวนาบ้านหนองโพธิ์ หมู่ 4 ต.ท่ากระเสริม อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น เผยว่า ขณะนี้ไม่มีฝนตกมา 3 เดือนแล้ว ทำให้ข้าวเหี่ยวแห้งต้องลงทุนซื้อท่อพีวีซียาวกว่า 30 เมตรต่อท่อสูบน้ำจากลำน้ำพอง แต่ได้เพียงแค่ 2 ไร่เท่านั้น เพราะน้ำมีน้อย เหลืออีก 10 ไร่คงต้องปล่อยทิ้งตามยถากรรม
ส่วนชาวบ้านริมฝั่งโขงบ้านหาดทรายทอง ต.หาดคำ อ.เมืองหนองคาย กว่า 20 ครอบครัวที่ส่วนใหญ่มีอาชีพประมงได้รับความเดือดร้อนจากแม่น้ำโขงลดลงจนเห็นโขดหินโผล่จำนวนมาก ชาวบ้านที่ออกเรือหาปลาต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ บางคนจอดเรือไว้ริมชายหาดแล้วหันไปรับจ้างทำงานก่อสร้างในตัวเมือง เนื่องจากออกเรือไปจับปลาแล้วไม่คุ้มค่า สาเหตุเพราะปีนี้น้ำโขงลดอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ล่าสุดอยู่ต่ำกว่าตลิ่ง 10.68 เมตร ทำให้ปลามีน้อยและตัวเล็ก ต่างจากช่วงหน้าฝนปีที่ผ่านมาน้ำโขงขึ้นสูงจับปลาได้มาก
ด้านนายอำนวย ปองนาน นายอำเภอปักธงชัย จ.นครราชสีมา ประชุมหาทางช่วยเหลือชาวบ้านที่ประสบภัยแล้งจากฝนทิ้งช่วง พืชผลทางการเกษตรเสียหายแล้ว 10 ตำบล คิดเป็น 80 เปอร์เซ็นต์ของพื้นที่ ล่าสุดน้ำโครงการส่งน้ำเขื่อนลำพระเพลิง และอ่างเก็บน้ำลำสำลายเหลือน้อยมาก เขื่อนลำพระเพลิงเหลือน้ำประมาณ 23 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 15 เปอร์เซ็นต์ และอ่างลำสำลายเหลืออยู่ราว 8 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 19 เปอร์เซ็นต์ ใช้ได้เฉพาะอุปโภคบริโภคเท่านั้น ไม่สามารถส่งน้ำให้เกษตรกรในขณะนี้ได้ จึงให้ชะลอการปลูกพืชออกไปก่อน
ที่บ้านนาดี หมู่ 1 ต.วังหลวง อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด ชาวบ้านกว่า 140 ครอบครัวร่วมกันประกอบพิธี “เต้านางด้ง” เพื่อขอฝนจากพญาแถน มีนายชุมพล พรหมวงค์ อายุ 77 ปี ทำหน้าที่เชิญเทวดาพญาแถนลงมาฟังความเดือดร้อนของชาวบ้าน นายธงสิน ธนกัญญา อายุ 62 ปี อดีตผู้อำนวยการโรงเรียนท่าเยี่ยม ต.วังหลวง อ.เสลภูมิ เผยว่า พิธี “เต้านางด้ง” จะจัดเฉพาะปีที่ฝนแล้งเท่านั้น เพราะวิถีชีวิตชาวอีสานเชื่อว่าเป็นการลงโทษของสิ่งลี้ลับที่มีอำนาจเหนือธรรมชาติดลบันดาลให้ฝนไม่ตกตามฤดูกาล อุปกรณ์ที่ใช้ประกอบพิธีกรรมมีหญิงม่าย 2 คน กระด้ง 2 อันประกบกัน คานหาบ 4 อัน และหอย 1 ตัวอยู่ในกระด้งเดินพาชาวบ้านเซิ้งขอฝนจากพญาแถน
ส่วนที่ฝายแม่น้ำยม โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาแม่ยม ต.บ้านหนุน อ.สอง จ.แพร่ นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ ผวจ.แพร่ ตรวจสถานการณ์ภัยแล้งและช่วยเหลือเกษตรกร 3 อำเภอที่ขาดน้ำทำนาประกอบด้วย อ.เมืองแพร่ อ.สอง และ อ.หนองม่วงไข่ หลังแม่น้ำยมแห้งขอด หน้าฝายเต็มไปด้วยตะกอนทรายและวัชพืช จึงแจ้ง อบจ.แพร่ สนับสนุนรถแบ็กโฮขุดลอกทางน้ำที่จุดสูบน้ำสะพานดอยผี อ.สอง และจุดสูบน้ำบ้านวังหลวง อ.หนองม่วงไข่ เพื่อส่งน้ำให้ชาวนา ส่วนที่วัดพระธาตุช่อแฮ พระอารามหลวง พระโกศัยเจติยารักษ์ รองเจ้าคณะจังหวัดแพร่และคณะสงฆ์ 365 วัดประกอบพิธีสามีจิกรรมเนื่อง ในเทศกาลเข้าพรรษา เสร็จแล้วคณะสงฆ์ได้สวดคาถาขอฝน เนื่องจากปีนี้ฝนไม่ตกตามฤดูกาล ชาวนาไม่ได้ทำนา พืชผลการเกษตรเหี่ยวแห้งตาย
ที่ จ.นครสวรรค์ นายคจิต เหมาคม ผู้จัดการการประปาส่วนภูมิภาค สาขาท่าตะโก ระดมเจ้าหน้าที่ไปติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่และขนาดเล็กกว่า 30 เครื่อง บริเวณประตูน้ำหนองเครือเขาโค้ง หมู่ 2 ต.พนมรอก อ.ท่าตะโก เพื่อเร่งสูบน้ำเข้าคลองสาขาส่งต่อไปโรงผลิตประปาส่วนภูมิภาคท่าตะโก หลังน้ำในคลองสาขาของบึงบอระเพ็ดแห้งขอดไม่เพียงพอต่อการทำประปาเหลือน้ำสำรองใช้ได้ 2 สัปดาห์เท่านั้น และประกาศห้ามชาวบ้านลักสูบน้ำในคลองไปใช้ในการเกษตรอย่างเด็ดขาด ด้านชาวนาหมู่ 9 ต.สำโรงชัย อ.ไพศาลี ต้องไถนาข้าวที่เหี่ยวแห้งตายทิ้งเป็นรอบที่3 หลังแผ่นดินแห้งแล้งแตกระแหง และรอ ฝนตกหว่านเมล็ดพันธุ์ข้าวรอบใหม่ แม้ต้องลงทุนเพิ่ม แต่ชาวนายอมเสี่ยง เพราะเป็นอาชีพเดียวที่ทำมาตลอดชีวิต
ขณะที่เกษตรกรชาวสวนลำไยพื้นที่ 14 ตำบล อ.เชียงคำ จ.พะเยา เจอปัญหาภัยแล้งและอากาศร้อนจัดในช่วงลำไยใกล้เก็บเกี่ยวผลผลิตทำให้ผลลำไยแตกร่องเสียหายจำนวนมาก นายปรีชา แสงศรีจันทร์ เกษตรกรกล่าวว่า ปีนี้แล้งมากและยาวนาน ทำให้ผลผลิตลำไยที่รอเก็บเกี่ยวอีก 2-3 วันแตกร่วงหมดทั้งสวน เป็นปรากฏการณ์ที่ไม่เคยพบมาก่อน ขณะที่นายเสาร์ ยาศรี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 ต.น้ำแวน อ.เชียงคำ ประธานกลุ่มเกษตรแปลงใหญ่ผู้ปลูกลำไย ต.น้ำแวน เผยว่า คาดว่าภัยแล้งในปีนี้จะทำให้ผลผลิตลำไยของกลุ่มเสียหายเหลือเพียง 20 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น
นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย สั่งการให้ทุกจังหวัดเร่งแก้ไขปัญหาภัยแล้งและฝนทิ้งช่วงระยะเร่งด่วน ให้จังหวัดประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อติดตามสภาวะอากาศและการบริหารจัดการน้ำอย่างใกล้ชิดทั้งกรมอุตุนิยมวิทยา สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (สสน.) กรมชลประทาน และทหารในพื้นที่ เพื่อชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชนถึงสถานการณ์น้ำ รวมถึงเร่งสำรวจจำแนกพื้นที่เสี่ยงภัยให้ชัดเจนทั้งพื้นที่ขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภคและการเกษตร หากประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากกรณีภัยแล้ง และฝนทิ้งช่วงสามารถติดต่อแจ้งสายด่วนสาธารณภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง
ขณะที่นายประภัตร โพธสุธน รมช.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ให้เร่งปรับเพิ่มระบายน้ำช่วยเหลือเกษตรกรในพื้นที่นาข้าวลุ่มเจ้าพระยากว่า 17 ล้านไร่ ทั้งในเขตชลประทานและนอกเขตชลประทานที่ประสบปัญหาฝนทิ้งช่วง เพราะกว่าจะถึงวันที่ 10 ส.ค.ที่ประเทศไทยจะมีฝนตกปกติ สถานการณ์ขณะนี้อันตรายมาก มีน้ำระบายหน้าเขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท ไม่พอแบ่งให้กับ 24 คลอง ทำให้มีปัญหาทะเลาะแย่งน้ำกันตลอด จึงสั่งเพิ่มกระแทกน้ำมาจากเขื่อนภูมิพลวันละ 25 ล้าน ลบ.ม. เขื่อนสิริกิติ์เพิ่ม 20 ล้าน ลบ.ม.ตั้งแต่เย็นวันที่ 21 ก.ค.ที่ผ่านมา และให้ผู้ว่าราชการสั่งหยุดสถานีสูบน้ำไฟฟ้ากว่า 400 แห่งตลอดแนวลุ่มน้ำปิงและลุ่มน้ำน่าน 3 วัน คาดว่ามวลน้ำจะมาถึงเขื่อนเจ้าพระยาวันที่ 25 ก.ค.นี้ เพื่อมาช่วยเลี้ยงนาข้าวกว่า 17 ล้านไร่
ด้านนายสมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) กล่าวว่า ยอมรับว่ารู้สึกกังวลกับคำสั่งให้กรมชลประทานเพิ่มการระบายน้ำ เพราะขณะนี้ปริมาณน้ำที่เหลืออยู่ถือว่าน้อย ต้องทบทวนแผนและลดการระบายลง เมื่อนายประภัตรสั่งให้เพิ่มการระบายน้ำมันสวนทางกับแผนการบริหารจัดการน้ำของ สทนช. จึงได้โทรศัพท์ไปถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการระบายน้ำว่าหากต้องเพิ่มการระบายน้ำควรแจ้งให้ สทนช.รับรู้ก่อน
ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง
- เผยห้วยใหญ่ที่ขอนแก่น ปีก่อนน้ำทะลัก มาปีนี้น้ำแทบไม่เหลือ
- แล้งกลางฤดูฝน ยม-น่าน ส่อวิกฤติ เขื่อนฯแจ้งหยุดบริการโป๊ะ
- ชี้ "เขื่อนขวางโขง" ตัวการหลัก ทำน้ำแห้งขอด ผิดธรรมชาติ
ตามข่าวก่อนใครได้ที่
- Website : www.thairath.co.th
- LINE Official : Thairath