สำหรับนักเที่ยวมือใหม่ การเลือกกระเป๋าเดินทางดีๆ ซักใบ จะช่วยให้เส้นทางการเดินทางของคุณสะดวกสบายหลายสเต็ปเลยทีเดียว วันนี้ Undubzapp จะมาแนะนำ 10 เทคนิคการเลือกกระเป๋าเดินทางล้อลากแบบขั้นเทพทุกองค์ประกอบ ตอบโจทย์การใช้งาน ทนทานใช้ได้นานหลายปีจนถึงเกือบตลอดชีวิตเลยทีเดียว ถ้ารู้จักดูแลรักษามันให้ดี จะได้ไม่ต้องซื้อใหม่บ่อยๆ แถมเดินทางทริปไหนก็อุ่นใจเที่ยวสนุกไม่มีสะดุด
1. เลือกกระเป๋าขนาด 26 นิ้วก็พอ เวิร์กสุด
ไซซ์มาตรฐานของกระเป๋าเดินทางที่ไม่เล็กเกินไป และไม่ใหญ่ถึงขั้นต้องยกหนักๆ ให้ปวดหลัง ปวดแขน แนะนำว่าเลือกขนาด 26 นิ้วก็พอใส่สัมภาระได้สบายๆ อย่างน้อยก็ 3-5 วันเหลือเฟือ แต่ถ้ากรณีกระเป๋าใบเดียวเที่ยวหลายคนอาจเลือกใหญ่หน่อยก็ได้ตามความเหมาะสม
2. วัสดุกระเป๋า สายแข็ง VS สายอ่อน ตามความชอบ
กระเป๋าเดินทางสามารถแบ่งได้เป็น 2 ประเภทหลักๆ คือ ชนิดแข็ง (Hard Case) และ ชนิดผ้า (Soft Case) เลือกแบบไหนดีที่สุด อันนี้อยู่ที่ความชอบ
Hard Case ตัวถังทำจากพลาสติกแข็ง คงทน เหมาะสำหรับใส่สัมภาระที่ต้องการให้อยู่เป็นรูปทรง ป้องกันของข้างในไม่ให้เสียหายหรือแตกได้ง่ายๆ แต่ข้อเสียคือค่อนข้างหนัก
Soft Case ตัวถังทำจากผ้า ยืดหยุ่นขยายได้ มีน้ำหนักเบากว่าแบบชนิดแข็ง แต่ข้อเสียคือสัมภาระข้างในอาจเสียหายชำรุดได้ง่าย รวมถึงกระเป๋าอาจขาดได้ถ้าหากใส่สัมภาระมากเกินไป
*3. เช็กเรื่อง “ล้อ” เป็นอันดับแรก *
เรื่องนี้สำคัญมากๆ! แนะนำให้ลงทุนเลือกกระเป๋าแบบ 4 ล้อแทน 2 ล้อ เพราะช่วยผ่อนแรงเวลาเคลื่อนที่ได้ดีกว่า และวัสดุของล้อที่ดีควรเป็นล้อยางทั้งลูก ชนิดที่มีตลับลูกปืน ตัวล้อควรฝังอยู่ภายในกระเป๋าเดินทางโดยเฉพาะกระเป๋าเดินทางที่ไว้ใต้ท้องเครื่องบิน เพราะจะป้องกันการเสียของล้อได้
4. ซิป ต้องแข็งแรง รูดขึ้นลงหลายๆ ที
เรื่องซิปก็เป็นเรื่องสำคัญไม่แพ้กัน เพราะเป็นส่วนที่บอบบางพังเสียหายได้ง่าย ซิปกระเป๋าเดินทางแตกระหว่างทริปชีวิตพังแน่นอน ก่อนซื้อกระเป๋าเดินทางลองรูดซิปเข้าออกหลายๆ ที เช็กความแข็งแรง ความลื่นรูดง่าย ทั้งนี้ก็เพื่อให้มั่นใจมากขึ้นว่ากระเป๋าเดินทางคุ้มค่าไม่ใช่ใช้งานไม่กี่ครั้งก็พัง
5. หูหิ้วและคันชัก ถนัดใช้งาน
หูหิ้วต้องมีความแข็งแรงสุดๆ เพราะมันเป็นส่วนที่รับน้ำหนักของกระเป๋าทั้งใบเวลายก หูหิ้วควรเป็นแบบยึดเกาะติดกับตัวกระเป๋า ยืดหดได้เป็นอย่างดี จับได้ถนัดมือ และในส่วนของคันชักเวลาลากกระเป๋าควรทดลองดึงขึ้นดึงลงจนมั่นใจว่าแข็งแรง ไม่มีปัญหาว่าจะพังเสียหายได้ง่ายๆ
6. ต้องมีสายรัดในกระเป๋า
อย่ามองข้ามประโยชน์ของสายรัดในกระเป๋าไปเชียว เพราะมันจะทำให้การเดินทางของคุณสะดวกสบายไร้กังวลขึ้นอีกเป็นกอง เพราะคุณสามารถอัดของในกระเป๋าให้มีขนาดเล็กลง เพื่อเพิ่มพื้นที่การใช้งาน อีกทั้งยังช่วยรัดสัมภาระของคุณให้เป็นระเบียบเรียบร้อย เวลาจะหิ้วจะลากไปไหน ของข้างในก็ไม่พังเสียหายง่ายๆ
7. เน้นฟังก์ชั่นการใช้งาน มากกว่าความสวยงาม
ส่วนใหญ่กระเป๋าเดินทางประเภท Designer Bag สวยงามหรูหรามีสไตล์ ค่อนข้างไม่แข็งแรง และราคาแพงเกินความจำเป็น เพราะฉะนั้นเลือกกระเป๋าทรงปกติเบสิกมาตรฐานที่มีความแข็งแรงทนทาน ฟังก์ชั่นการใช้งานครบครัน เคลื่อนย้ายสะดวก เพื่อทริปที่สนุกแบบไม่มีสะดุด
8. อย่ายึดติดแบรนด์
แบรนด์กระเป๋าเดินทางดีๆ ไม่ได้มีแค่ Samsonite หรือ American Tourister เท่านั้น เพราะยังมีอีกหลายแบรนด์ที่คุณภาพดีงามไม่แพ้กัน แถมราคายังเป็นมิตรอีกด้วย อย่างเช่นแบรนด์ Travelpro, Eminent, Echolac, Delsey เพราะกระเป๋าเดินทางดีๆ มีให้คุณเลือกมากมายในราคาที่คุณจ่ายไหว
9. การรับประกัน
แทบทุกแบรนด์จะมีการรับประกันต่อเมื่อกระเป๋าได้รับความเสียหายที่เกิดจากการผลิตเท่านั้น เช่น รอยเย็บเบี้ยว น็อตหลุด และการรับประกันต้องเป็น “การรับประกันจากศูนย์ผู้ผลิตเท่านั้น” ไม่ใช่จากทางร้านจัดจำหน่ายนะ
10. ซื้อกระเป๋าเดินทางกับร้านที่มีความรู้ด้านกระเป๋าจริงๆ
แนะนำว่าไปซื้อจากศูนย์หรือตามห้างร้านที่มีพนักงานขายแบบมืออาชีพเชี่ยวชาญด้านกระเป๋าจริงๆ ที่เราสามารถสอบถามพนักงานเกี่ยวกับความทนทาน วัสดุที่ใช้ผลิต ล้อแบบนี้ดีมั้ย เราจะไปเที่ยวประเทศนี้ ไลฟ์สไตล์เราเป็นแบบนี้ ควรเลือกกระเป๋าแบบไหน งบมีเท่าไหร่ พนักงานจะได้จัดสเปคได้ตามความต้องการ
CR : mthai , 2madames , promotions , dek-d
---
อัปเรื่องแซ่บ ฟีดเรื่องมันส์ เม้าท์ทันเพื่อน
Facebook: @UndubZapp
Instagram: @UndubZapp
ความเห็น 0