เมื่อไม่นานมานี้ Bungie จะรับเอาลิขสิทธิ์ของเกมส์ซีรี่ย์ Destiny ทั้งหมดมาจากActivision และนี่คือจุดจบของสัญญาระยะเวลา 10 ปีของพวกเขา ซึ่งดูเหมือนว่าจะเป็นสัญญาที่ Activision เข้าไปช่วยอุ้มโปรเจกต์ Halo ของ Bungie ไว้ หลังจากที่ Bungie แยกตัวออกมาจาก Microsoft
หากใครได้อ่านโพสของ Bungie จากเว็บไซต์ของพวกเขาเองนั้น จะรู้ว่าตอนนี้ทาง Activision ได้เริ่มดำเนินการส่งมอบลิขสิทธิ์ของ Destiny ให้ Bungie แล้ว และก็คงมีผลกับเกมส์เหรียญสหรัฐฯ ด้วยแน่นอน ทาง Bungie ได้ออกมาบอกอีกว่า พวกเขายังวางแผนที่จะเอาเกมส์ในเวอร์ชั่น PC ที่ต้องเข้าเล่นผ่าน Battle.net มาเป็นของพวกเขาอีกด้วย แต่ผู้เล่นทั้งหลายไม่ต้องเป็นกังวลไปว่า ถ้าหากเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นจะเข้าเล่นเกมส์ผ่าน Battle.net ได้อีกหรือไม่ ทางเหรียญสหรัฐฯยืนยันมาแล้วว่าไม่มีผลกระทบอะไรแน่นอน ผู้เล่นยังคงเข้าเล่นเกมส์ได้เหมือนเดิม
ทาง Activision ได้ออกมากล่าวว่า "วันนี้ เราจะออกมาประกาศว่า แผนการที่จะให้ทาง Bungie ได้มาดูแลลิขสิทธิ์ของแฟรนไชส์ Destiny ทั้งหมดนั้น กำลังเดินหน้าไปเรื่อยๆ ต่อไปนี้ Bungie จะเป็นเจ้าของและพัฒนาแฟรนไชส์นี้ด้วยตัวเอง ส่วนทาง Activision เองจะกลับมาโฟกัสที่งานและโปรเจกต์อื่นๆ ของตัวเองซะที ทาง Activision และ Bungie ได้ตกลงกันแล้วว่าเราจะยังคงทำงานร่วมกันต่อไปอย่างใกล้ชิดกัน เพื่อให้ชุมชนผู้เล่นชาว Destiny ยังคงอยู่ต่อไป"
หากลองสังเกตุช่วงเวลาที่ผ่านมาทั้งเกมส์ Destiny และ Destiny 2 เป็นเกมส์ที่เอาแน่เอานอนไม่ได้เลยจริงๆ ทาง Bungie ต้องคอยปล่อยส่วนเสริมออกมา เพื่อแก้ปัญหาภายในเกมส์อยู่บ่อยครั้ง โดยเฉพาะ Destiny 2 ที่พบเจอปัญหาใหญ่เกี่ยวกับระบบการซื้อขายไอเท็มภายในเกมส์นั้น ทำให้ผู้เล่นบางคนรู้สึกกังวลกับเหตุการณ์ที่ Bungie แยกตัวออกจาก Activision ว่าจะเกิดผลกระทบกับไอเท็มที่เขาซื้อในเกมส์หรือไม่
มีรายงานเกี่ยวกับปัญหาระหว่างการพัฒนาเกมส์ซีรี่ย์ Destiny หลุดออกมาหลายครั้ง ครั้งหนึ่งเคยมีข่าวลือว่าเกมส์ Destiny 2 จะถูกรื้อทำใหม่หมดเลย และหลังจากนั้นสัญญาณปัญหาความสัมพันธ์ระหว่างสองบริษัทผู้พัฒนาเกมส์ Destiny ก็เริ่มชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ หลังจากที่มีการปล่อยส่วนเสริม Forsaken ออกมาในเดือนกันยายนที่ผ่านมา แม้ว่าตัวส่วนเสริมนี้จะได้รับการตอบรับอย่างดีจากแฟนๆ เกมส์ แต่ทาง Activision ก็ยังออกมาบอกว่าผิดหวังกับการปล่อยส่วนเสริมตัวนี้ ที่ยังคงทำยอดไม่ได้ตามเป้าที่วางไว้ เหตุการณ์ในครั้งนี้ทำให้ Luke Smith ผู้สร้าง Destiny 2 ถึงกับหัวร้อนออกมาโพสต์ทวิตเตอร์เพื่อโต้ตอบกลับโดยทันทีว่า "เราไม่ได้รู้สึกผิดหวังอะไรเลยกับ Forsaken เพราะเราสร้างเกมส์นี้มา เพื่อให้ผู้เล่นเกมส์ Destiny ได้หลงรักในตัวเกมส์นี้ และหากเป็นเช่นนั้นเราก็รู้สึกดีเช่นกัน การสร้างเกมส์ Destiny นั้นจะสร้างไว้ให้คนที่รักในสิ่งที่ตัวเกมส์ควรจะเป็นได้เล่น และเราก็จะยังคงยึดตามหลักการนี้ต่อไป"
คำแถลงล่าสุดของ Bungie เกี่ยวกับเรื่องการแยกตัวออกมานั้น กล่าวไว้ว่า "จากเหตุการณ์ของ Forsaken นั้น ทำให้เราได้เรียนรู้และเชื่อว่าแฟนๆ ของพวกเราต้องการอะไรจาก Destiny เรายังคงเดินหน้าไปตามแผนงานเดิมของเรา เรามีแผนว่าจะสร้างประสบการณ์ใหม่ให้ผู้เล่นได้สัมผัสกันในไม่กี่เดือนข้างหน้านี้อีกด้วย และก็ขอขอบคุณเป็นอย่างสูงสำหรับการสนับสนุนพวกเราตลอดมา ความสำเร็จของพวกเรานั้นมาจากเหล่าแฟนๆ ทั้งหลายที่คอยโอบกอดโลกของพวกเราด้วยแสงสว่างและชีวิต เรารู้ดีว่าการสร้างเกมส์ด้วยตัวเราเองนั้นมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย มันเป็นสิ่งที่ใหญ่มากสำหรับสตูดิโอของพวกเราที่เติบโตมาด้วยตัวเอง แต่เรามองเห็นโอกาสและประสิทธิภาพในตัวเกมส์ Destiny เรามองเห็นการผจญภัยครั้งใหม่ที่รอพวกเราอยู่ในโลกใบใหม่ที่เต็มไปด้วยความลึกลับ อุปสรรค และความหวัง และเราหวังว่าพวกคุณจะมาเข้าร่วมกับพวกเราอีกเช่นเคยที่โลกใบใหม่"
เรายังคงบอกไม่ได้ว่าอนาคตของ Destiny จะเป็นอย่างไร แต่ที่แน่ๆ คือ Bungie ทุ่มเทให้กับ Destiny เต็มร้อย และมีอิสระในการสร้างเกมส์ Destiny 2 มากขึ้น เรายังรู้มาอีกว่า Bungie ได้เริ่มทำโปรเจกต์ใหม่อยู่ตัวหนึ่ง และเมื่อปีที่แล้วทาง Bungie เองก็เพิ่งได้รับทุนในการทำโปรเจกต์ที่ไม่ใช่เกมส์ Destiny มาจาก NetEase ซึ่งเป็นผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ตและเกมส์ยักษ์ใหญ่ของจีน เป็นเงินหนึ่งร้อยล้านเหรียญสหรัฐฯ Bungie เองก็เป็นบริษัทใหญ่บริษัทหนึ่ง ที่มีความสามารถในการทำโปรเจกต์มากกว่าหนึ่งตัวในเวลาเดียวกัน ทาง Bungie ยืนยันว่าแฟรนไชส์ Destiny จะยังคงเติบโตไปเรื่อยๆ และความมุ่งมั่นของพวกเขาจะไม่มีวันลดลงไปเพียงเพราะข่าวการแยกตัวออกจาก Activision แน่นอน
