โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

ใครว่าโรบัสตาไม่อร่อย ตามไปจิบ ชิมขนมที่รับแรงบันดาลใจจากถิ่นใต้ไทยกันที่ ‘ขมิ้น Camin Cafe’

THE STANDARD

อัพเดต 25 ก.พ. 2563 เวลา 07.36 น. • เผยแพร่ 25 ก.พ. 2563 เวลา 07.36 น. • thestandard.co
ใครว่าโรบัสตาไม่อร่อย ตามไปจิบ ชิมขนมที่รับแรงบันดาลใจจากถิ่นใต้ไทยกันที่ ‘ขมิ้น Camin Cafe’
ใครว่าโรบัสตาไม่อร่อย ตามไปจิบ ชิมขนมที่รับแรงบันดาลใจจากถิ่นใต้ไทยกันที่ ‘ขมิ้น Camin Cafe’

คราวที่แล้ว THE STANDARD POP ได้แนะนำร้านอาหารใต้หรอยแรง ‘ขมิ้น Camin Cuisine’ กันไปแล้ว และอย่างที่บอกว่าเราค่อนข้างจะชื่นชมในความตั้งใจ และความใส่ใจในรายละเอียดของ เบียร์-จุฑาทิพย์ เพชรเรือนทองผู้เป็นเจ้าของร้านอยู่ไม่น้อย คราวนี้ขอพาข้ามมายังฝั่งคาเฟ่ ซึ่งอยู่ในพื้นที่เดียวกัน เบียร์ผู้ภูมิใจในความเป็นคนใต้ของตน ยังคงนำแรงบันดาลใจจากท้องถิ่นใต้ของไทยมาใส่เป็นกิมมิกในการตกแต่งร้าน และสร้างสรรค์เมนูขนมกับเครื่องดื่มของ ขมิ้น Camin Cafe แห่งนี้ให้เป็นคาเฟ่ตามสมัยนิยม ทว่าอบอวลไปด้วยกลิ่นอายท้องถิ่นทางภาคใต้ของไทยได้อย่างร่วมสมัย สนุก และน่ารัก 

 

The Vibe

 

 

แม้จะรีโนเวตจากตัวบ้านเก่าที่ปรับปรุงให้เป็นเรือนกระจกเพดานสูงโปร่ง เช่นเดียวกับฝั่งร้านอาหาร แต่ขมิ้นคาเฟ่มีบุคลิกที่แตกต่างตรงที่มีอารมณ์และบรรยากาศของความเป็นผู้หญิงมากกว่าทางฝั่งร้านอาหาร ด้วยรายละเอียดต่างๆ อย่าง ดอกไม้และปลากัดในขวดโหลที่ช่วยเพิ่มชีวิตชีวา ของแต่งร้านที่เป็นไฮไลต์อย่างโคมไฟแชนเดอเลียร์ ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากปลากัดตัวเมีย ซึ่งถ้าไม่บอกก็คงจะไม่รู้เลยว่าทำมาจากทองแดงที่นำไปหลอมแล้วนำมาถักทอให้มีรูปทรงที่พลิ้วไหวคล้ายผ้า ล้อเป็นคู่กับแชนเดอเลียร์รูปหางปลากัดตัวผู้ซึ่งทำจากสเตนเลสที่อยู่ทางฝั่งร้านอาหาร 

 

โคมไฟแชนเดอเลียร์รูปปลากัดตัวเมียทำจากทองแดง และครัวเปิดทำขนม 

 

ภายในคาเฟ่แห่งนี้มีครัวเปิดสำหรับทำขนม ซึ่งผนังเพนต์รูปปลากัดสีสวยงาม และในบางคราวเบียร์ก็ยังแพลนว่าจะใช้สำหรับจัดเวิร์กช็อปทำขนมสำหรับผู้ที่สนใจอีกด้วย นอกจากนี้ทางด้านนอกยังมีสวนร่มรื่นกว้างใหญ่ดีไซน์สวนป่า ที่มาพร้อมกับเสียงน้ำไหลเย็นใจของน้ำตกอีก 7 จุด

 

สวนร่มรื่นกว้างใหญ่ดีไซน์สวนป่า มาพร้อมกับน้ำตก 7 จุด

 

The Drinks

 

‘มะม่วงเบาโซดา’ และ ‘ลูกหยีโซดา’ สองเมนูน้ำซ่าที่สะท้อนความเป็นท้องถิ่นใต้ได้เป็นอย่างดี 

 

เริ่มต้นจิบกันในบรรยากาศดีๆ แบบนี้ด้วยเครื่องดื่มเย็นเบาๆ แสนสดชื่น และสะท้อนความเป็นใต้ได้ดีกับ มะม่วงเบาโซดา(120 บาท) รสชาติเปรี้ยวหวาน ซึ่งใครที่เป็นแฟนมะม่วงเบาของใต้อยู่แล้วรับรองว่าต้องชอบ ส่วนอีกแก้วหนึ่งนั้นเราค่อนข้างเซอร์ไพรส์ในความคิดสร้างสรรค์ของมิกโซโลจิสต์ เพราะเอาลูกหยี ผลไม้ที่ได้รับความนิยมและอุดมอยู่ในภาคใต้มาทำเป็นลูกหยีโซดา (120 บาท) แก้วนี้ได้รสลูกหยีมาแบบเข้มๆ ทว่าสดชื่นลงตัวยิ่งนัก  

 

คนที่ชอบดื่มกาแฟจำนวนไม่น้อยมักจะมีความเชื่อฝังใจกันว่ากาแฟที่อร่อยจะต้องเป็นเมล็ดกาแฟพันธุ์อาราบิก้าเท่านั้น ทว่าขมิ้นคาเฟ่กลับเลือกที่จะไฮไลต์เมล็ดกาแฟโรบัสตา ซึ่งประเทศไทยมีแหล่งเพาะปลูกที่สำคัญอยู่ที่ภาคใต้ โดยเฉพาะที่จังหวัดระนอง มาเป็นกาแฟหลักของร้าน (แต่ก็มีกาแฟอาราบิก้าให้เลือกดื่มด้วยเช่นกัน) ซึ่งบาริสต้าของทางร้านบอกว่า หลังจากที่ใช้ความพยายามในการลองผิดลองถูก ก็พบว่ากระบวนการ Wash Process และการใช้เทคนิคคั่วระดับกลางนั้นทำให้ได้ Flavour Profile ที่ใช่และดีที่สุด ซึ่งยังคงความหนักแน่นของกาแฟโรบัสตา แต่ก็ยังมีรสหวานเปรี้ยวอ่อนๆ คล้ายกับกาแฟอาราบิก้า ทั้งนี้เมล็ดกาแฟโรบัสตาตัวนี้ได้รับการตั้งชื่ออย่างน่ารักว่า ‘หนุ่มใต้’

 

‘Himmapan Amber’ กาแฟดำใส่น้ำผึ้งชันโรง

 

เราเริ่มจิบเครื่องดื่มกาแฟกันด้วยHimmapan Amber (140 บาท) กาแฟดำใส่น้ำผึ้งชันโรง น้ำผึ้งที่มีชื่อเสียงด้านสรรพคุณทางยาจากทางใต้ ซึ่งจะมีเอกลักษณ์อยู่ที่รสเปรี้ยวและมีกลิ่นหอมที่ไม่เหมือนน้ำผึ้งทั่วๆ ไป แก้วนี้ไม่ได้ใส่น้ำผึ้งมากจนหวานกลบรสกาแฟ ทว่าได้ทั้งกลิ่นหอมและรสหวานจางๆ ของน้ำผึ้ง เป็นเมนูกาแฟดำเย็นที่จิบง่ายชื่นใจ นอกจากนี้ยังได้ลองจิบHot Cappucino(80 บาท) ฟองนมสวยละเมียดได้มาตรฐานจัดว่าดี และ Iced  Latte(100 บาท) ซึ่งทั้งหมดที่กล่าวมาชงโดยใช้เมล็ดกาแฟโรบัสตา ‘หนุ่มใต้’ ซึ่งเราขอบอกเลยว่าไม่เคยจิบโรบัสตาที่ไหนแล้วอร่อยลื่นเท่านี้มาก่อนเลย 

 

Hot Cappucino และ Iced Latte

 

The Dishes

รายการขนมของขมิ้นคาเฟ่ มีทั้งขนมไทยและขนมฝรั่งที่ประยุกต์นำส่วนผสมเด่นๆ ของภาคใต้ไทยใส่ลงไปด้วย โดยจะมีเชฟของหวานที่เชี่ยวชาญคอยรับดูแลขนมไทย และเบเกอรีอย่างละคน เพื่อให้สามารถควบคุมคุณภาพและแบ่งความรับผิดชอบกันได้อย่างชัดเจน

 

‘เซตแม่หญิงใหญ่’ เซตขนมไทย 15 ชนิด

 

สำหรับไฮไลต์ของฝั่งขนมไทย แนะนำให้สั่งเซตแม่หญิงใหญ่ (299 บาท) ขนมไทยชุดใหญ่จัดเต็ม ประกอบด้วยขนมไทยถึง 15 ชนิด อาทิ ฝอยทอง ทองหยอด หันตรา สัมปันนี กลีบลำดวน ขนมผิง หม้อแกง อาลัวสด ตะโก้ทับทิมกรอบ ขนมกล้วย ขนมชั้น ขนมโค ขนมมันหน้ากระทิ ฯลฯ แต่ถ้ากลัวจะมากเกินไป ก็มีของหวานเซตเล็กที่ขนาดและราคาย่อมเยาว์ให้เลือกด้วยในเซตแม่หญิงเล็ก (189 บาท) สำหรับขนมไทยที่ได้ชิมแล้วพบว่ารสชาติดีเป็นพิเศษคือ หม้อแกงอาลัวสด กับขนมโค และขนมมันหน้ากระทิ ซึ่งสองอย่างหลังเป็นขนมเด่นของทางภาคใต้ รสชาติถึงเครื่องถึงรส ที่น่าพูดถึงคือ ขนมโคนั้นเลือกใช้น้ำตาลแว่นของทางใต้ จึงได้รสละมุนไม่หวานเลี่ยนจนเกินไป 

 

 ‘ทาร์ตลูกหยีอัลมอนด์ครีมน้ำผึ้ง’ ด้านบนเป็นวิปกานาชที่ใช้ลูกหยีเป็นส่วนผสม 

 

ด้านเบเกอรี ต้องยอมรับว่ามีเมนูออริจินัลซิกเนเจอร์ที่น่าสนใจหลายอย่าง ซึ่งเราไม่เคยเห็นที่ร้านไหนมาก่อนอย่าง ทาร์ตลูกหยีอัลมอนด์ครีมน้ำผึ้ง(120 บาท) ซึ่งข้างในจะเป็นเค้กที่มีอัลมอนด์ครีมและมีกลิ่นหอมของน้ำผึ้ง ด้านบนเป็นวิปกานาชที่ใช้ลูกหยีเป็นส่วนผสม หอมกลิ่นลูกหยี รสออกเปรี้ยวเล็กน้อยแต่ละมุน 

 

‘เค้กมะพร้าวอ่อน’ แต่ละชิ้นใช้เนื้อมะพร้าวไม่ต่ำกว่าหนึ่งลูก

 

เค้กมะพร้าวอ่อน (150 บาท) ซึ่งเชฟเบเกอรีของที่นี่การันตีว่าแต่ละชิ้นใช้มะพร้าวในการทำไม่ต่ำกว่าหนึ่งลูก โดยจะเลือกเนื้อส่วนที่ยังแข็งนำมาทำเป็นไส้ตรงกลาง ส่วนเนื้อมะพร้าวอ่อนก็จะวางโป๊ะไว้อยู่ด้านบน เวลารับประทานจึงให้รสสัมผัสที่หลากหลาย หวานกำลังดี ละมุนทั้งเนื้อเค้ก ครีม และเนื้อมะพร้าวอ่อน 

 

‘โอเปราชาไทย’ เนื้อเค้กเป็นชั้นๆ แทรกด้วยครีมชาซีลอน

 

ส่วนของหวานอย่างสุดท้ายที่เราได้ชิมคือโอเปราชาไทย (150 บาท) ใช้ชาซีลอนซึ่งได้รับความนิยมในแถบภาคใต้เป็นส่วนผสมหลัก ทำเนื้อเค้กออกมาเป็นชั้นๆ แทรกด้วยครีมชาซีลอน ได้ทั้งรสและกลิ่นชาที่ชัดเจน

 

นอกจากนี้ขมิ้นคาเฟ่ยังมีเบเกอรีเมนูอื่นๆ ซึ่งครีเอตโดยใช้วัตถุดิบเด่นๆ จากทางภาตใต้ที่เราคิดว่าน่าสนใจ อย่างเค้กอินทผาลัม และชีสเค้กส้มซ่า ไว้ให้ลองชิมกันอีก ซึ่งใครที่อยากจะชิมขนมอร่อยๆ ที่มีแรงบันดาลใจจากท้องถิ่นใต้แบบนี้ ทั้งยังจะได้มีส่วนช่วยในการกระจายรายได้ให้ถึงมือเกษตรกรผู้ผลิตวัตถุดิบจากภาคใต้ที่ทางร้านเลือกใช้ ก็คงต้องไปอุดหนุนกัน

 

What Else You Should Know: 

  • น้ำตาลแว่น เป็นผลิตภัณฑ์แปรรูปมาจากน้ำตาลโตนดของชาวอำเภอสทิงพระ จังหวัดสงขลา ที่สืบทอดจากรุ่นสู่รุ่น อำเภอสทิงพระเป็นพื้นที่ซึ่งมีต้นตาลโตนดปลูกมากที่สุดในประเทศไทย การทำน้ำตาลแว่นนั้นจะต้องอุทิศทั้งเวลาและความอดทน โดยจะต้องเคี่ยวน้ำตาลโตนด เติมน้ำมันมะพร้าวเล็กน้อย เพื่อกันไม่ให้เกิดฟองยามเคี่ยว จากนั้นกวนจนหนืดเป็นสีน้ำตาลเข้ม นำมาตักหยอดลงในแว่นพิมพ์แล้ววางทิ้งไว้ให้เย็นลงจนแห้งเป็นแว่น ให้รสชาติที่หวานกลมกล่อมกว่าน้ำตาลทราย เหมาะสำหรับเป็นส่วนผสมในการทำขนม 
  • นอกจากเครื่องดื่มที่เราได้ชิมและลองแนะนำกันไปบ้างแล้ว ขมิ้นคาเฟ่ยังมีเครื่องดื่มอื่นๆ ใน Camin’s Collection ที่บาริสต้าสร้างสรรค์มาได้อย่างน่าสนใจ อาทิ The Lost Recipe (1,000 บาท) ที่ใช้กาแฟถึง 6 ช็อต บ่มในถังไม้กับกระชายดำและขมิ้นขาวถึง 5 วัน ทั้งยังมีสรรพคุณในการชูกำลังอีกด้วย, Sea Spinel(140 บาท) ที่เป็นกาแฟชงผสมกับผสมลูกหยีและนำมาเชกให้เกิดฟอง ซึ่งนอกจากจะมีทั้งความเข้มของกาแฟแล้ว ยังได้รสเปรี้ยวของลูกหยีด้วย นอกจากนี้ในขมิ้นคอลเล็กชันนี้ยังมีเครื่องดื่มที่น่าลองอีกหลายแก้ว รวมถึงกาแฟ Slow Bar แบบดริปและไซฟอนอีกด้วย

 

Open: ทุกวัน 08.00-19.00 น.

Address: 151/3 ซอยประเสริฐมนูกิจ 2 ถนนพหลโยธิน แขวงเสนานิคม เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร

Budget:เครื่องดื่มราคาเริ่มต้นที่ 20 บาท, ขนมราคาเริ่มต้นที่ 120 บาท

Contact: โทร. 09 5615 6615

Page: www.facebook.com/camin.cuisineandcafe.th

Map:

 

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0