โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

โอละพ่อ!! สาวเคอรี่ถูกชิงเงิน​ 1.8​ แสนที่แท้ร่วมพี่ชายก่อเหตุหลังนำเงินไปใช้หนี้จนเกือบหมด

Manager Online

เผยแพร่ 18 ก.ย 2562 เวลา 01.06 น. • MGR Online

ศูนย์ข่าว​ศรี​ราชา​- โอละพ่อ.. สาวเคอรี่ถูกชิงเงิน​ 1.8​ แสนบาทขณะยืนซื้อกล้วยทอดริมถนนใน​ อ.บ้านบึง​ จ.ชลบุรี​ ที่แท้ร่วมพี่ชายก่อเหตุชิงทรัพย์​ หลังนำเงิน​ 1.5 แสนบาทของบริษัทไปใช้หนี้จนไม่มีเงินนำเข้าบัญชี​ ตร.ตั้งข้อหาร่วมกันยักยอกทรัพย์พร้อมพ่วงแจ้งความเท็จสาวเคอรี่อีก​ 1​ กระทง

จากกรณีที่​ น.ส.พัชราภรณ์ ถนอมสัตย์ อายุ 29 ปี หัวหน้าพนักงานส่งสินค้า บริษัท​ เคอรี่ (ประเทศไทย)​ จำกัด​ ​สาขาหนองชาก ได้เข้าแจ้งความกับ พ.ต.ต.วันชัย แสงอ่วม พนักงานสอบสวน สภ.บ้านบึง ว่าถูกคนร้ายขี่รถจักรยานยนต์วิ่งราวกระเป๋าที่มีเงินจำนวน​ 1.8 แสนบาท​ และแหวนทอง1สลึง มูลค่า 5,700บาทหลบหนี​ เมื่อเวลา​ 10.30 ฯ.วันที่​ 16​ ก.ย.ที่ผ่านมานั้น

หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน​ ได้ลงพื้นที่ติดตามภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณจุดเกิดเหตุและใกล้เคียง​ ซึ่งก็พบว่าคนร้ายได้ขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า สีชมพู - ขาว หมายเลขทะเบียน 1 กย 244 ชลบุรี โดยมีนายประดิษฐ์​ ไขรัศมี อายุ 37 ปี ชาว​ อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี เป็นผู้ขับขี่จึงติดตามจับกุมตัวมาสอบสวน​ กระทั่งทราบว่าเป็นพี่ชายของผู้เสียหายที่เข้าแจ้งความกับตำรวจไว้ก่อนหน้า​ ที่สำคัญยังเคยทำงานด้วยกันแต่ลาออกไปก่อน

เย็นวานนี้​ (17​ ก.ย.)​ เจ้าหน้าที่จึงเรียก ตัว​ น.ส.พัชราภรณ์ พนักงานสาวเคอรี่มาสอบสวนเพิ่มเติมและแจ้งว่าสามารถจับตัว​คนร้าย​ได้แล้วแต่กลับแสดงอาการพิรุธ จึงทำการเค้นสอบนานกว่า 5 ชั่วโมง สุดท้ายจึงยอมรับสารภาพว่าร่วมกับพี่ชายวางแผนเชิดเงินบริษัท

โดย​ พ.ต.อ.ทวี กุดแถลง ผู้กำกับการ สภ.บ้านบึง เผยว่าหลังเกิดเหตุการณ์ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งรัดลงพื้นที่ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด จนกระทั่งจับตัวคนร้ายได้และให้ผู้เสียหายให้มาดูตัวแต่ปรากฏว่าเป็นเรื่องหนังคนละม้วน เพราะเนื่องจากผู้เสียหายเมื่อถูกแรงกดดันจากตำรวจอย่างหนักจึงทนไม่ไหว ยอมเปิดปากรับสารภาพว่าเป็นพี่น้องต่างบิดากับผู้ก่อเหตุ

และได้นำเงินจำนวน 150,000 บาทของบริษัทฯ ที่เก็บไว้เมื่อวันเสาร์ที่ ก.ย. ที่ผ่านมาไปใช้หนี้สิน​ เมื่อถึงวันจันทร์ที่จะต้องนำเงินทั้งหมดฝากเข้าบัญชีบริษัทจึงได้วางแผนให้มีคนร้ายกระชากกระเป๋า

เบื้องต้นจึงตั้งข้อหาร่วมกันยักยอกทรัพย์ ส่วน​ น.ส.พัชราภรณ์ ถูกตั้งข้อหาแจ้งความเท็จเพิ่มก่อนส่งตัวทั้ง​ 2​ ดำเนินการตามกฎหมาย

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0