โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

โอละพ่อ "ครูพละ" คดีข่มขืนศิษย์ส่อมีเบื้องหลัง

ช่อง 7

อัพเดต 18 มี.ค. 2562 เวลา 09.13 น. • เผยแพร่ 18 มี.ค. 2562 เวลา 09.13 น. • Ch7
โอละพ่อ "ครูพละ" คดีข่มขืนศิษย์ส่อมีเบื้องหลัง
โอละพ่อ "ครูพละ" คดีข่มขืนศิษย์ส่อมีเบื้องหลัง

เมื่อเวลา 14.00 น. ที่ สน.บางกอกน้อย พ.ต.อ.มนัส รุ่งนาค ผกก.สน.บางกอกน้อย เปิดเผยว่า จากการสอบถาม ร.ต.อ.ทวีสิน ศรีสุริยชัย รอง สว.(สอบสวน) สน. บางกอกน้อย ได้รับข้อมูลว่า กรณีครูพละในโรงเรียนแห่งหนึ่งย่านฝั่งธน ก่อเหตุข่มขืนกระทำชำเราเด็กนักเรียนหญิงหลายรายทราบว่า โดยกรณีดังกล่าว มีทั้งหมด 2 คดี โดยคดีแรก เป็นคดี ครูจีนที่ก่อเหตุข่มขืน เด็กนักเรียน ม.2 และ คดีที่ครูพละถูกใส่ร้ายว่ามีการกระทำชำเราเด็กนักเรียนหญิง ม.1 ซึ่งอยู่ในโรงเรียนเดียวกัน
พ.ต.อ.มนัส กล่าวว่า กรณีที่เป็นที่น่าสนใจในโลกออนไลน์ ตอนนี้มีความเข้าใจผิดไปในหลายประเด็นโดย อยากจะชี้แจงว่า กรณีที่มีครูการข่มขืนกระทำชำเราเด็กนักเรียนหญิงนั้น มีทั้งหมด 2 คดี โดยคดีแรก เหตุเกิดเมื่อเดือน ก.ค. ปี พ.ศ.2561 ครูจีน ได้ก่อเหตุข่มขืนกระทำชำเรา ด.ญ.เอ ( นามสมมติ) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 หลายครั้ง โดย ด.ญ.เอ ได้ปรึกษากับทางครูที่ปรึกษาประจำชั้น ว่าถูกครูจีนคนดังกล่าวข่มขืนกระทำชำเรา ทางครูที่ปรึกษาจึงได้นำเรื่องไปบอกผู้ปกครองของ ด.ญ.เอ จากนั้น ผู้ปกครอง ได้พา ด.ญ.เอไปตรวจร่างกาย ที่ โรงพยาบาลศิริราช ผลตรวจออกมาพบว่า ด.ญ.เอ ถูกข่มขืนกระทำชำเราจริง ทางครอบครัวจึงได้พา ด.ญ.เอ มา แจ้งความที่ สน.บางกอกน้อย
พ.ต.อ.มนัส กล่าวต่อว่า จากการสอบปากคำของ ด.ญ.เอ สอบทั้งหมด 3 ครั้ง ใน 2 ครั้งแรก ไม่สามารถสอบได้ เนื่องจาก ด.ญ.เอ สภาพจิตใจไม่พร้อม ร้องไห้ตลอดเวลา จึงไม่สามารถสอบปากคำได้ ในครั้งที่ 3 จึงต้องไปสอบปากคำที่ โรงพยาบาลศิริราช ซึ่ง ด.ญ.เอ ได้เล่าเรื่องราวให้ฟังทั้งหมด ว่า ถูกครูจีนกระทำชำเราจริง โดยในการสอบสวนนั้น ครูจีน ได้เดินทางมาสอบสวนด้วย เนื่องจาก ครูจีน มีความสนิทสนมกับทางครอบครัวของ ด.ญ.เอ มาก  โดย ขณะนี้ ทางพนักงานสอบสวน ได้เรียกครูจีนมาสอบปากคำแล้ว เบื้องต้น ครูจีน รับสารภาพว่า ก่อเหตุกระทำชำเรา ด.ญ. เอ จริง โดยในช่วงเย็นวันนี้ ครูจีน จะเดินทางมา พบ พนักงานสอบสวน สน.บางกอกน้อย เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติม  เบื้องต้น จะมีการแจ้งข้อหา พรากเด็กไม่เกิน 15 ปี ไปจากบิดามารดา
"ส่วนคดีที่ 2 ที่เป็นกระแสในโลกออนไลน์ ครูพละ ฉุดเด็กนักเรียนหญิง มัธยมศึกษาปีที่ 1 ไปข่มขืนกระทำชำเราในรถเบ็นซ์ ภายหลังจากทราบเรื่อง ในวันที่ 15 ม.ค. พ.ศ.2562 ผู้ปกครองของ เด็กนักเรียน ม.1 ที่ถูกอ้างว่า ถูกครูพละฉุดไปข่มขืนกระทำชำเราในรถเบ็นซ์ ทราบเรื่อง จึงได้แจ้งไปยังโรงเรียน ต่อมา ในช่วงเย็น ทางโรงเรียนได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนเรียก เด็กนักเรียน ม.1 คนดังกล่าว  และ ครูพละ มาสอบถาม ทราบว่า ทั้งคู่ ให้การว่า ไม่ได้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นจริง 
"ต่อมา วันที่ 16 ม.ค. ทางครูพละ ได้เดินทางมาเข้าพบ ร.ต.อ.มนัส พร้อมด้วย ครูอีก 4-5 ราย ที่มาเป็นพยาน โดยยืนยันว่า ครูพละไม่ได้มีพฤติกรรมดังกล่าว โดยจากการสอบปากคำของครูพละ ทราบว่า บุคคลที่ปล่อยข่าวดังกล่าวนั้น เป็นครู ที่สอนในโรงเรียนเดียวกัน ซึ่งสนิทสนมกันมากว่า 25 ปี แต่ภายหลัง เกิดความขัดแย้งกันในเรื่องการค้ำประกันรถยนต์ จึงทำให้ครูพละ เป็นหนี้ธนาคาร ทำให้ทะเลาะกัน จึงมีการกลั่นแกล้ง สร้างเรื่องราวดังกล่าวขึ้นมา เพื่อใส่ร้ายครูพละ โดยเฟซบุ๊กโพสต์เรื่องราวดังกล่าว มีการโพสต์รูปที่ ครูพละ ถ่ายกับภรรยาของตัวเอง เมื่อ 10 ปี ที่แล้ว โดยครูพละ ได้ส่งรูปให้กับ ครูคู่อริ ซึ่งคนที่จะปล่อยรูปนี้ได้ จะต้องเป็นครูคู่อริแน่นอน จากการสืบสวน ขณะนี้ทราบชื่อผู้ใช้เฟซบุ๊กดังกล่าวแล้ว แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ ส่วนเรื่องข้อความ ยอมรับว่ามีการคุยกับ นักเรียน ม.1 จริง แต่ไม่ได้คุยเชิงชู้สาว"
"การสอบสวนค่อนข้างเอนเอียงไปในเรื่องการใส่ร้าย กลั่นแกล้งกัน เนื่องจากโพสต์ดังกล่าว มีการแก้ไข ดัดแปลง ข้อความ 7-8 ครั้ง จากการสอบปากคำทั้งครู นักเรียน และผู้ปกครอง ทราบว่า ครูพละไม่ได้ก่อเหตุข่มขืนกระทำชำเรานักเรียนหญิง โดยขณะนี้ ยังไม่มีใครแจ้งข้อหาใดๆ แก่ครูพละ ซึ่งในวันที่ 16 มี.ค. ที่ผ่านมา ทางครูพละ จึงได้เดินทางมาแจ้งความกับเฟซบุ๊กที่โพสต์เรื่องราว ในข้อหา หมิ่นประมาทในการโฆษณา เนื่องจาก ทำให้ครูพละเสื่อมเสียชื่อเสียง"
พ.ต.อ.มนัส กล่าวอีกว่า โดยคดีทั้ง 2 คดี เป็นครูในโรงเรียนเดียวกัน และครูจีน ที่ถูกเข้าใจผิดว่าเป็นครูพละนั้น เนื่องจาก ครูจีนชอบออกกำลังกาย จึงทำให้หลายคนเกิดความเข้าใจผิดว่าเป็นครูคนเดียวกัน

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0