ในยุคที่ดิจิทัลและเทคโนโลยีเป็นตัวผลักดันให้ธุรกิจและผู้บริโภคเปลี่ยนไปอย่างหน้ามือเป็นหลังมือ ธุรกิจเอเย่นซี่โฆษณาในฐานะที่เป็นพาร์ทเนอร์กับแบรนด์หรือองค์กรก็ต้องปรับตัวอย่างหนักมากเช่นกัน อย่างเช่น โอกิลวี่ ประเทศไทย (Ogilvy) เอเย่นซี่โฆษณาและสื่อสารการตลาดชื่อดังในเครือ WPP เปิดแนวทางการปรับตัวครั้งใหญ่อีกครั้งนึงของบริษัท
นพดล ศรีเกียรติขจร ประธานร่วมกลุ่มบริษัท โอกิลวี่ ประเทศไทย (Ogilvy Thailand) เปิดเผยว่า “ในยุคที่เทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาเป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจและเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภคไปเป็นอย่างมาก การที่เราจะบรรลุเป้าหมายหลักคือการช่วยให้ลูกค้าสร้างแบรนด์ที่ครองใจตลาด หรือที่เราเรียกว่า Make Brand Matter เราต้องใช้เทคโนโลยีให้เกิดประโยชน์ โดยยึดหลักความเป็นเลิศด้านการสร้างสรรค์ (Creativity) ที่เป็นจุดแข็งของโอกิลวี่ หลายคนจะรู้จักว่าเราในฐานะคนทำหนังโฆษณาหรือแคมเปญ แต่หลังจากนี้เราจะก้าวข้ามจากการสื่อสารการตลาดไปสู่การทำงานครบวงจร (End-to-End) ที่จะสร้างประสบการณ์ให้ลูกค้า ช่วยให้แบรนด์สามารถสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นและนำไปสู่การสร้างธุรกิจ (Customer Engagement & Commerce) ด้วยการใช้เทคโนโลยีช่วยวิเคราะห์ข้อมูลต่างๆ เพื่อสร้างสรรค์งานด้านการสื่อสารการตลาด การสร้างคอนเทนท์ที่มีประสิทธิภาพและโดดเด่น เพื่อให้แบรนด์บรรลุเป้าหมายทางธุรกิจ และเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน”
รื้อใหม่ 6 เสาหลัก
นอกจากนี้ประการสำคัญของการข้ามมาสู่ End-to-End เพราะว่าเทรนด์ทั้งในเมืองนอกและในไทยเองเส้นการแบ่ง Specialist เริ่มเบลอมากขึ้นจนทำให้ Business consult , Communication consult , Technology consult ไม่เพียงแค่แข่งขันในกลุ่มตัวเอง แต่ยังแข่งขันข้ามนอกกลุ่มด้วย จึงเป็นจุดเริ่มต้นการเปลี่ยนแปลงของ Ogilvy ที่จะไม่ใช่แค่ Communication Agency เท่านั้น แต่เป็น End-to-End ที่ต้องแข่งขันกับ Consult ต่างๆด้วย
เพื่อทำให้บรรลุเป้าหมายการเป็น End-to-End consult ต้องมีการปรับโครงสร้างองค์กรใหม่ทั้งกรุ๊ปให้เป็น 6 ยูนิต ที่เป็นบริการหลักช่วยตอบโจทย์ทางธุรกิจให้กับลูกค้าในทุกๆด้าน ได้แก่ 1.Brand (สร้างแบรนด์) 2.Advertising (โฆษณา) 3. PR & Influence (พีอาร์) 4.Customer Engagement & E-Commerce (CE&C) 5. Digital Transfomation 6.Partnership
OgilvyOS อาวุธลับมัดใจลูกค้า
ทุกวันนี้โจทย์ทางการตลาดของลูกค้า/แบรนด์มีความซับซ้อนและยากมากขึ้น เพราะทั้งมีคู่แข่งมากขึ้นและมีเทคโนโลยีใหม่ๆทำให้ปัญหากระจายตัวเร็วมากขึ้น ดังนั้นลูกค้าจึงมาหาเอเยนซี่ไม่เพียงแต่โจทย์เรื่อง Brand Awareness แต่ยังรวมไปถึงการสร้าง Engagement และ Sales (ยอดขาย) ดังนั้นในแต่การงาน Ogilvy จึงใช้ข้อมูล(ดาต้า) ความคิดสร้างสรรค์ และ เทคโนโลยี (Data x Creativity x Technology) มาช่วยแก้ปัญหาให้บรรลุเป้าหมายของลูกค้าทุกระดับความต้องการ พร้อมกับใช้ OgilvyOS ระบบปฏิบัติการใหม่ที่จะช่วยทำให้ลูกค้าวางแผนและแก้โจทย์ได้เร็วและ Lean มากขึ้น ผ่านการรวมพลัง 6 ยูนิตที่กล่าวข้างต้น
OgilvyOS แบ่งออกเป็น 3 โปรแกรมที่ตอบโจทย์ลูกค้าในหลายรูปแบบที่จะให้ช่วยเหลือ 1.หากลูกค้าต้องการให้วางแผนระยะยาว (Platform) 2. วางแผนรายไตรมาส (Program) 3. กระตุ้นทันที (Pulse)
"และอีกหนึ่งเครื่องยืนยันระบบการทำงานของ Ogilvy มาถูกทางแล้ว คือ การได้รับรางวัลจาก วารสารแคมเปญบรีฟ เอเชีย (Campaign Brief Asia) วารสารที่ทรงอิทธิพลสูงสุดในวงการเอเจนซี่ของเอเชีย ได้จัดอันดับให้โอกิลวี่ ประเทศไทยเป็นอันดับ 3 ของเอเชีย และยกย่องครีเอทีฟจำนวน 3 คนให้อยู่ในระดับท็อป 10 ของเอเชียด้วย"
