จากกรณีคนร้ายขี่รถจยย.ประกบยิง นายโกวิทย์ หวังทวีทรัพย์ อายุ 53 ปี หัวหน้าโครงการจุฬาภรณ์พัฒนา 7 (อุทยานป่าไม้บาลาฮาลา) เสียชีวิตขณะขี่รถจยย.กำลังจะกลับบ้านพัก เหตุเกิดบริเวณถนนอาคารสงเคราะห์ 4 เขตเทศบาลนครยะลา อ.เมือง จ.ยะลา เมื่อวันที่ 5 ธ.ค.ที่ผ่านมา เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถระบุสาเหตุที่แน่ชัดว่ามาจากเรื่องส่วนตัวหรือเป็นการสร้างสถานการณ์ความรุนแรงในพื้นที่ ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถควบคุมตัวมือปืนและผู้ขับขี่รถจยย.คันที่ก่อเกตุ และลูกจ้างสาวโครงการจุฬาภรณ์พัฒนา 7 ที่สมรู้ร่วมคิดมาสอบสวน ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 14 ธ.ค. พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 พล.ต.อาคม พงศ์พรหม ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจยะลา นายชัยสิทธิ์ พานิชพงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ร่วมกันแถลงข่าวเกี่ยวกับคดีดังกล่าว โดยพล.ต.ท.รณศิลป์ กล่าวว่า ภายหลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้ทำการติดตามสืบสวนจากพยานหลักฐานที่ได้เป็นของกลางที่ในที่เกิดเหตุ หัวกระสุนปืนที่ศพ จำนวน 1 ชิ้น และตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดพบรถจยย.ต้องสงสัย 2 คัน ได้แก่ 1.รถจยย.ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ สีดำ ทะเบียน 1 กฌ 2949 ยะลา มีผู้หญิงเป็นผู้ขับขี่ โดยตรวจสอบชื่อผู้ครอบครอง นางสาวอาซีซะ กาหม๊ะ ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่บัญชีอยู่ที่สำนักงานป่าไม้จังหวัด คันที่ 2.รถจยย.ยี่ห้อยามาฮ่า จีที สีแดง-ดำ ไม่ติดกระจกมองหลังและไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน มีนายตรีย์นภัทร สุวรรณปฏิพัธ์ อายุ 33 ปี เป็นผู้ขับขี่ และด.ช.เอ (นามสมมุติ) อายุ 14 ปี นั่งซ้อนท้ายเป็นผู้ก่อเหตุยิงนายโกวิทย์ จึงได้ควบคุมตัวมาสอบสวนพร้อมของกลาง เสื้อผ้าที่สวมใส่ในวันก่อเหตุ รถจยย.ทั้ง 2 คัน หมวกกันน็อค และอาวุธปืนพกสั้นกึ่งอัตโนมัติ ขนาด 9 มม. ยี่ห้อบาเร็ตต้า สีดำ จำนวน 1 กระบอก ที่หลังก่อเหตุได้ถูกนำไปซุกซ่อนริมบ่อน้ำหลังบ้านเลขที่ 8 หมู่ 1 ต.วังพญา อ.รามัน จ.ยะลา ซึ่งอาวุธปืนดังกล่าวเป็นของสามีพี่สาวนางสาวอาซีซะที่เสียชีวิตแล้ว
จากการสอบสวนทราบว่า สาเหตุของการลงมือก่อเหตุในครั้งนี้มาจากความขัดแย้งจากการทำงานในสำนักงานปาไม้จังหวัด ซึ่งนางสาวอาซีซะ เป็นลูกน้องภายในที่ทำงานและหวังจะเลื่อนตำแหน่ง อีกทั้งการขัดผลประโยชน์ทางการเงินอีกบางส่วน จึงได้จ้างวานให้คนรู้จักคือ นายตรีย์นภัทร ร่วมก่อเหตุสังหารนายโกวิทย์ โดยนายตรีย์นภัทร ได้หลอกให้ ด.ช.เอ เป็นผู้ลงมือยิงนายโกวิทย์จนเสียชีวิต โดยพนักงานสอบสวนได้ขออนุมัติศาลจังหวัดยะลาออกหมายจับทั้งสามคน ในข้อหา ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ใครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร ทั้งนี้สรุปเหตุการณ์ดังกล่าว เป็นเรื่องความขัดแย้งส่วนตัว ไม่ใช้เหตุสถานการณ์ความมั่นคงในพื้นที่ ซึ่งผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมก็จะถูกดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป