วันนี้ (17 ต.ค.62) โลกโซเชียลแห่แชร์โพสต์ของสาวรายหนึ่ง ที่ใช้ชื่อเฟซบุ๊ก "Napha Mana" บอกเล่าถึงประสบการณ์การไปเที่ยวประเทศเม็กซิโก โดยระบุว่า อยากมาเเชร์ประสบการณ์ที่เกิดขึ้นให้เป็นอุทาหรณ์แก่ใครก็ตามที่คิดจะไป ขอออกตัวก่อนว่ามั่นใจในการเที่ยวระดับหนึ่งเลย เพราะหลายปีที่เที่ยวมาก็โดนมาเยอะแล้วเหมือนกัน ทั้งโดนตำรวจเรียกไปสอบที่นอร์เวย์ ที่เยอรมัน โดนกรีดกระเป๋าที่เวกัส โดนยกรถที่ซานฟราน โดนลักกระเป๋าตังค์ในรถไฟเอเธนส์ โดนแม้กระทั่งวัยรุ่นเมากัญชาขโมยไก่เคเอฟซีที่อัมสเตอร์ดัม ก็ไม่เคยกลัวหรือมีภาพในหัวฝังได้เท่าทริปนี้ที่ Mexico
เริ่มจากคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา ระหว่างที่นั่งกินข้าวเย็น ปลาหมึกยักษ์ตัวเท่าฝ่ามือ อร่อยมาก เพลินมาก ในร้านมีแค่โต๊ะเราเท่านั้น กับเชฟและเด็กเสิร์ฟ ร้านอาหารเป็นร้านเปิดไม่มีประตู อยู่ๆ มีผู้ชายสองคนเข้ามา คนนึงถือปืน คนนึงถือมีด ตอนนั้นคิดว่ามันอำ เล่นขำๆ สร้างสีสันยามค่ำคืน จนเห็นเชฟกับเด็กเสิร์ฟยกมือขึ้นเหนือหัวแบบว่ายอมแล้ว คิดในใจนี่ไม่ขำแล้วแหละ ตัวแข็งมือแข็งทำอะไรไม่ถูก
กระทั่งคนที่มีปืน เดินมาหาแล้วเอาปืนจ่อหัว แล้วหยิบโทรศัพท์ไป ในใจตอนนั้นรู้สึกเหมือนถูกพรากคนรัก เพราะใช้ชีวิตประจำวันอยู่กับโทรศัพท์มากกว่ามนุษย์จริงๆ จากนั้นเชฟเห็นเราช็อกเสียใจ เลยเข้ามาถามกูว่าเอาชามั้ย เหมือนซีนที่เพิ่งเกิดขึ้นเป็นเรื่องปกติชีวิตประจำวัน หลังจากนั้นรถตำรวจมาสามคัน มีตำรวจ 4 คน ไม่มีสักคนที่พูดภาษาอังกฤษ เหมือนมาเพื่อปลอบใจกูเท่านั้น ไม่ได้ต้องการจะตามคนร้ายหรือทำอะไรสักอย่าง
เมื่อใช้ Google คุยกับตำรวจ ตำรวจบอกว่าละแวกนี้อันตราย ปล้นนี่เรื่องเด็กๆ มากสุดวันนึงมี 8,000 เคส ยิงกันตายก็บ่อย เลยให้ตำรวจขับรถไปส่งที่พักอย่างช็อกๆ และหมดหวัง เช้าตื่นมายอมทิ้งที่พักที่จ่ายไปแล้วอีกคืนนึง แล้วกลับมานอนในเมือง หาที่พักใกล้ๆ บ้านประธานาธิบดี เหตุการณ์คืนนั้นตอบคำถามได้ครบว่าทำไมทุกตารางเมตรของ Mexico city ต้องมีตำรวจ ทุกตารางเมตรจริงๆ ขนาดร้านขายขนมปังยังต้องมีตำรวจเฝ้าสองคนหน้าประตู
แม้แต่โรงแรมก็ไว้ใจไม่ได้ เพราะโรงแรมที่อยู่ ดันไม่ให้เอากุญแจห้องของเราเองออกจากโรงแรม บอกว่าถ้าไปข้างนอกต้องทิ้งกุญแจไว้ที่โรงเเรม เพื่อความปลอดภัย ลงเอยด้วยการที่ต้องจ่ายเงินค่าโรงแรม แต่ต้องแบกกระเป๋าทุกอย่างออกไปด้วยเวลาไปข้างนอก กลับมานอนต้องเลื่อนตู้ไปกั้นประตู หลอนไปหมด ย้ำอีกทีระวังตัว ระวังของมากๆ พยายามอย่าออกไปหาอะไรกินตอนกลางคืน หลีกเลี่ยงร้านอาหารที่ไม่มีคน อย่าวางมือถือของมีค่าไว้บนโต๊ะ หรือที่ที่คนเห็นง่ายหยิบง่าย อย่าวางใจ ถ้าเกิดอะไรขึ้นมา แม้แต่ตำรวจก็ช่วยอะไรไม่ได้ นอกจากเข้ามาปลอบใจ พร้อมเสนอว่าเอาน้ำหรือโคล่าไหม
ประเทศนี้คนเยอะ ความขัดเเย้งเยอะ คนจน คนฆ่ากัน มาเฟีย มันหลายเรื่องมากจนการปล้นจี้กลายเป็นเรื่องเล็กๆ ตอนนี้ภาพในหัวยังหลอนไม่หาย ไม่เคยคิดว่าชีวิตจะมีคนมาเอาปืนจ่อหัว ทำตัวไม่ถูกไม่ได้เทรนด์มา กลายเป็นว่ารูปทุกอย่างที่กูถ่ายในทริปนี้ หายไปแบบยังไม่ทันได้โพสท์ มาเที่ยวแต่ไม่มีรูป คิดถึงโทรศัพท์มากๆ ราคาสามหมื่นกว่าบาทอยู่ไม่ถึงครึ่งปี ก็โดนลักพาตัวไปอยู่ในตลาดมืดซะแล้ว"