โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

โรงแรม B2 ลูกค้าวูบคาด เม.ย.ยอดเข้าพักเหลือ 20%

ประชาชาติธุรกิจ

อัพเดต 02 เม.ย. 2563 เวลา 10.10 น. • เผยแพร่ 02 เม.ย. 2563 เวลา 10.10 น.
18-5
เงียบเหงา - โรงแรมแบรนด์ B2 จำนวน 43 สาขาทั่วประเทศต่างได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิดทำให้จำนวนลูกค้าลดลงมาก

โรงแรม B2 ชี้ผลกระทบไวรัสโควิด-19 อัตราการเข้าพักทั้ง 43 สาขาทั่วประเทศเดือนมีนาคมหายไปกว่า 60% คาดสูญรายได้เดือนราว 10 ล้านบาท ตัวเลข “walk-in” ของลูกค้าทุกสาขาลดลงอย่างต่อเนื่อง ขณะที่การ booking ใหม่ไม่มีเลย แม้ลดราคาห้องพักเหลือเพียง 400 กว่าบาท แต่อัตราการเข้าพักลดลงทุกวันคาดเดือนเมษายนจะวิกฤตรุนแรงสุด อัตราเข้าพักอาจเหลือเพียง 20% เผยพนักงานกว่า 700 คนทั่วประเทศยังทำงานปกติ ได้รับเงินเดือนเต็มจำนวน พร้อมรอประเมินสถานการณ์ถึงสิ้นเดือนมีนาคมนี้ว่ารุนแรงมากขึ้นหรือไม่ และหากอัตราการเข้าพักยังดิ่งลง อาจต้องปรับแผนลดต้นทุน เผยพนักงานยินดีให้ลดเงินเดือน เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่าย

นายพิชัย จาวลา กรรมการบริหาร กลุ่มจาวลาเชียงใหม่ กรุ๊ป ผู้ประกอบการโรงแรมราคาประหยัด (boutique & budget hotel) ภายใต้แบรนด์“B2” เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ช่วงเดือนมีนาคม 2563 ถือเป็นช่วงเวลาที่วิกฤตที่สุดจากผลกระทบของไวรัสโควิด-19 โดยพบว่าอัตราการเข้าพักของโรงแรม B2 ทั้ง 43 สาขาทั่วประเทศ หายไป 60% และลดลงอย่างต่อเนื่องทุกวัน โดยทุกสาขามีตัวเลขการ “walk-in” ของลูกค้าลดลงอย่างต่อเนื่อง ขณะที่การจอง (booking) เข้ามาใหม่ไม่มีเลย ถือว่าเป็นวิกฤตที่ค่อนข้างหนักที่สุดตั้งแต่ทำธุรกิจโรงแรม B2 มากว่า 13 ปี จากปกติที่ช่วงนี้เป็นโลว์ซีซั่นจะมีอัตราการเข้าพักเฉลี่ย 70-75% ซึ่งขณะนี้ประเมินตัวเลขที่ลดลงเป็นวันต่อวัน คาดว่าสิ้นเดือนมีนาคมอัตราการเข้าพักของทุกสาขาทั่วประเทศจะเหลือเพียง 40% และคาดว่ารายได้เดือนมีนาคมจะหายไปราว 10 ล้านบาท

“วิกฤตสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในตอนนี้ ไม่ได้สะท้อนความอ่อนแอของธุรกิจ B2 เรายังเชื่อมั่นว่า สินทรัพย์เรามีคุณภาพ และแบรนด์เราแข็งแกร่ง แต่สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นเปรียบเหมือนอยู่ในภาวะสงคราม ทุกคนกลัวโดนระเบิด ไม่มีใครกล้าเดินทาง ต้องอยู่กับที่ ตอนนี้ยังดีที่เราพอมีตัวเลขการเข้าพักอยู่บ้าง ยังไม่เป็นศูนย์ แต่เราคงเลี่ยงผลกระทบนี้ไม่ได้ ถือว่าต้องอยู่กับความเป็นจริง และยอมรับให้ได้”

อย่างไรก็ตาม แม้ทางโรงแรมได้มีการปรับกลยุทธ์ทางการตลาด โดยปรับลดราคาห้องพักเหลือเพียง 400 กว่าบาท ซึ่งเกินกว่า 50% ของสาขาที่มีอยู่ทั้งหมดกระตุ้นด้วยราคานี้ แต่อัตราการเข้าพักยังคงลดลงอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ คาดว่าในช่วงเดือนเมษายนจะเป็นช่วงที่รุนแรงของสถานการณ์และจะวิกฤตที่สุด อัตราการเข้าพักคาดว่าจะเหลือเพียง 20-30% หรืออาจต่ำกว่านี้ ซึ่งหากตัวเลขการเข้าพักในเดือนเมษายนอยู่ในระดับนี้ คาดว่ารายได้ในเดือนเมษายนจะหายไปมากกว่า 10 ล้านบาท

นายพิชัยกล่าวว่า B2 ทั้งหมด 43 สาขาในปัจจุบัน แบ่งเป็นสาขาที่ทางกลุ่มจาวลาเชียงใหม่ กรุ๊ป ลงทุนเอง 39 สาขา และอีก 4 สาขาเป็น B2 ในรูปแบบ “เชนโรงแรม” ที่เปิดให้บริการแล้ว ได้แก่ แม่สอด ศรีราชา อมตะนคร (ชลบุรี) และนครศรีธรรมราช ทั้งนี้ ในส่วนของแผนงานปี 2563 ที่ทางกลุ่มจาวลาฯลงทุนขยายสาขาใหม่เพิ่มอีก 3 แห่ง ได้แก่ ขอนแก่น (สาขา 2) ริมน้ำปิงเชียงใหม่ (สาขา 2) และภูเก็ต (สาขา 2) ใช้เงินลงทุนรวมทั้งสิ้นราว 260 ล้านบาท จะยังคงเดินหน้าต่อ ซึ่งทั้ง 3 สาขาอยู่ระหว่างการก่อสร้าง และจะเปิดให้บริการตามที่กำหนดไว้คือราวปลายปี 2563 โดย B2 ภูเก็ต (สาขา 2) ถือเป็นสาขาที่ใช้เงินลงทุนมากที่สุด คือ 120 ล้านบาท เป็นโรงแรม 4 ดาวแห่งแรกของ B2 ขณะที่โรงแรมเชน ที่ทางกลุ่มจาวลาฯได้ลงนามเซ็นสัญญาบริหารโรงแรมภายใต้เชน B2 อีก 7 สาขา ได้แก่ สุรินทร์ ระยอง ฉะเชิงเทรา ห้วยขวาง-รัชดาฯ (กรุงเทพฯ) ดอนเมือง (กรุงเทพฯ) อ่าวนาง (กระบี่) และบางแสน (ชลบุรี) โดย 5 สาขาแรกจะเปิดให้บริการภายในปี 2563 และอีก 2 สาขา คือ อ่าวนาง และบางแสน จะเปิดบริการปี 2564 ซึ่งทุกสาขาทางกลุ่มผู้ลงทุนยังคงดำเนินโครงการตามปกติ

นายพิชัยกล่าวต่อไปว่า ขณะนี้ได้เน้นย้ำให้ B2 ทุกสาขาทั่วประเทศ มีมาตรการเข้มข้นเรื่องสุขอนามัย ทั้งการให้บริการเจลแอลกอฮอล์ล้างมือแก่ลูกค้าที่เข้าพัก การสอบถามประวัติการเดินทางของลูกค้า และการทำความสะอาดห้องพักและบริเวณอาคารด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ เพื่อสร้างความมั่นใจในเรื่องความสะอาด ขณะเดียวกัน ในส่วนของพนักงานกว่า 700 คนทั่วประเทศ ขณะนี้ยังคงทำงานตามปกติและได้รับเงินเดือนเต็มจำนวนตามปกติ อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นพนักงานทุกคนพร้อมที่จะให้มีการลดเงินเดือนเพื่อลดภาระต้นทุนของทางโรงแรม โดยทางผู้บริหาร B2 จะรอดูสถานการณ์จนถึงสิ้นเดือนมีนาคมนี้ว่า สถานการณ์จะรุนแรงมากขึ้นหรือไม่ และหากอัตราการเข้าพักยังคงดิ่งลงเรื่อย ๆ อาจต้องปรับแผนในส่วนของการลดต้นทุนค่าใช้จ่าย

ปัจจุบัน B2 มีจำนวนห้องพักมากกว่า 2,500 ห้อง มียอดขายราว 900,000 ห้องต่อปี มีจำนวนลูกค้าเข้าพักมากกว่า 1,500,000 คนต่อปี อัตราการเข้าพักช่วงไฮซีซั่นอยู่ที่ 90% และช่วงโลว์ซีซั่นอยู่ที่ราว 70-75% ลูกค้าหลักเป็นกลุ่มคนเดินทางทั้งกลุ่มองค์กรและคนทำงานราว 70% ส่วนตลาดกลุ่มท่องเที่ยวของ B2 มีทั้งคนไทยและต่างชาติ มีสัดส่วนราว 30% แต่จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้อัตราการเข้าพักของโรงแรม B2 ในเดือนมีนาคม ลดลงมากกว่า 60% และคาดว่าในเดือนเมษายนอัตราการเข้าพักอาจหายไปถึง 80%

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0